แนะนำ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี 2020 บอกลาผิวแห้ง ผิวมัน เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวหน้าสวยทุกองศา
มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือผลิตภัณฑ์ในการฟื้นบำรุงและดูแลผิวให้กลับมาสุขภาพดี ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคนที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องผิวแห้ง หรือผิวขาดความชุ่มชื้นจนเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ด้วยคุณสมบัติของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยในการปกป้องผิวหนังไม่ให้สูญเสียน้ำ และปกป้องผิวจากสิ่งรบกวนต่าง ๆ ทั้งมลภาวะและพฤติกรรมที่ไม่ดีของเราเอง พร้อมเรียกคืนผิวหน้าที่เนียนนุ่มชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ให้ผิวกลับมาสดใสได้อีกครั้ง
นอกจากนั้นโดยส่วนใหญ่มอยเจอร์ไรเซอร์ มักจะเติมสารบำรุงอื่น ๆ ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิว อาทิ วิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้ผิวดูกระชับขึ้นอย่างวิตามินเอ และวิตามินบี 5 พร้อมด้วยวิตามินซีและอี ที่สามารถปกป้องและป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูกทำลายอีกด้วยค่ะ ซึ่งวันนี้เราได้หยิบ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวดังที่ช่วยแก้ปัญหาผิว พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้กลับมามีสุขภาพดีได้อีกครั้ง รวมทั้งเทคนิคการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ตรงกับสภาพผิวของเราอีกด้วยค่ะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
มอยเจอร์ไรเซอร์คืออะไร
เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง ผิวเสีย กระทั่งขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจมีปัจจัยมาจาก อายุที่มากขึ้น โดนรังสี UV ทำร้าย และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีผลทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวและขจัดความมันบนผิวมากจนเกินพอดี ซึ่งในผู้หญิงบางคนอาการผิวแห้งอาจร้ายแรงไปจนทำให้เกิดอาการระคายเคือง อาการคัน ผิวหนังลอกเป็นขุย และเกิดการอักเสบได้เลยค่ะ ดังนั้นมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นตัวช่วยที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า จนไปถึงหน้าที่ในการเคลือบและกักเก็บน้ำที่อยู่ในชั้นผิวหนังของเราไม่ให้ระเหยออกไป ทั้งยังช่วยเป็นเกราะป้องกันให้เรามีชั้นผิวที่แข็งแรง และลดอาการระคายที่เกิดขึ้นบนผิวหน้าของเราได้อีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เราเห็นตามห้างร้านต่าง ๆ ได้มีการนำส่วนผสมที่เป็นสารออกฤทธิ์พิเศษ มาใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงและดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะ สารในกลุ่มกรด AHA ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ รวมไปถึงยังมีสารที่ช่วยให้ผิวหน้าสว่างและขาวขึ้น อย่างวิตามินซี (Vitamin C) และวิตามินอี (Vitamin E) อีกด้วย โดยข้อดีทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่ามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงและดูแลผิวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและมีความจำเป็นสำหรับคุณผู้หญิงทุกคนเลยค่ะ
…
ประเภทของมอยเจอร์ไรเซอร์
เนื้อครีม (Cream) เป็นชนิดที่มีความเข้มข้นมากที่สุดในบรรดามอยเจอร์ไรเซอร์ทั้งหมด และมีประสิทธิภาพในการคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของผิวแห้ง ขาดน้ำ และเกิดปัญหาหน้าลอก ซึ่งผู้ที่มีปัญหาผิวในลักษณะดังกล่าว หากใช้ชนิดที่มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างบางเบาเกินไปจะทำให้การฟื้นบำรุงผิวทำงานอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ และไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวหน้าของเราอีกด้วย โดยส่วนผสมสำคัญในมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทครีมนี้จะประกอบไปด้วยน้ำมันและน้ำ ซึ่งช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ ลดอาการระคายผิว แต่มีข้อเสียคือ ซึมซาบได้ช้ากว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดอื่นนั่นเอง ผู้ที่ลักษณะใบหน้าที่มันควรหลีกเลี่ยงเลยค่ะ เพราะว่าอาจทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ในที่สุด .
