แนะนำ 10 เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี 2020 ใช้งานง่าย บดละเอียด คงรสชาติแท้ของเมล็ดกาแฟ
เครื่องบดกาแฟ อุปกรณ์ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าช่วยให้การดื่มกาแฟของคุณมีอรรถรสดีขึ้นได้มากแค่ไหน คงจะมีหลายครั้งที่คุณซื้อกาแฟสดมาดื่ม แต่กลับได้รสชาติที่ไม่ถูกใจ แถมบางร้านยังมีรสชาติกาแฟในแต่ละวันที่ไม่เหมือนกันอีก ลองนึกดูนะคะว่า ถ้าคุณได้ดื่มกาแฟสดที่รสชาติถูกออกแบบมาเพื่อเราคนเดียวในทุก ๆ วัน แถมยังเป็นกาแฟสดด้วยฝีมือตัวเอง คงจะยิ่งทำให้ช่วงเวลาเช้าของเรามีความหมายมากกว่าเดิมและไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและมีผลต่อรสชาติเป็นอย่างมากก็คือ ผงกาแฟ นั่นเอง ซึ่งการที่จะได้ผงกาแฟที่ดีสำหรับการชงกาแฟในแบบที่เราต้องการนั้น ก็คงจะต้องหาเครื่องบดกาแฟดี ๆ สักเครื่องมาเป็นผู้ช่วยแล้วล่ะค่ะ
ปัจจุบันเครื่องบดกาแฟได้ถูกพัฒนาและผลิตออกมาให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบทรงกระบอกยาวที่ต้องบดเมล็ดกาแฟโดยใช้มือหมุนเอง ไปจนถึงเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่ไม่ค่อยมีเวลาในตอนเช้า ซึ่งเครื่องบดกาแฟแต่ละแบบต่างก็มีความแตกต่างกันไป แล้วเราควรจะเลือกอย่างไรดี วันนี้เราได้นำรายละเอียดทั้งหมด พร้อมทั้งรวบรวม 10 เครื่องบดกาแฟยอดนิยม ที่คัดมาแล้วว่าต้องถูกใจคอกาแฟอย่างแน่นอนมาฝากกันด้วยค่ะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
บดเมล็ดกาแฟดื่มเองดีกว่าอย่างไร
ก่อนไปชม 10 ยี่ห้อเครื่องบดกาแฟที่เราอยากแนะนำ ลองไปดูกันก่อนนะคะว่าการบดกาแฟดื่มเองนั้นดีกว่าไปซื้อกาแฟสดที่ร้านอย่างไรบ้าง
- การบดกาแฟดื่มเอง ทำให้สามารถควบคุมความละเอียดของผงกาแฟได้ตามที่ต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับการชงกาแฟในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติอร่อยเข้มข้นขึ้น
- การบดกาแฟดื่มเอง ช่วยให้มั่นใจว่าผงกาแฟที่ได้นั้นมีความสะอาดปลอดภัย ไม่มีสิ่งเจือปน และถูกสุขอนามัยจริง ๆ
- การบดกาแฟดื่มเอง ทำให้กิจกรรมในตอนเช้าจะไม่ใช่เพียงแค่กิจวัตรประจำวันแสนน่าเบื่อจำเจอีกต่อไป แต่จะช่วยให้คุณได้มีงานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ และได้มีเวลาส่วนตัวของตัวเองบ้าง แม้จะอยู่ในลูปชีวิตที่เร่งรีบตามสไตล์คนเมืองยุคนี้ก็ตาม
- การบดกาแฟดื่มเอง จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่มกาแฟให้รู้สึกดีกว่าเดิม เพราะกาแฟที่กำลังดื่มนั้นเกิดจากความใส่ใจของเราจริง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่เริ่มบดเมล็ดจนได้ผงกาแฟสดใหม่ และกลายเป็นกาแฟแก้วโปรดหอมกรุ่นเพื่อต้อนรับเช้าวันใหม่ของคุณ
.
