สายบิวตี้ต้องโดน 15 ไอเทมแนะนำจาก Sephora ปี 2020 จากบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลก
Sephora หรือ เซโฟร่า หนึ่งในผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากฝรั่งเศส เป็นการรวบรวมแบรนด์ต่าง ๆ ไว้ด้วยกันเพื่อให้ผู้ซื้อประหยัดเวลาและสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า เซโฟร่าเป็นที่นิยมอย่างมากในเมืองไทยและต่างประเทศ เพราะมีมากถึง 2,600 สาขา ใน 34 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนของโลกก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะหาซื้อสกินแคร์หรือเครื่องสำอางไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียที่มีมากกว่า 200 สาขา และภายใน 1 สาขามีการรวบรวมผลิตภัณฑ์ความงามถึง 200 แบรนด์เลยทีเดียว
ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้นำด้านความงามและแฟชั่นเป็นผู้ให้กำเนิดเซโฟร่าขึ้นในปี 1970 โดยที่นาย Dominique Mandonnaud ประธานผู้ก่อตั้งเซโฟร่า ได้มีวิสัยทัศน์อย่างกว้างไกลในเรื่องความงามและแฟชั่น จึงสร้างธุรกิจที่ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้าได้เองอย่างอิสระ อีกทั้งได้วางตัวทดลองสินค้าให้ลูกค้าตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ที่มีทั้งเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม สกินแคร์ หรือแม้แต่น้ำหอมก็ตาม และในทางเดียวกันเซโฟร่ายังได้มีสินค้าแบรนด์ตัวเองอีกด้วย ซึ่งก็เป็นที่นิยมไม่แพ้สินค้าจากเคาน์เตอร์แบรนด์เลยค่ะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
ทำไมถึงต้องเป็นลูกค้าของเซโฟร่า ?
มีหลากหลายเหตุผลสำหรับการเป็นลูกค้าของเซโฟร่าที่วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะ อย่างแรกคือ มั่นใจได้ในประสิทธิภาพของสินค้าได้ว่าเป็นของแท้และเชื่อถือได้อย่างแน่นอน แต่หากคุณเป็นมือใหม่หัดแต่งหน้าก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเซโฟร่ามีผู้ช่วยประจำจุดต่าง ๆ ภายในร้าน มาช่วยคุณเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมสำหรับใบหน้าและสภาพผิว เพราะเซโฟร่าเค้าได้เทรนพนักงานมาอย่างดีให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในระหว่างการเลือกซื้อสินค้า
นอกจากนี้ เซโฟร่ายังมีบัตรสมาชิกที่มีชื่อว่า Beauty Pass เป็นบัตรสมาชิกที่ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ซื้อสินค้าเลย กล่าวง่าย ๆ คือ การสะสมคะแนนจากการซื้อสินค้าทุก ๆ 25 บาท ลูกค้าจะได้แต้มสะสม 1 คะแนน คะแนนที่สะสมนี้สามารถใช้แลกเป็นผลิตภัณฑ์ในร้านค้าเซโฟร่าได้อีกด้วย และยังมีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางเซโฟร่าจัดขึ้น รับของขวัญภายในเดือนเกิด หรือแม้กระทั่งบริการแต่งหน้าฟรี 1 ครั้งต่อเดือนสำหรับบัตรสมาชิกระดับ Gold ด้วยค่ะ
บัตรสมาชิกของเซโฟร่าที่ออกโดยประเทศไทยสามารถใช้ได้ถึง 7 ประเทศร่วมกัน คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย และจีน สะดวกมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ? ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนก็สามารถใช้บัตรใบเดียวกันในการซื้อของได้อย่างอิสระพร้อมทั้งได้คะแนนสะสมอีกด้วย
…
ตารางสรุป 15 ไอเทมแนะนำจาก Sephora
…
สายบิวตี้ต้องโดน 15 ไอเทมแนะนำจาก Sephora ปี 2020 จากบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลก
ทางเราได้รวบรวมสินค้ายอดฮิตจากเซโฟร่าจากช่วงต้นปี 2020 ที่บิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลกยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มค่าแก่การซื้อมาไว้ด้วยกันซึ่งจะมี สกินแคร์ เครื่องสำอาง เครื่องล้างหน้าหรือแม้กระทั่งคลีนซิ่งอีกด้วย มาดูกันสิคะ ว่ามีตัวไหนเป็นลูกรักของใครกันหรือเปล่าเอ่ย ?
.
▼▼ Pixi Glow Tonic ▲▲
…..
…..