เนื้อเจล (Gel) เป็นชนิดที่เหมาะสำหรับผู้ที่สภาพผิวหน้าที่ค่อนข้างมันและเป็นสิว เนื่องจากสกินแคร์เนื้อเจลส่วนใหญ่มีส่วนประกอบเป็นน้ำ ซึ่งซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและง่ายกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดครีม นอกจากนั้นสกินแคร์ชนิดนี้อาจมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่น้อยหรือไม่มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่เลย (Oil-Free) จึงไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ลดปัญหาสิวจึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่ปัญหาผิวมันและผิวผสม แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงเพราะว่าประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นน้อยกว่าสกินแคร์ชนิดอื่น
ตารางสรุปข้อมูลมอยเจอร์ไรเซอร์แบบรวบรัด
..…
แนะนำ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี บอกลาผิวแห้ง ผิวมัน เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวหน้าสวยทุกองศา
มาถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรา กับ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อดังที่เราคัดสรรมาอย่างดี โดยเน้นทั้งการบำรุงและการให้ความชุ่มชื้น มาดูกันเลยค่ะว่ามีแบรนด์ใดบ้าง และเป็นแบรนด์ที่ตรงใจกับเพื่อน ๆ หรือไม่ ?
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ FRESH Vitamin Nectar Moisture Glow Face Cream ▲▲
….
….
สำหรับ FRESH Vitamin Nectar Moisture Glow Face Cream เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวดังที่ใครหลายคนอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้าง โดยครีมบำรุงตัวนี้เหมาะสำหรับการฟื้นฟูสภาพผิวที่ทรุดโทรมจากการทำงานหนักให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง โดยส่วนผสมหลักประกอบด้วย Proprietary Vitamin Fruit Complex ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นำเอาวิตามินซี (Vitamin C) วิตามินอี (Vitamin E) วิตามินบี 5 (VitaminB5) รวมทั้งสารสกัดจากส้มและมะนาว และแร่ธาตุต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยในการปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ ให้กลับมาสว่างกระจ่างใส แลดูเปล่งประกาย
พร้อมกันนั้นยังนำเอา Glucosyl Hesperidin ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีอยู่ในผลไม้ตระกูลส้ม ซึ่งช่วยในการกระชับผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทั้งกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือด ทำให้สภาพผิวที่เคยอ่อนล้า กลับมาเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล สำหรับรีวิวหลังจากใช้จริงเรียบร้อยแล้ว ด้วยเนื้อครีมที่บางเบา ซึบซาบเร็ว ใช้แล้วไม่รู้สึกเหนอะหนะที่หน้า แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผลลัพธ์ที่่ได้พบว่าผิวหน้าเนียนนุ่มมากขึ้น และดูขาวกระจ่างใสขึ้นพอสมควรเลยค่ะ แต่สำหรับสาวที่มีลักษณะผิวมัน หากใช้ในช่วงกลางวันจะทำให้ผิวมันขึ้นกว่าปกติเล็กน้อยค่ะ
ราคา | 1,980 บาท |
ขนาด | 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 39.6 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีม |
ส่วนผสมหลัก | Proprietary Vitamin Fruit Complex. Glucosyl Hesperidin |
แอลกอฮอล์ | ✓ |
น้ำหอม | ✓ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✘ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ CLINIQUE Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator ▲▲
….
….
มอยเจอร์ไรเซอร์ของ CLINIQUE ตัวนี้เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน หน้าลอกจนเป็นขุย เพราะครีมบำรุงของเราช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ด้วยเทคโนโลยี Auto-Replenishing ที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ที่ชั้นผิวของเราได้อย่างยาวนาน ซึ่งช่วยให้ผิวของเราดูอิ่มน้ำ มาพร้อมกับ Caffeine ที่สามารถป้องกันไม่ให้สูญเสียน้ำในผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวเนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระไม่ให้มาทำร้ายผิวหน้าของเราได้ นอกจากนั้นยังมีสารบำรุงพิเศษอย่าง Aloe Barbadensis Leaf Water ซึ่งเป็นสารสกัดจากน้ำว่านหางจระเข้ ที่ช่วยในการปลอบโยนผิวของเราให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ
ความพิเศษของ CLINIQUE Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ เพราะว่าเราสามารถนำเจลครีมมามาสก์หน้าได้ อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้บำรุงบริเวณผิวหนังที่แห้งกร้านเป็นพิเศษ อาทิ จมูกเล็บ ข้อศอก และหัวเข่า แถมยังนำมาใช้บำรุงเส้นผมที่แห้งและชี้ฟูได้อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่เราได้จากผู้รีวิวพบว่า ทันทีที่เจลครีมสัมผัสกับผิวหน้าจะรู้สึกเย็นสบายผิวทันที สำหรับคนที่ผิวขาดน้ำอย่างรุนแรงหลังจากใช้ไประยะหนี่งพบว่าผิวหน้าเริ่มเนียนนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นมาก แต่อาจจะรู้สึกว่าผิวยังคงแห้งอยู่ในบางครั้ง สำหรับสาวหน้ามัน ครีมบำรุงตัวนี้ไม่ทำให้หน้ามันเพราะมีเนื้อสัมผัสเป็นเจลครีม จึงสามารถใช้ในช่วงระหว่างวันได้
ราคา | 400/1,900 บาท |
ขนาด | 15 / 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 26.66 / 38 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อเจล |
ส่วนผสมหลัก | Auto-Replenishing Technology, Aloe Barbadensis Leaf Water, Caffeine |
แอลกอฮอล์ | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ PHILOSOPHY Take A Deep Breath Oil-Free Oxygenating Gel Cream ▲▲
….