ประเภทของเครื่องบดกาแฟ
เครื่องบดกาแฟจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า และ เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะการใช้งาน ดังนี้
…
เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า
เครื่องบดกาแฟประเภทนี้มาพร้อมกับสายไฟสำหรับเสียบปลั๊กดึงพลังงานจากไฟบ้านโดยตรง ใช้งานได้สะดวกมาก กดสวิชต์เพียงคลิ๊กเดียว เครื่องก็ทำการบดเมล็ดกาแฟตามใจสั่งเลยทันที โถใส่เมล็ดกาแฟจะถูกปิดมิดชิด ไม่ทำให้เมล็ดกระเด็นหล่น และไม่สัมผัสกับอากาศ ทำให้ผงกาแฟสดที่ได้มีกลิ่มหอมนาน นอกจากนี้ ทางผู้ผลิตยังมีการพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานอยู่เสมออีกด้วย เช่น ฟังก์ชันการเลือกระดับการบดเมล็ด ฟังก์ชันการเลือกปริมาณผงกาแฟที่ต้องการบด ทำให้ได้ผงกาแฟที่พอดีกับการชงดื่มในแต่ละครั้ง รวมถึงฟังก์ชันความปลอดภัยอย่างระบบฟิวส์ หรือระบบตัดไฟอัตโนมัติ เป็นต้น
…
เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุน
โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องบดกาแฟประเภทนี้จะถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ต้องประกอบโถใส่เมล็ดกาแฟและด้ามจับหมุนเข้าด้วยกันก่อนใช้งาน โดยโถใส่เมล็ดจะมี 2 แบบให้เลือก ได้แก่ โถใส่เมล็ดกาแฟแบบที่มีฝาปิดมิดชิด และ โถใส่เมล็ดกาแฟแบบที่ไม่มีฝาปิด ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นหอมของกาแฟโชยมาเบา ๆ ในขณะบดเมล็ด ส่วนด้ามจับสำหรับหมุนบดนั้นก็จะมี 2 แบบให้เลือกเช่นเดียวกัน ได้แก่ ด้ามจับหมุนระนาบเดียวกับพื้น และ ด้ามจับที่หมุนในระนาบดิ่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งานเลยค่ะ ว่าถนัดหมุนด้ามบดเมล็ดกาแฟแบบไหนสะดวกกว่ากัน
…
ตารางสรุปข้อมูลเครื่องบดกาแฟแบบรวบรัด
…
แนะนำ 5 เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย บดละเอียด คงรสชาติแท้ของเมล็ดกาแฟ
ได้รู้จักเครื่องบดกาแฟทั้ง 2 ประเภทคร่าว ๆ กันไปแล้ว ต่อไปขอแนะนำให้รู้จักกับ 5 เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าที่น่าใช้กันก่อนค่ะ ไปดูเลยว่าจะมีของยี่ห้อใดและรุ่นไหนบ้าง
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า Krups รุ่น GVX242 ▲▲
….
….
เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าตัวแรกที่อยากแนะนำเป็นของแบรนด์ Krups รุ่น GVX242 ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็ก พกพาไปใช้สถานที่อื่นได้สะดวก สามารถปรับระดับความละเอียดของผงกาแฟได้มากถึง 17 ระดับ โถใส่เมล็ดสามารถจุได้ 210 กรัม ทำให้ได้ปริมาณผงกาแฟที่รองรับการชงดื่มได้ตั้งแต่ 2-12 แก้ว ตัวเครื่องใช้ระบบเฟืองในการบดเมล็ด ช่วยให้ไม่เกิดความร้อนขึ้นในขณะใช้งาน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้กาแฟที่ได้เสียรสชาติ และยังสามารถถอดเฟืองปั่นที่บดเมล็ดออกมาทำความสะอาดได้อีกด้วย
หากมีการเปิดฝาครอบเมล็ดกาแฟในขณะใช้งานอยู่ ระบบจะสั่งการให้สวิตซ์ตัดไฟโดยอัตโนมัติทันที เรียกว่าเป็นเครื่องบดกาแฟที่มีความปลอดภัยมากที่สุดเครื่องหนึ่งเลย เมื่อลองสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงพบว่า เครื่องบดกาแฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบดผงกาแฟเก็บไว้ครั้งละมาก ๆ ใช้งานง่าย นอกจากจะปรับความหยาบ-ละเอียดให้เหมาะกับการชงกาแฟในรูปแบบต่าง ๆ อย่าง Moka Pot หรือ Drip Filter ได้แล้ว ยังได้ผงกาแฟที่มีกลิ่นหอม และรสชาติเข้มข้นรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไปจริง ๆ
ราคา | 2,960 บาท |
ประเภทเครื่อง | ไฟฟ้า |
กำลังไฟฟ้า | 110 วัตต์ |
มีดบดที่ใช้ | Stainless Burr |
ระดับการบด | 17 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถพลาสติกใส ปิดมิดชิด – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 210 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า Melitta Molino Coffee Grinder รุ่น CoffeeWORKS-HH009 ▲▲
….