สาว ๆ รู้ไหมคะ ว่าการมีโทนเนอร์ที่ดี เป็นการช่วยให้ครีมบำรุงหน้าที่เราใช้อยู่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับสาว ๆ ทุกสภาพผิว แต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสาวผิวมันและผิวแพ้ง่าย เนื่องจากรูขุมขนอาจมีการอุดตันของสิ่งสกปรกอยู่เยอะกว่าผิวแบบอื่น เราขอแนะนำโทนเนอร์ตัวดังจาก Pixi มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอีกครั้งหลังล้างหน้าโดยโฟมหรือคลีนซิ่งเสร็จ พร้อมทั้งปรับสมดุลของผิวให้อยู่ในค่า pH ที่เหมาะสม หลังจากที่ล้างหน้าด้วยโฟมและได้ทำการขจัดคราบมันบนใบหน้าออกไปจนหมด โทนเนอร์ตัวนี้จะเข้ามาช่วยปรับสภาพผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ช่วยกระชับรูขุมขน ถือเป็นการเตรียมผิวขั้นแรกก่อนจะลงครีมบำรุงเลยค่ะ
บิวตี้บล็อกเกอร์จากหลาย ๆ ประเทศต่างชื่นชมถึง Pixi Glow Tonic ที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี และช่วยให้ครีมบำรุงทำงานได้อย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น เพราะเป็นโทนเนอร์ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเพื่อเผยผิวที่ดูกระจ่างใส เรียบเนียน และขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว หากคุณมีผิวที่แพ้ง่ายก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะใช้โทนเนอร์จาก Pixi ไม่ได้ เพราะทางผู้พัฒนาได้คิดค้นสูตรอ่อนโยนที่ทำมาจากธรรมชาติ ได้แก่ ว่านหางจระเข้ที่ช่วยให้การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และโสมที่ทำหน้าที่ดูแลเซลล์ผิวของใบหน้าให้ดูมีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนที่แพ้น้ำหอมอาจจะต้องหลีกเลี่ยงไอเทมนี้เพราะมีส่วนผสมของน้ำหอมนะคะ
ราคา | 590 / 1160 บาท |
ขนาด | 100 / 250 ml |
ราคาต่อหน่วย | 5.9 / 4.64 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ปรับสมดุลผิว |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | อังกฤษ |
.
▼▼ Fresh Vitamin Nectar Glow Juice Antioxidant Face Serum ▲▲
…..
…..
เฟรชแบรนด์ยอดนิยมที่โด่งดังทั่วโลก เพราะเป็นผู้บุกเบิกของการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ความงาม อาทิ เช่น ในปี 1996 ทางแบรนด์ได้นำน้ำนมจากธรรมชาติมาใช้เป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ หรือการนำเหล้าสาเกจากญี่ปุ่นมาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับแช่ตัวอีกด้วย เฟรชยังเป็นผู้คิดค้นการบำรุงผิวแบบ Vitamin Nectar คือ การนำวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นมาไว้ด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพการบำรุงผิวหน้าที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์จาก Fresh หลายตัวฮิตถล่มทลาย
เซรั่มยอดฮิตตัวนี้มีชื่อเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากมาตั้งแต่ปี 2019 ยาวจนถึงปี 2020 เพราะนวัตกรรมเทคโนโลยีจากทางแบรนด์ที่รวมวิตามิน C, E, BETA-CAROTINE, น้ำมันมะพร้าวและแร่ธาตุต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน เรียกว่า Microbubble ซึ่งบรรจุไว้ในขวดถึง 480,000 Microbubble เลยทีเดียว ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าผิวของเราจะต้องได้สารอาหารที่ครบถ้วนและช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใสอีกครั้ง เนื้อเซรั่มสามารถซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและบางเบาต่อผิวหน้าไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ทำให้สามารถลงครีมบำรุงตัวอื่นได้อีกหลังจากลงเซรั่มตัวนี้ ที่สำคัญใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ
ราคา | 1,200 บาท |
ขนาด | 15 ml |
ราคาต่อหน่วย | 80 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างไว |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Foreo Luna Mini 2 ▲▲
…..
…..
หากสาว ๆ ลองค้นหาคำว่า เครื่องล้างหน้า ในกูเกิ้ล เราจะเจอแบรนด์ Foreo ขึ้นมาเป็นอันดับแรกของการค้นหาเลย เพราะนี่เป็นแบรนด์เครื่องล้างหน้ายอดฮิตที่ทุกคนได้ทำการรีวิวไว้ว่า คุ้มค่าแก่การซื้ออย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าตัว Foreo Luna Mini 2 ที่ทางแบรนด์เคลมว่าใช้ระบบการทำงานแบบ T-Sonic Pulsations ที่สามารถชำระสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้มากกว่าการล้างปกติถึง 6 เท่า สั่นมากถึง 8,000 ครั้ง/นาที และปรับระดับการสั่นได้ 8 ระดับ ออกแบบมาให้เข้าถึงได้ทุกซอกมุมของใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงซอกจมูกที่มักจะทำความสะอาดยากด้วยมือเปล่า หัวแปรงทำมาจากซิลิโคนทางการแพทย์จึงลดการระคายเคืองและอ่อนโยนต่อผิวหน้าเป็นอย่างมาก
นอกจากการช่วยทำความสะอาดหน้าอย่างล้ำลึกแล้ว ประโยชน์ของเจ้า Foreo Luna Mini 2 ยังช่วยในการกระตุ้นผิวให้ดูสว่าง เปล่งปลั่ง และอีกทั้งช่วยยกกระชับผิวหน้า เพราะระหว่างการล้างหน้าระบบสั่นของเครื่องจะช่วยนวดใบหน้า ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินไปเข้าคอร์สนวดหน้าราคาแพง ๆ เลยใช่ไหมละคะ ขนาดของตัวเครื่องพกพาได้สะดวกในขนาด 2.95 x 3.15 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่าพาวเวอร์แบงค์ทั่วไปซะอีก เหมาะมาก ๆ สำหรับนักเดินทาง วิธีชาร์จแบตเหมือนพาวเวอร์แบงค์เลยค่ะ ในการชาร์จ 1 ครั้งสามารถอยู่ได้ถึง 5 เดือนโดยประมาณเลยนะคะ แหม ประโยชน์ครอบคลุมขนาดนี้ใครจะอดใจไม่ซื้อกันได้ใช่ไหมล่ะคะ ??