….
มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาพร้อมความสามารถในการป้องกันผิวแห้ง ผิวเสียและหมองคล้ำจากทั้งความอ่อนล้า ความเครียด และมลภาวะ ด้วย Clean-Air Technology® ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Philosophy ด้วยเทคโนโลยีตัวดังกล่าวสามารถส่งออกซิเจนเข้าไปในผิวหนังของเรา ซึ่งจะช่วยในการดูดซับสารพิษที่ทำให้ผิวหน้าเสียหาย และเกิดอาการระคายเคืองต่าง ๆ จากมลภาวะในอากาศ พร้อมช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าของเราดูกระชับขึ้น ไร้ริ้วรอยมากวนใจ ทำให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่ง และมีสุขภาพที่ดีขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ ยังไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-Free) ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ทำให้เกิดการอุดตันจนทำให้เกิดปัญหาสิว สาวท่านใดที่มีปัญหาในเรื่องผิวมันสามารถใช้สกินแคร์ตัวนี้ได้นะคะ แล้วสำหรับรีวิวจากผู้ใช้จริงซึ่งเราพบว่าด้วยเนื้อเจลที่มีความบางเบา ไม่ทำให้หนักหน้า ซึบเข้าสู่ผิวได้ดี ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวดูกระชับ เนียนนุ่ม และเต่งตึงขึ้น หากใช้ก่อนแต่งหน้าทำให้เครื่องสำอางติดทน ไม่ลอกเป็นแผ่น ๆ ในช่วงระหว่างวัน แถมยังกลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งสาว ๆ หลายคนเลือกที่จะใช้ครีมตัวนี้ต่อไป เนื่องจากคุณภาพเหมาะสมกับราคา และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสุด ๆ ค่ะ
ราคา | 1,550 บาท |
ขนาด | 60 ml |
ราคาต่อหน่วย | 19.16 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อเจล |
ส่วนผสมหลัก | Clean-Air Technology |
แอลกอฮอล์ | ✓ |
น้ำหอม | ✓ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✘ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ DRUNK ELEPHANT Protini™ Polypeptide Cream ▲▲
….
.
DRUNK ELEPHANT เป็นแบรนด์น้องใหม่จากฝั่งอเมริกา แต่เราต้องยอมรับว่าสกินแคร์หลายตัวของแบรนด์นี้ใช้ดีและได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลจริง ๆ อย่างมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ก็เช่นกัน ด้วยความสามารถที่ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และกระชับขึ้น เนื่องจากมีส่วนผสมสำคัญอย่าง 9 Signal Peptide Complex เป็นกรดอะมิโนที่สามารถสร้างโปรตีนให้ผิวหนัง ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บน้ำไว้ในผิว และยังทำให้รูขุมขนดูเล็กลง พร้อมกันนั้นยังมี Pygmy Waterlily Stem Cell Extract ที่สามารถต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์เหมือนผิวเด็กอีกด้วยค่ะ
นอกจากนั้นยังเพิ่มสารบำรุงอื่น ๆ อย่างเช่น Soybean Folic Acid Ferment Extract ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันผิวสูญเสียน้ำจากการถูกแสงแดดเผาไหม้ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว แลดูเต่งตึงมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือ Acetyl Glutamine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญที่ช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่เสียหาย และยับยั้งการผลิตเมลานินที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำบนใบหน้า ผลลัพธ์จากผู้รีวิวมากมายบอกว่าผิวหน้าดูเรียบเนียนและนุ่มขึ้นมาก ทั้งยังรู้สึกว่าผิวดูสว่างมากยิ่งขึ้น แต่ว่าผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรระมัดระวังในการใช้งานเนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ค่ะ
ราคา | 2,390 บาท |
ขนาด | 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 47.8 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีม |
ส่วนผสมหลัก | 9 Signal Peptide Complex, Pygmy Waterlily Stem Cell Extract, Soybean Folic Acid Ferment Extract, Acetyl Glutamine |
แอลกอฮอล์ | ✓ |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✘ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ ORIGINS Ginzing™ Oil-Free Energy-Boosting Gel Moisturizer ▲▲
….
….
ORIGINS Ginzing™ Oil-Free Energy-Boosting Gel Moisturizer เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวดังอีกหนึ่งตัว ที่สามารถฟื้นฟูผิว ให้เนียนนุ่มดูอิ่มน้ำ ด้วย Hydra-Hug™ Technology ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหน้าของเราสูญเสียความชุ่มชื้น และคงความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน มาพร้อมกับ Energy-Boosting Caffeine ซึ่งเป็นสารสกัดจากเมล็ดกาแฟ ที่สามารถฟื้นฟูและบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี สุดท้ายคือ Panax Ginseng หรือโสมนั่นเอง ซึ่งช่วยทำให้ผิวหน้าของเราดูสดใสเป็นธรรมชาติ และดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-Free) ซึ่งไม่ทำให้เกิดการอุดตันของผิวหนัง และไม่ทำให้เกิดสิว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันหรือผู้ที่มีผิวปกติก็สามารถใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ได้ ผลลัพธ์ที่ได้จากผู้ใช้จริงพบว่า ด้วยเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ และหน้าไม่มันในช่วงระหว่างวันอีกด้วยค่ะ ซึ่งหลังจากใช้แล้วไปสักพักก็รู้สึกว่ารอยดำดูจางลง ผิวหน้าดูเนียนเรียบมากขึ้น และรูขุมขนก็ดูเล็กลงอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งขั้นรุนแรงอาจจะไม่เหมาะกับสกินแคร์ตัวนี้ เนื่องจากบางรีวิวเคลมว่า ยังไม่เห็นผลลัพธ์เท่าที่ควรค่ะ
ราคา | 950/1,450 บาท |
ขนาด | 30 / 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 31.6 / 29 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อเจล |
ส่วนผสมหลัก | Energy-Boosting Caffeine, PanaxGinseng, Hydra-Hug™ Technology |
แอลกอฮอล์ | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา ผิวมัน |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ BIOSSANCE Squalane + Probiotic Gel Moisturizer ▲▲
….
….
สำหรับใครที่ผิวขาดน้ำขั้นสุด ขอแนะนำมอยเจอร์ไรเซอร์จากสหรัฐอเมริกาตัวนี้ค่ะ ที่จะช่วยลดความหมองคล้ำให้แก่ผิว คืนผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส ด้วยส่วนผสมที่ใส่เข้ามาอย่างจัดเต็มภายในผลิตภัณฑ์กระปุกนี้ ประกอบไปด้วย Probiotic ที่ช่วยในการปรับสมดุลให้แก่ผิว ฟื้นฟูให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น มาพร้อม Ginger Extract ที่ช่วยในการลดรอยแดง และอาการระคายเคืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหน้า เสริมทัพด้วย Red Seaweed ที่ช่วยปลอบโยนผิวหน้าที่ทั้งเหนื่อยและล้าในช่วงระหว่างวันให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และสุดท้าย Swiss Garden Cress Sprouts ที่ช่วยในการลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มความสว่างกระจ่างใสให้ผิว
นอกจากนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ยังไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่าง ๆ อาทิ แอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน ผู้ที่แพ้สารเคมีดังกล่าวสามารถใช้ได้ค่ะ สกินแคร์ตัวนี้มาในรูปแบบเจล ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันบนผิวหน้า และไม่ทำให้เกิดสิว โดยเสียงจากผู้ใช้จริงพบว่า หลังจากใช้สกินแคร์ตัวนี้แล้วรู้สึกผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น รวมทั้งเนื้อเจลซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว และไม่ทำให้หน้ามันในระหว่างวัน นอกจากนั้นยังรู้สึกได้ว่าผิวดูขาวขึ้น รอยดำที่เกิดจากสิวดูจางลงหลังจากใช้เพียงไม่นาน และยังทำให้ผิวหน้าก็กลับมามีแข็งแรงได้อีกครั้งค่ะ
ราคา | 1,900 บาท |
ขนาด | 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 38 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อเจล |
ส่วนผสมหลัก | Probiotic, Ginger Extract, Red Seaweed. |
แอลกอฮอล์ | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ CUREL Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream ▲▲
….