ราคา | 2,200 บาท |
ขนาด | 2.95 x 3.15 in |
ราคาต่อหน่วย | 2,200 บาท ต่อ เครื่อง |
คุณสมบัติเด่น | ทำความสะอาดผิวอย่างหมดจดและช่วยลดสิวอุดตัน |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สวีเดน |
.
▼▼ Fenty Beauty Dry Brush-Cleaning Sponge ▲▲
…..
…..
หากใครที่เป็นสายแต่งหน้าจะทราบดีเลยว่าปัญหาที่พบเจอบ่อยระหว่างการแต่งหน้าคือ แปรงอายแชโดว์ถูกผสมสีจนกลายเป็นสีที่เพี้ยนออกไป เพราะหากเราเริ่มต้นทาเปลือกตาด้วยสีเข้มแล้ว จะใช้สีอ่อนเพื่อไล่ระดับสีก็ต้องทำการเปลี่ยนแปรงเป็นอีกอันหนึ่งที่ยังไม่มีสีมาปน แต่จะมีสักกี่คนกันที่ซื้อแปรงแบบเดียวกันถึง 2 ด้าม เพราะฉะนั้น Fenty Beauty Dry Brush-Cleaning Sponge ตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยทีเดียวค่ะ เพราะเจ้าตัวนี้จะช่วยทำความสะอาดแปรงระหว่างแต่งหน้าไม่ให้สีถูกผสมกันระหว่างการแต่งหน้า เพราะฉะนั้นสีของอายแชโดว์ก็จะชัดเจนและตรงปกกับที่เราต้องการอย่างแน่นอนค่ะ
ขอแนะนำว่าตัวนี้ควรจะเป็น Must Have! สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าและต้องเดินทางอยู่เสมอ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด และวิธีการใช้ก็แสนจะง่ายเพียงแค่เอาแปรงแต่งหน้าไปถูบนฟองน้ำโดยไม่ต้องใช้สบู่หรือล้างน้ำซ้ำเลย ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง ฟองน้ำจะดูดสีและพิกเมนต์ออกมาทั้งหมดจากแปรงทำให้ประหยัดเวลาล้างแปรงไปได้ เป็นนวัตกรรมที่ล้ำมากเลยทีเดียวค่ะ คราวนี้ก็หมดปัญหาข้อจำกัดในการใช้หลาย ๆ สีแต่งหน้าแล้วค่ะ
ราคา | 750 บาท |
ขนาด | Compact Size |
ราคาต่อหน่วย | 750 บาท ต่อ ตลับ |
คุณสมบัติเด่น | สามารถทำความสะอาดแปรงระหว่างแต่งหน้าได้ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Urban Decay Stay Naked Foundation ▲▲
…..
…..
Urban Decay แบรนด์ที่โด่งดังอย่างกว้างขวางจาก Naked คอลเลคชั่น ซึ่งเป็นอายแชโดว์คอลเลคชั่นที่ดังเป็นพลุแตกเลยทีเดียว มั่นใจว่าสาว ๆ หลายคนต้องมีสักพาเลทไว้ครอบครองแล้วอย่างแน่นอน หลังจากนั้นทาง Urban Decay ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาอยู่ตลอดและก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกัน ในปลายปี 2019 ทางแบรนด์ได้นำรองพื้นตัวนี้เข้ามาเมืองไทยซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากชาวเน็ตในหลาย ๆ เว็บไซต์
Urban Decay Stay Naked Foundation เป็นรองพื้นที่สามารถติดทนได้นานถึง 24 ชม. พร้อมทั้งให้ลุคที่ดูธรรมชาติอย่างเรียบเนียน แต่เน้นการปกปิดระดับกลางจำพวกรอยสิว รอยแดง รูขุมขน และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ มาในรูปแบบลิควิดบางเบาตามสโลแกน “ให้ผิวยังหายใจได้” ได้ลุคที่เป็นแมตต์อย่างแท้จริงและไม่ดรอปในระหว่างวันเลย รองพื้นตัวนี้เหมาะกับสาวผิวมันนะคะ เพราะเนื้อค่อนข้างแมตต์ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์ Urban Decay ไม่ทำการทดลองเครื่องสำอางกับสัตว์ใด ๆ ทุกชนิดเลย ทำให้สาวกคนรักสัตว์วางใจได้เลยค่ะ
ราคา | 1,600 บาท |
ขนาด | 30 ml |
ราคาต่อหน่วย | 53.33 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยปกปิดผิวให้ดูเรียบเนียนยิ่งขึ้นในแบบธรรมชาติ |
เหมาะสำหรับ | ผิวมัน |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Supergoop! Glowscreen Broad Spectrum Sunscreen Primer SPF 40 PA+++ ▲▲
…..
…..
หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักแบรนด์นี้เป็นอย่างดีจากคุณก้อย รัชวิน ในโปรเจคก้าวคนละก้าวกับที่ทำร่วมกับคุณตูน บอดี้สแลม เพราะชาวเน็ตต่างก็ตั้งคำถามว่า “คุณก้อยใช้ครีมกันแดดตัวไหนกันนะ ทำไมผิวถึงไม่คล้ำเลย และหน้าตาไม่หมองอีกต่างหาก ราวกับว่านอนหลับพักผ่อนมาอย่างเพียงพอ” หลังจากนั้นก็มีคนเปิดวาร์ปถึงครีมกันแดดที่คุณก้อยใช้ว่าจากแบรนด์ Supergoop! นี่เอง ครั้งนี้ Supergoop ! ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งก็คือ การรวมของไพรเมอร์และครีมกันแดดเข้าไว้ด้วยกัน อย่างนี้เป็นการซื้อครั้งเดียวได้นกถึง 2 ตัวเชียวนะคะ
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดในปี 2020 จากแบรนด์ Supergoop! เพราะฉะนั้นอาจจะหาอ่านรีวิวจากเมืองไทยยากสักนิด เราเลยได้รวบรวมรีวิวจากบิวตี้บล็อกเกอร์ของหลาย ๆ ประเทศไว้ด้วยกัน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตัวผลิตภัณฑ์ใช้ได้สะดวกและบางเบาต่อผิว ด้วยความที่เป็นไพรเมอร์จึงช่วยให้เครื่องสำอางติดทนได้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและฉ่ำวาวเหมือนผิวสุขภาพดีมาตั้งแต่เกิด ป้องกันแสงแดดได้ถึง SPF40 เลยทีเดียว นอกเหนือจากการป้องกันแสงแดดยังสามารถป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วยนะคะ ไอเทมนี้เป็นสิ่งที่สาว ๆ ที่กำลัง Work From Home ควรมีเลยล่ะค่ะ
ราคา | 640 / 1,340 บาท |
ขนาด | 15 / 50 ml |
ราคาต่อหน่วย | 42.66 / 26.8 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ไพรเมอร์ผสมสารกันแดด |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Too Faced Shake Your Palm Palms Eyeshadow Palette ▲▲
…..
…..
Too Faced เป็นแบรนด์ที่สาว ๆ หลายคนมักตั้งตารอเพื่อชมคอลเลคชั่นใหม่อยู่เสมอ เพราะทางแบรนด์มักจะออกแบบคอลเลคชั่นมาเอาใจทางผู้ใช้ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันมานาน และผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์เองก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย คอลเลคชั่น Peaches And Cream ก็เช่นเดียวกันทั้งที่เพิ่งออกมาได้ไม่นานนัก แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตลับของผลิตภัณฑ์ได้มาในรูปแบบเหล็กไม่ใช่กระดาษแต่อย่างใด ขนาดกะทัดรัด เบา พกพาง่ายไปได้ทุกที่เลยค่ะ
สีที่ทางแบรนด์ได้นำมาขายนั้นก็ช่างรู้ใจสาว ๆ เสียจริง มีมาทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์เหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าสายเกาหลี สายเซ็กซี่ หรือสายปาร์ตี้ก็ยังใช้ได้ค่ะ ตลับเดียวบอกเลยว่า คุ้ม คุ้ม คุ้ม เสียจริง พิกเมนต์ที่ให้มาก็แน่นเหลือเกินฟาดไปครั้งเดียวก็เพียงพอ แต่อย่าลืมเคาะสีออกก่อนนะคะด้วยความปรารถนาดีจากเรา อีกทั้งยังผสานการบำรุงจาก Peach และ Sweet Fig Milk เพื่อกลิ่นที่หอมหวานดั่งเจ้าหญิง แต่คอลเลคชั่นนี้จะมีวางขายแค่ที่เซโฟร่าเท่านั้น ! ลองไปสวอชและรีบตัดสินใจกันดูนะคะ
ราคา | 950 บาท |
ขนาด | 6.7 g |
ราคาต่อหน่วย | 141.79 บาท ต่อ g |
คุณสมบัติเด่น | ทำให้ดวงตามีสีสันและดูโดดเด่น |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Cosluxe Browsup Brow & Eye Bar ▲▲
…..
…..
Cosluxe แบรนด์คนไทยที่ไม่ธรรมดาเพราะนอกจากที่มีวางขายในเซโฟร่าแล้ว ผลิตภัณฑ์แต่ละครั้งที่ออกมาก็ปังไม่หยุดแทบจะทุกตัวเลย โดยเฉพาะอายไลเนอร์ตัวเก่งประจำแบรนด์ ที่ออกแบบอ้างอิงจากสภาพอากาศในเมืองไทยที่ร้อนสุด ๆ นอกจากยังอายไลเนอร์แล้วยังมีผลิตภัณฑ์หลายตัวได้รับการการันตีเรื่องคุณภาพจากบิวตี้บล็อกเกอร์ของเมืองไทยหลาย ๆ ท่าน เช่นเดียวกับพาเล็ตต์เขียนคิ้ว Cosluxe ตัวนี้ ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าแบบดินสอ เพราะความสะดวกในการใช้งาน และยังคงความเป็นธรรมชาติของทรงคิ้วอยู่อีกด้วย
Cosluxe Browsup Brow & Eye Bar สามารถใช้ในการเขียนคิ้วฟุ้ง ๆ ให้เป็นทรงได้อย่างสวยงาม และเทรนการแต่งหน้าที่มาแรงใน ณ ขณะนี้คือ การแต่งหน้าแบบ Make Up No Make Up ทำให้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นจึงมาแรงอย่างฉุดไม่อยู่ และทางแบรนด์ทำออกมาให้เลือกถึง 5 สีในตลับเดียว สาว ๆ สามารถไล่ระดับความเข้ม อ่อน ของสีคิ้วได้ และใช้เป็นอายแชโดว์เขียนคิ้ว ทาตา หรือไว้สำหรับเฉดดิ้งกรอบหน้าก็ยังได้ ด้วยเม็ดสีที่จัดแน่นและชัดเจนทำให้สามารถติดทนได้นาน ไม่มีเลือนหายระหว่างวันแน่นอนค่ะ
ราคา | 550 บาท |
ขนาด | 8 g |
ราคาต่อหน่วย | 68.75 บาท ต่อ g |
คุณสมบัติเด่น | ทำให้การเขียนคิ้วง่ายขึ้น |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | ไทย |
.