มอยเจอร์ไรเซอร์ CUREL Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream สามารถแก้ปัญหาผิวแห้งจนลอกเป็นขุย เนื่องจากมีส่วนผสมสำคัญ อย่าง Ceramide Care Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้าไปกระตุ้นให้ผิวสร้างเซราไมค์ขึ้นมาเอง โดยจะทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น ดูแข็งแรง และมีสุขภาพดี ทั้งยังลดปัญหาผิวแพ้ง่ายและหน้าลอก เสริมทัพด้วย สารสกัดจากใบของต้นยูคาลิปตัส (Eucalyptus Globulus Leaf Extract) มีหน้าที่ช่วยทำให้ผิวหน้าของเราดูเต่งตึง และดูกระชับขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นสูตรที่มี pH-Balanced และเป็น Hypoallergenic ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังอีกด้วยค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามในมอยเจอร์ไรเซอร์ในกระปุกนี้มีส่วนผสมของพาราเบน หากผู้ใดแพ้สารเคมีชนิดนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานค่ะ รวมถึงรีวิวของสาว ๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์กระปุกนี้ บอกเลยนะคะว่า หลังจากใช้แล้วสิ่งที่ได้รับคือ ผิวหน้าดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และก็ยังดูสดชื่นมีชีวิตชีวา แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ในเรื่องความกระจ่างใสมากเท่าที่ควร สำหรับสาวผิวมันหากต้องการใช้จริง ๆ ควรใช้ในเวลากลางคืนเท่านั้น หากใช้ในช่วงระหว่างวันอาจทำให้เกิดปัญหาหน้าเยิ้มได้ค่ะ
ราคา | 850 บาท |
ขนาด | 40 g |
ราคาต่อหน่วย | 21.25 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีม |
ส่วนผสมหลัก | Ceramide Care Technology, Eucalyptus Globulus Leaf Extract |
แอลกอฮอล์ | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✓ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✘ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ MizuMi Dry Rescue Intense Melt-In Cream ▲▲
….
….
มอยเจอไรเซอร์ของผู้หญิงที่มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำมาแล้วค่ะ สำหรับ MizuMi Dry Rescue Intense Melt-In Cream ซึ่งเป็นมอยเจอไรเซอร์แบบเข้มข้น ที่สามารถคงความชุ่มชื้นไว้ในชั้นผิวของเราอย่างยาวนาน เนื่องจากประกอบไปด้วย Aquaxyl เป็นสารประกอบของน้ำตาลที่มีความเข้มข้นเถึง 3% ซึ่งช่วยรักษาและปกป้องน้ำที่อยู่ในผิวเพื่อลดความแห้งกร้านให้ผิวหน้าเนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วย 3D Hyaluron ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บน้ำให้อยู่ในชั้นผิวของเรา พร้อมคงความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำยาวนานมากขึ้น และทำให้ผิวดูแข็งแรงขึ้นไม่เกิดการอักเสบได้ง่าย และสุดท้าย Bio-P Exopolysaccharide ซึ่งเป็นสารสกัดจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ ซึ่งช่วยในการปกป้องผิวจากมลภาวะ รวมถึงฝุ่นละอองจาก PM 2.5 อีกด้วยค่ะ
นอกจากนั้นมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ยังสามารถใช้ทาบริเวณผิวหนังที่มีความแห้งกร้านพิเศษได้อีกด้วย จะว่าจะเป็น ต้นขา มือ ข้อศอก หัวเข่า รวมทั้งบริเวณสะโพก เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากผู้ใช้จริงมากมายบอกว่า เนื้อครีมสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และมีใบหน้าอิ่มฟูเปล่งประกายมากขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งเมื่อใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวที่เคยแห้งชุ่มชื้นขึ้นมาก อาการคันจนเป็นรอยแดง หรืออาการอักเสบต่าง ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
ราคา | 449 บาท |
ขนาด | 45 ml |
ราคาต่อหน่วย | 9.9 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีม |
ส่วนผสมหลัก | Aquaxyl, 3D Hyaluron, Bio-P Exopolysaccharide |
แอลกอฮอล์ | ✓ (Cetearyl Alcohol แอลกอฮอล์ชนิดที่ดีต่อผิว) |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ Neutrogena Facial Moisturizer Hydro Boost Water Gel ▲▲
….
มอยเจอร์ไรเซอร์ Neutrogena Facial Moisturizer Hydro Boost Water Gel เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ เนื่องด้วยมีส่วนสำคัญอย่างไฮยาลูรอนบริสุทธิ์ (Purified Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นให้แก่ผิว รวมทั้งป้องกันการสูญเสียน้ำภายในชั้นผิว ให้ผิวยังคงดูอิ่มน้ำตลอดเวลา มาพร้อมกับ Anti Oxidant Olive Extract หรือสารสกัดจากใบมะกอกทำหน้าที่ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยผิวกระชับและแข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งช่วยป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำลายจากมลภาวะต่าง ๆ อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี Moisturizer Complex ซึ่งทำหน้าที่ตรวจหาและปรับสภาพผิวให้ดูชุ่มชื้นขึ้นจากโครงสร้างชั้นในของผิวเลยค่ะ โดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวนี้ไม่ส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-Free) จึงทำให้ไม่เกิดการอุดตันภายในรูขุมขน ไร้กังวลเรื่องสิว สำหรับรีวิวจากผู้ใช้จริง ผลลัพธ์ที่ได้พบว่าช่วยทำให้ผิวดูอิ่มน้ำขึ้นจริง ๆ ใบหน้าดูนิ่มขึ้นด้วย ทั้งยังซึบซาบได้ไว ไม่หนักหน้า สามารถใช้ได้ทั้งตอนเข้า และก่อนนอนค่ะ อีกทั้งราคาและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถหาซื้อมาใช้ได้ในราคาที่ไม่แรงมากค่ะ
ราคา | 428 บาท |
ขนาด | 50 g |
ราคาต่อหน่วย | 8.56 บาท ต่อ g |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อเจล |
ส่วนผสมหลัก | Purified Hyaluronic Acid, Anti Oxidant Olive Extract |
แอลกอฮอล์ | ✘ |
น้ำหอม | ✓ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✘ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง |
.
▼▼ มอยเจอร์ไรเซอร์ CeraVe Moisturising Cream ▲▲
….
….
มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาผิวแห้งมากจนเกิดอาการคัน เป็นผื่นจนกระทั่งผิวหนังอีกเสบ ด้วยส่วนประกอบสำคัญมากมาย อย่าง ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว และทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ มาพร้อมกับเซราไมด์ (Ceramide) ถึง 3 ชนิด ทำหน้าที่ฟื้นฟูและบำรุงผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และมีสุขภาพที่ดี โดยจะทำงานควบคู่กับ Multi-Vesicular Emulsion (MVE) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการผลักส่วนผสมทั้งสองให้กระจายและซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างต่อเนื่องโดยทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าวยังปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) และน้ำหอม จึงไม่ก่อให้การอุดตัน และปลอดภัยจากอาการแพ้หรือระคายเคืองต่าง ๆ ดังนั้นคนที่มีผิวบอบแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ โดยผลลัพธ์จากผู้ใช้จริงที่เห็นได้อย่างชัดเจนพบว่า เนื้อครีมมีความเข้มข้นมาก และไม่เหนียวเหนอะหนะ ทั้งยังทำให้ผิวหน้าดูนิ่มฟู และชุ่มชื้นขึ้นมาก ๆ โดยสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย หากมีบริเวณใดบนร่างกายของเราแห้งกร้านก็สามารถหยิบมาทาได้ในทันทีก็จะช่วยให้บริเวณที่แห้งกร้านดูนุ่มและเนียนเรียบมากยิ่งขึ้นค่ะ
ราคา | 156 บาท |
ขนาด | 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 3.12 บาท ต่อ ml |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีม |
ส่วนผสมหลัก | Ceramide, Hyaluronic Acid |
แอลกอฮอล์ | ✓ (Cetearyl Alcohol แอลกอฮอล์ชนิดที่ดีต่อผิว) |
น้ำหอม | ✘ |
พาราเบน | ✘ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง – แห้งมาก, ผิวแพ้ง่าย |
.
เลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว
ก่อนที่เราจะเลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวนั้น สิ่งที่ควรต้องทำคือเราต้องสังเกตสภาพผิวของตนเองเสียก่อนว่าตนเองนั้นมีลักษณะของผิวเป็นเช่นไร เพื่อดึงประสิทธิภาพของการบำรุงมาใช้ได้อย่างเต็มขั้น โดยที่ไม่ทำให้เกิดผลเสียที่ตามมาต่อผิวของเรา ซึ่งมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ …..