▼▼ Fenty Beauty Full Frontal Volume, Lift & Curl Mascara Cuz I’m Black ▲▲
…..
…..
Fenty Beauty แบรนด์นี้เค้าแรงดีไม่มีตกจริง ๆ ค่ะ ครั้งนี้ออกผลิตภัณฑ์มาสคาร่าก็ได้ความนิยมพุ่งสูงเช่นเดียวกัน โดยคุณแม่ Rihanna นักร้องสาวเจ้าของแบรนด์ได้ออกมาสคาร่าตัวนี้เมื่อต้นปี 2020 นี้เองค่ะ คุณแม่ได้เคลมมาว่า จะช่วยยกระดับขนตาให้ งอน เด้ง ตลอดทั้งวัน ช่วยเพิ่มความยาวและความหนาให้ดวงตาหวานฉ่ำกันอีกด้วย ทางเว็บไซต์ Vogue ยังยกให้เป็นมาสคาร่าอันดับ 1 ของปี 2020 เชียวน้า
ขนแปรงถูกออกแบบมาให้เป็นลักษณะแบน ใช้งานได้ง่ายให้เข้ากับรูปทรงดวงตา ตัวเนื้อมาสคาร่ามีสีดำเข้มและสามารถปัดได้หลายครั้งตามความชอบโดยไม่จับตัวเป็นก้อน ที่สำคัญที่สุดของมาสคาร่าตัวนี้คือ สามารถกันน้ำได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลย หากโดนใครหักอกหรือไปหักอกใคร แล้วต้องร้องไห้ ร้องได้เลยค่ะ มาสคาร่าของแม่ Rihanna เอาอยู่อย่างแน่นอน และมาสคาร่าตัวนี้เป็นวีแกนนะคะสาว ๆ ทางแบรนด์ไม่ได้ทำการทดลองเครื่องสำอางกับสัตว์ใด ๆ เลยค่ะ
ราคา | 550/ 950 บาท |
ขนาด | 4.5/ 12.5 ml |
ราคาต่อหน่วย | 122.22/ 76 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ทำให้ดวงตาและขนตาดูโดดเด่น |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Kat Von D Vegan Beauty Tattoo Liner ▲▲
…..
…..
นอกจากคิ้วที่จะเป็นมงกุฎของใบหน้าก็จะมีดวงตาที่เป็นหน้าต่างของหัวใจนี่ละคะ เค้าว่ากันว่าสิ่งที่สวยงามที่สุดบนใบหน้าก็คือดวงตาเพราะสามารถแสดงถึงความจริงใจของบุคคลนั้นได้ ดังนั้นดวงตาก็จะเป็นส่วนที่คนจ้องมองมากที่สุด อายไลเนอร์ Kat Von D Vegan Beauty Tattoo Liner จากแบรนด์ Kat Von D แบรนด์นี้ที่ใคร ๆ ก็รัก ได้ออกอายไลน์เนอร์ตัวนี้มาตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ครองแชมป์ต่อเนื่องมาอย่างเรื่อย ๆ จนถึงปี 2020 เลยทีเดียวดังนั้นจงมั่นใจในประสิทธิภาพได้เลยค่ะ
อายไลเนอร์ตัวนี้สามารถเปลี่ยนรูปทรงของดวงตาสาว ๆ ได้ในหลาย ๆ แบบ ไม่ว่าจะทรงที่ทำให้ตาดูกลมโตขึ้น หรือเปลี่ยนลุคให้เซ็กซี่ก็ยังได้ ด้วยแปรงที่ออกแบบมาให้เขียนได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถควบคุมขนาดของเส้น และเม็ดสีได้ชัด แน่น ดำอย่างสม่ำเสมอ หมดปัญหาเส้นขาดระหว่างเขียนที่เป็นปัญหาของสาว ๆ หลายคน ทนน้ำ ทนเหงื่อ ทนความมันได้เป็นอย่างดีซึ่งตรงกับชื่อว่าผลิตภัณฑ์ว่าทนได้เหมือนรอยสักเลยค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องล้างออกยากนะคะ เพราะสามารถล้างออกได้อย่างง่ายดายด้วยคลีนซิ่งทำความสะอาดเครื่องสำอางสำหรับดวงตาได้เลย
ราคา | 900 บาท |
ขนาด | 0.55 ml |
ราคาต่อหน่วย | 1,636.36 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ทำให้ดวงตาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Sephora Collection Eye Waterproof Makeup Remover ▲▲
…..