ผิวแห้ง
ปัญหาที่สาวผิวแห้งต้องประสบพบเจออยู่บ่อย ๆ คือ ผิวที่ไม่ค่อยดูดซับความชื้น และสูญเสียน้ำได้ง่าย เป็นเหตุให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน และเป็นขุย จนเกิดอาการคัน และระคายเคือง ยิ่งในฤดูหนาวผิวหน้าที่แห้งอยู่แล้วอาจจะแห้งอย่างรุนแรงจนผิวหนังอักเสบได้เลยค่ะ โดยสาเหตุอาจเกิดจากสภาพอากาศที่หนาวเกินไป อาบน้ำร้อนจัด รวมทั้งอาจเกิดขึ้นจากพันธุกรรม และอายุที่มากขึ้น
สำหรับการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ของสาวผิวแห้งควรมีลักษณะเป็นเนื้อครีมซึ่งมีความเข้มข้นสูงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี รวมทั้งควรมีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ อย่าง เซราไมด์ (Ceramide)ที่ช่วยในการแก้ปัญหาผิวแห้งได้ดีเยี่ยมที่สุด และยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้อยู่บนชั้นผิวได้อย่างยาวนาน รวมทั้งกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยคงชุ่มชื้นให้อยู่ในชั้นผิวโดยการกักเก็บน้ำปริมาณมากให้อยู่ภายใน โดยทั้งสองสามารถแก้ปัญหาในเรื่องผิวแห้งได้อย่างดีจึงมักถูกนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งจากการสูญเสียน้ำค่ะ
.
ผิวมัน / ผิวแน้วโน้มเป็นสิวง่าย
ปัญหาผิวมันมักเกิดจากผิวหนังผลิตไขมันออกมาปริมาณมาก เป็นเหตุให้หน้ามัน รูขุมขนกว้างขึ้น รวมถึงมีลักษณะผิวที่มีแนวโน้มเกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ง่าย จึงจำเป็นต้องดูแลในเรื่องของความสะอาดเป็นพิเศษเพื่อลดการอุดตันที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับสาวผิวมันควรมีลักษณะเป็นเนื้อเจล เนื่องจากมีลักษณะเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างบาง ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) และไม่ทำให้เกิดการอุดตัน
รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของสาวผิวมันต้องไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน เนื่องจากเป็นสารที่สามารถเข้าไปอุดตันที่รูขุมขนของเราได้ รวมถึงสาวผิวมันที่ประสบปัญหาสิว ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid, Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ซึ่งทำหน้าที่ลดอาการอักเสบ และสลายการอุดตันของสิวได้อีกด้วย นอกจากนั้นสิ่งที่สาวผิวมันควรทำคือดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ เพื่อช่วยระบบขับถ่ายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น และทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากภายใน พร้อมหลีกเลี่ยงแสงแดด ทำความสะอาดใบหน้า และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็สามารถช่วยลดปัญหาหน้ามันได้ค่ะ
.
ผิวผสม
ผิวผสมเป็นผิวที่มีลักษณะไม่มัน และไม่แห้งจนเกินไป ซึ่งบริเวณที่มีความมันมักอยู่ในบริเวณทีโซน ได้แก่ (หน้าผาก จมูก และคาง) โดยบริเวณกล่าวรูขุมขนของเราจะกว้างมากเป็นพิเศษอีกด้วย ด้วยความที่เรามีลักษณะผิวทั้งสองแบบ ทำให้เราจำเป็นต้องดูแลผิวทั้ง 2 บริเวณแตกต่างกัน โดยบริเวณที่มีลักษณะผิวที่แห้งสามารถใข้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบปกติเพื่อให้ผิวในส่วนนั้นมีความชุ่มชื้น และสำหรับบริเวณทีโซนควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) เพื่อป้องกันการอุดตันบริเวณรูขุมขน และเน้นทำความสะอาดผิวด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนต่อผิวหนัง เพื่อลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
.