…..
สำหรับคนที่กำลังมองหาคลีนซิ่งสำหรับดวงตาที่ไม่มีส่วนผสมของสารก่อการระคายเคือง เราแนะนำคลีนซิ่งตัวนี้เลยค่ะ Sephora Collection Eye Waterproof Makeup Remover ซึ่งคลีนซิ่งตัวนี้ถูกออกแบบสำหรับใช้กับรอบดวงตาโดยเฉพาะเลย หมดกังวลได้เลยว่า รอบดวงตาจะไม่เกิดการระคายเคืองอย่างแน่นอน และสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ไม่ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย
คลีนซิ่งตัวนี้ถูกออกแบบมาให้มีความอ่อนโยนต่อการทำความสะอาดรอบดวงตา เพราะเรามีดวงตาแค่คู่เดียว ทางแบรนด์เองก็เล็งเห็นถึงปัญหาของผู้ใช้คอนแทคเลนส์ จึงได้ออกสูตรนี้ขึ้นมาโดยผ่านการทดสอบจากจักษุแพทย์มาแล้วด้วยนะคะ เพราะทางแบรนด์ได้ใส่ HydroSenn+ ส่วนผสมจาก Flavonoids และ Olive Wood Extracts เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติล้วน ๆ เลยค่ะ ดังนั้นคลีนซิ่งตัวนี้สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างดีโดยไม่ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นของชั้นผิวเลยค่ะ
ราคา | 210/ 480บาท |
ขนาด | 50/ 200 ml |
ราคาต่อหน่วย | 4.2/ 2.4 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ทำความสะอาดเครื่องสำอาง |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว, ผิวแพ้ง่าย |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Hourglass Veil™ Translucent Setting Powder ▲▲
…..
…..
สำหรับใครที่กำลังมองหาแป้งคุมมันที่มีความสามารถคุมมันได้แบบสะเทินน้ำสะเทินบก เอาอยู่ทุกสภาพอากาศในบ้านเรา ควรจัด Hourglass Veil™ Translucent Setting Powder อย่างด่วน ๆ เลยค่ะ แป้งตัวนี้เป็นแป้งโปร่งแสงตัวดังในตำนานจากห้องแป้งในหลาย ๆ เว็บไซต์ ที่สาว ๆ ต่างกดเลิฟกดไลค์ ช่วยคุมมันหลังการแต่งหน้าเสร็จได้ทันที ทำให้เครื่องสำอางติดทนยิ่งขึ้นอยู่ได้หลายชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องเติมแป้งบ่อย ๆ และที่สำคัญช่วยอำพรางรูขุมขนได้เนียนกริบมาก
แป้งมาในรูปแบบแมตต์แต่ก็แอบมีกลิตเตอร์เล็ก ๆ ที่ช่วยกระจายแสง โดยเฉพาะถ้าถ่ายรูปออกมาจะทำให้ใบหน้าดูโกลว์ ๆ แบบสาวสุขภาพดี แม้เหงื่อออกมาแค่ไหนก็สามารถคุมมันได้ และไม่ทำให้ใบหน้าเป็นคราบแป้งเลย โดยเฉพาะทีโซนเจ้าปัญหาหลังใช้ตัวนี้ตบลงไปบาง ๆ ก็หมดห่วงไปได้เลยค่ะ แต่ด้วยราคาที่แอบแรงไปนิดนึง ทางแบรนด์ได้ออกมาเป็นขนาด Travel Size สำหรับทดลองใช้กันก่อนด้วยนะคะ
ราคา | 850/ 1900บาท |
ขนาด | 0.9/ 10.5 g |
ราคาต่อหน่วย | 944.44/ 180.95 บาท ต่อ g |
คุณสมบัติเด่น | ช่วยเซ็ทเครื่องสำอาง |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Benefit Cosmetics Hoola Bronzer ▲▲
…..
…..
บรอนเซอร์ตัวปังประจำแบรนด์ Benefit ที่ได้รับรางวัลจากหลาย ๆ เว็บไซต์และนิตยสาร อาทิ เช่น Best-Selling Prestige Bronzer in the US จาก The NPD Group และยังได้รับการยอมรับจากผู้ใช้หลาย ๆ คนว่าเป็นบรอนเซอร์ที่คุ้มค่าที่สุดในการใช้งานเพราะแค่แตะเพียงนิดเดียวก็ได้สีที่ชัดเจนและแน่นแล้ว ถึงแม้แพ็กเกจจะทำมาจากกระดาษแต่ก็ออกแบบมาอย่างแข็งแรง สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก เพราะทางแบรนด์ได้แถมแปรงมาในตลับให้พร้อมกับการใช้งานในทุก ๆ โอกาสอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นสาวเอเชีย หรือสาวยุโรปก็สามารถใช้บรอนเซอร์ตัวนี้ได้ เพราะเค้าทำเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาในสีน้ำตาล ที่ไม่ติดส้มหรือแดงเลย สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายแม้จะเป็นมือใหม่ และกำหนดความหนักเบาในการลงบรอนเซอร์ได้ด้วยแปรงที่ทางแบรนด์แถมมา เป็นแปรงที่นุ่มและใช้งานได้จริง สามารถนำมาใช้เป็นการเฉดดิ้งกรอบหน้าหรือจะเฉดดิ้งจมูกก็ยังได้อีกต่างหาก ให้ได้ลุคที่ดูธรรมชาติไม่ดูโป๊ะจนเกินไปเลยค่ะ
ราคา | 760/ 1,350 บาท |
ขนาด | 4/ 8 g |
ราคาต่อหน่วย | 190/ 168.75 บาท ต่อ g |
คุณสมบัติเด่น | ทำให้รูปทรงใบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ Nars Radiant Creamy Concealer ▲▲
…..
…..
นอกจากรองพื้นที่ช่วยปกปิดให้ใบหน้าของเราเรียบเนียนแล้ว คอนซิลเลอร์เองก็จำเป็นในการปิดใต้ตาแพนด้าจากการทำงานหนัก หรือบางคนที่เป็นภูมิแพ้ก็ทำให้ใต้ตาคล้ำได้เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะพยายามบำรุงด้วยวิตามินหรือใช้ลูกกลิ้งลดใต้ตาคล้ำก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี คุณสมบัติของคอนซีลเลอร์เหมือนกับรองพื้นแต่ไม่ทั้งหมด เพราะคอนซีลเลอร์ถูกออกแบบมาให้ใช้กับการปกปิดโดยเฉพาะจุด อย่างเช่น ใต้ตา หรือรอยแผลเป็นจากการเป็นสิว
คอนซีลเลอร์จาก Nars เป็นที่ครองใจชาวบิวตี้บล็อกเกอร์ตั้งแต่เมืองไทยและเมืองนอก เพราะทางแบรนด์เค้าได้ทำออกมาหลากหลายสีเพื่อให้เหมาะกับสีอันเดอร์โทนของสาว ๆ จากทั่วโลก ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่มีสีผิวเรา อีกทั้งสามารถปกปิดใต้ตาได้ดีและติดทนโดยไม่เป็นคราบเลยแม้จะลงแป้งซ้ำ เพราะเป็นเนื้อครีมที่เกลี่ยได้ง่ายด้วยมือ ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและยังปกปิดริ้วรอยอีกด้วย หรือจะใช้เป็น Everyday Look ในวันเบา ๆ ก็ยังได้เลยค่ะ
ราคา | 1,320 บาท |
ขนาด | 6 ml |
ราคาต่อหน่วย | 220 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา |
เหมาะสำหรับ | สภาพผิวมัน, สภาพผิวแห้งแต่ไม่มาก |
ประเทศที่ผลิต | ฝรั่งเศส |
.
▼▼ Sephora Collection Cream Lip Stain ▲▲
…..
…..
ลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวเก่งจาก Sephora มีสีให้เลือกมาถึง 73 สีที่รวมทั้งสีธรรมดาและที่เป็นสีเมทัลลิก สีเมทัลลิกที่ Sephora ออกแบบมานั้นไม่ได้มีสีฉูดฉาดจนเกินไป ทำให้สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ลิปสติกมีส่วนผสมของวิตามินอีและน้ำมันสกัดจากอะโวคาโดที่ช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งจนเกินไปจนเกิดริ้วรอยได้ และเนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะที่บางเบาไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะปากเมื่อทาลงไป จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ติดทนยาวนานกว่าลิปสติกแมตต์ตัวอื่น ๆ
ด้วยราคาที่จับต้องได้และคุณภาพดีทำให้ Sephora Collection Cream Lip Stain เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ด้วยเม็ดสีที่แน่นสามารถปกปิดริมฝีปากคล้ำได้อย่างมิดชิด และไม่ต้องทาเพิ่มระหว่างวัน สีที่เห็นอยู่ข้างหลอดก็คือสีเดียวกับที่สวอชออกมาเลย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องไม่ตรงปกเลยค่ะ เพื่อน ๆ หลายคนที่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแอบกระซิบมาว่าลิปตัวนี้เป็นตัวโปรดของพวกเค้ากันเลย โดยเฉพาะสี Always red, Coral Sunset ที่ไม่ว่าใครจะทาก็ปังแน่นอนค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอแนะนำว่าควรบำรุงด้วยลิปมันก่อนใช้ลิปสติกแมตต์สำหรับทุก ๆ แบรนด์เลยนะคะสาว ๆ
ราคา | 490 บาท |
ขนาด | 5 ml |
ราคาต่อหน่วย | 98 บาท ต่อ ml |
คุณสมบัติเด่น | ทำให้ริมฝีปากดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพริมฝีปาก |
ประเทศที่ผลิต | ฝรั่งเศส |
.
เลือกซื้อไอเทมจาก Sephora อย่างไรให้ดีที่สุด
กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ดังนั้นหากเราซื้อสินค้ามาแล้วเราต้องใช้ให้ได้อย่างคุ้มค่าและเป็นประโยชน์มากที่สุด ถึงแม้ราคาจะสูงแต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาดีมันก็คุ้มค่าแก่การลงทุนใช่ไหมคะ??
…..