ผิวแพ้ง่าย
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่เราจำเป็นต้องดูแลและเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากเมื่อมีสิ่งเร้าภายนอกมากระทบกับผิวของเราก็อาจจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย โดยมักจะมีอาการเป็นผื่น คัน และเกิดรอยแดง สิ่งสำคัญที่สาวผิวแพ้ง่ายต้องสังเกตให้ดี คือส่วนผสมที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์ว่ามีสารอันตรายที่สามารถเข้ามาทำปฏิกิริยากับผิวของเราได้หรือไม่ โดยเริ่มแรกภายในผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีส่วนผสมของสารกันเสียอย่างพาราเบน สารกลุ่มซัลเฟต (SLS และ SLES) รวมทั้งน้ำหอม และแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำเกิดอาการแพ้และทำให้ผิวของเราบอบบางมากยิ่งขึ้น
นอกนั้นมองหาสาร 5 ตัวแรกซึ่งเป็นส่วนผสมที่ใส่มาเยอะที่สุดในผลิตภัณฑ์ (Active Ingredients) โดยมักจะเรียงจากส่วนผสมที่มีปริมาณมากที่สุดไปน้อยที่สุด โดยดูว่ามีส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ โดยเฉพาะกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) และกรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้มักช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ขจัดแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าของเราบอบบางและเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย นอกจากนี้ ควรระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล (Retinol) ที่มีหน้าที่ในการป้องกันสิวซึ่งเป็นส่วนผสมที่ทำให้ผิวของเราแพ้หนักมากกว่าเดิม หากต้องการส่วนผสมที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเรตินอล สาวผิวแพ้ง่ายสามารถใช้บากูชิล (Bakuchiol) แทนได้เนื่องจากไม่ทำให้ผิวแพ้ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังอีกด้วยค่ะ
.
วิธีการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์
เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากจะเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ตรงกับลักษณะผิวของเราแล้ว ลำดับการลงสกินแคร์มีส่วนสำคัญที่ทำให้การบำรุงของเรานั้นได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม หากถามว่าการลงมอยเจอร์ไรเซอร์อยู่ลำดับที่เท่าไหร่ของการบำรุงเราจะมาอธิบายขั้นตอนแบบง่าย ๆ กันค่ะ
- ช่วงเช้า: เริ่มด้วยคลีนเซอร์เป็นอันดับแรกเพื่อทำความสะอาดผิว ตามด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุง สำหรับสาว ๆ บางคนอาจมีผลิตภัณฑ์บำรุงแบบเฉพาะจุดแต้มลงบนผิวหนังเป็นลำดับต่อมา และเพื่อฟื้นบำรุงผิวอย่างเต็มขั้นควรบำรุงผิวด้วยเอสเซนส์ / เซรั่ม ต่อด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ในลำดับที่ห้าเพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นลดความแห้งกร้าน และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือครีมกันแดดที่ควรทาเป็นประจำเมื่อต้องนอกบ้านค่ะ
- ก่อนนอน: ขั้นตอนการบำรุงผิวก่อนที่เราจะเข้านอนจะมีความคล้ายคลึงกับช่วงเช้าโดยจะเพิ่มการใช้ Makeup Remover เพื่อล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในชั้นผิว ตามด้วยคลีนเซอร์ทำความสะอาดผิวหน้าอีกชั้นเพื่อให้ผิวหน้าสะอาดอย่างหมดจด ปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์อีกครั้งเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเฉพาะจุด บำรุงผิวอย่างล้ำลึกด้วยเอสเซนส์ / เซรั่ม ก่อนนอนเราจะลงมอยเจอร์ไรเซอร์ในลำดับที่หกเพื่อเคลือบผิวไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นในระหว่างที่นอนหลับ และสุดท้ายอาจลง Sleeping Mask ซึ่งเป็นมาส์กแบบไม่ต้องล้างออกเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้นกว่าเดิม และได้ผิวที่สดใสเปล่งปลั่งทันทีที่ตื่นลืมตา
.
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
สุดท้ายและท้ายสุดแล้วนะคะ สำหรับการบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งเสียและขาดน้ำ โดยเรามองว่ามอยเจอร์ไรเซอร์มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับผู้หญิงทุกคน และขาดไม่ได้โดยเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะว่ายามที่เราต้องออกจากบ้าน เราต้องเอาผิวหน้าของเราไปสัมผัสกับมลภาวะและแสงแดด รวมทั้งยังต้องเผชิญกับความเครียดที่ถาโถมเข้ามาเป็นเหตุให้ผิวเสีย หมองคล้ำ มีริ้วรอยและเหี่ยวย่นได้ง่าย การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จึงเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทำให้ผิวหน้าของเรายังดูอิ่มน้ำ มีชีวิตชีวาแม้จะต้องเผชิญกับสิ่งที่ทำร้ายผิว นอกจากนั้นการดูแลตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอก็ช่วยให้ผิวของเรามีสุขภาพดีเช่นเดียวกันค่ะ