ไอเทมบางอย่างไม่มีในช็อป Sephora Thailand
ไอเทมบางอย่างเราอาจจะไม่เห็นวางจำหน่ายใน Sephora ประเทศไทยนะคะ อาจจะด้วยข้อตกลงทางสัญญากับทางแบรนด์ที่ไม่สามารถนำเข้ามาจำหน่ายใน Sephora ของประเทศนั้น ๆ ได้ หรือทางแบรนด์ได้ทำการตลาดแล้วพบว่าไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก จึงทำให้ไม่มีสินค้าตัวนั้นวางจำหน่ายในช็อป แต่ก็อย่าเสียใจไปค่ะ ถ้าอยากได้ไอเทมนั้นจริง ๆ อาจจะลองหาจากร้านหิ้วจากต่างประเทศ แต่อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากคะแนนของทางร้านค้า หรือรีวิวของผู้ที่ซื้อสินค้าจากร้านนั้น ๆ ด้วยนะคะ
……
ดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์
หากเรามีใบหน้าที่แพ้ง่าย การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก็จะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกเพราะเครื่องสำอางบางชนิดได้ผสมแอลกอฮอล์และน้ำหอมลงไปเป็นส่วนผสมหลัก หรือใส่แม้กระทั่งสารพาราเบนนั่นก็คือสารกันบูดอีกด้วย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงจากการเกิดอาการแพ้จึงควรดูและทำการทดสอบโดยการ Patch Test เบื้องต้นเพื่อค้นหาสาเหตุหรือส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ค่ะ แต่แอลกอฮอล์ที่ใส่ในเครื่องสำอางก็มีหลายแบบนะคะ มีทั้งแอลกอฮอล์ที่มีประโยชน์ต่อผิวและทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและศึกษาส่วนผสมให้ดี ๆ หรืออาจจะซื้อขนาดทดลองเพื่อนำมาลองใช้ ก่อนเลือกซื้อขนาดจริงก็ได้นะคะ
การจะออกเครื่องสำอางใหม่สักตัวหนึ่ง ทางแบรนด์ต่าง ๆ ต้องทำการทดลองกับสัตว์หลายตัว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและปลอดภัยต่อผิวหนังมนุษย์ เพราะฉะนั้น อาจจะต้องมีสัตว์หลายชีวิตแลกชีวิตกับการเป็นเครื่องทดลองผลิตภัณฑ์ให้กับเรา ในปัจจุบันมีหลาย ๆ แบรนด์ที่ตระหนักถึงปัญหานี้และได้ทำผลิตภัณฑ์ออกมาแบบ วีแกน หรือที่เรียกว่า Cruelty Free นั่นคือไม่ทำการทดลองจากสัตว์เลย แต่จะใช้ส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติแทนเพื่อความอ่อนโยนต่อใบหน้า อาทิ เช่น Kat Von D, Tarte, Urban decay เป็นต้น
……
ศึกษาข้อมูลจากรีวิวของผู้ใช้จริง
การศึกษาข้อมูลจากผู้ใช้จริงอาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะสภาพและปัญหาผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันเราจึงจะได้คำตอบว่าผลิตภัณฑ์นี้ผู้ใช้ส่วนมากได้ผลลัพธ์แบบไหน หากคนที่มีสภาพผิวแห้งก็จะมีปัญหาด้านการขาดความชุ่มชื้นของผิวทำให้แต่งหน้าไม่ติด หรือคนที่มีสภาพผิวมันก็จะมีปัญหาเรื่องการแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางติดไม่ทน เพราะความมันจากใบหน้าทำให้เครื่องสำอางหลุดได้ง่าย ดังนั้นหากอ่านแค่สรรพคุณจากผลิตภัณฑ์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ควรศึกษาจากเว็บไซต์หรือบิวตี้บล็อกเกอร์จากต่างประเทศด้วย เพราะข้อมูลจะกว้างขวางกว่าในไทยมาก ๆ เลยค่ะ
……
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
Sephora เป็นหนึ่งในร้านที่มีความน่าเชื่อถือและหลาย ๆ ไอเทม ราคาไม่ได้ต่างจากที่วางจำหน่ายที่ต่างประเทศสักเท่าไหร่ นอกจากนั้นอย่างที่แจ้งไว้ข้างต้น หากซื้อของในเซโฟร่า เราจะมีสิทธิ์สะสมคะแนนเพื่อนำไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ถือว่าเป็นของสมนาคุณอย่างดีเยี่ยมเลย และอีกทั้งยังมีโปรโมชั่นต่าง ๆ ไว้เอาใจลูกค้าอีกด้วย อย่างเช่น Black Friday ที่ลดถึง 50% หรือจะเป็นช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่มีส่วนลดถึง 30 % ทั้งจากการซื้อหน้าร้านและการซื้อออนไลน์ ทำให้ประหยัดกระเป๋าตังค์ไปได้อีกเยอะเลยนะคะ
สินค้าทุกแบรนด์ภายในร้านจะมีเป็นพนักงานที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้คำปรึกษากับลูกค้าโดยเฉพาะ หากเรามีปัญหาหรือคำถามสามารถสอบถามพนักงานได้โดยตรงเลย พนักงานทุกคนได้ยืนพร้อมสำหรับให้คำปรึกษา ชี้แนะกับลูกค้าอยู่ แต่ทุก ๆ สินค้าต่อให้ราคาสูงขนาดไหน หรือเค้าบอกว่าดีแค่ไหน ยังไงก็ต้องลองใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นประสิทธิภาพอย่างดีที่สุดนะคะ