เนื่องจากปริมาณการดื่มกาแฟของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนดื่มกาแฟเพียง 1 ช็อต ในขณะที่บางคนชอบดื่มแบบดับเบิ้ลช็อต ดังนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้ใช้เครื่องบดกาแฟที่สามารถให้ปริมาณผงกาแฟได้พอดีกับความต้องการของเราจริง ๆ อย่างเครื่องบดกาแฟ Melitta Molino Coffee Grinder รุ่น CoffeeWORKS-HH009 ที่สามารถตั้งค่าปริมาณผงกาแฟสำหรับชงดื่มได้ตามต้องการเลยนะคะ และยังมีระบบ Auto Switch Off หยุดการทำงานทันที เมื่อบดเมล็ดกาแฟได้ตามปริมาณที่ตั้งค่าไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกระดับความหยาบ-ละเอียดของผงกาแฟได้ โดยด้านข้างตัวเครื่องจะมีรายละเอียดแนะนำอยู่ สำหรับให้คอกาแฟมือใหม่ได้เลือกปรับอย่างถูกต้องด้วย โดยหากต้องการผงกาแฟสำหรับชงเอสเพรสโซ่ ควรเลือกความละเอียดที่ระดับ 1-3 หรือหากต้องการดื่ม Filter Coffee ควรเลือกความละเอียดที่ระดับ 2-13 และหากต้องการชงกาแฟแบบเฟรนส์เพลส ควรปรับความละเอียดให้อยู่ที่ระดับ 12-17 เมื่อลองอ่านความเห็นของผู้ใช้งานจริง หลายคนให้ความเห็นว่า เครื่องบดกาแฟรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด คุณภาพดี และเหมาะสำหรับใช้งานในบ้านด้วยค่ะ
ราคา | 3,350 บาท |
ประเภทเครื่อง | ไฟฟ้า |
กำลังไฟฟ้า | 100 วัตต์ |
มีดบดที่ใช้ | N/A |
ระดับการบด | 17 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถทึบแสง ปิดด้วยฝาพลาสติกใส – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 200 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า SHANBEN รุ่น EP25 ▲▲
….
….
เครื่องบดกาแฟ SHANBEN รุ่น EP25 ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับเครื่องบดกาแฟโบราณ แต่ใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำเงา ทำให้โดยรวมแล้วยังดูเป็นเครื่องบดกาแฟที่ดูทันสมัยอยู่ และไม่หนักมาก สามารถยกเคลื่อนย้ายเปลี่ยนตำแหน่งได้ง่าย มาพร้อมโถใส่เมล็ดสีชาที่สามารถจุเมล็ดกาแฟได้ทั้งหมด 250 กรัม ด้านในมีตัวป้องกันเมล็ดใส่มาให้ด้วย ช่วยให้ขณะใช้งานเมล็ดกาแฟไม่กระเด็นกระจายออก และยังสามารถปรับระดับความละเอียดในการบดได้ 8 ระดับ ตามความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนได้เลย
จานบดด้านในทำจากโลหะชนิดพิเศษ มีความแข็งแรงทนทาน และไม่สะสมความร้อน ด้านล่างตัวเครื่องมีฟิวส์สำรอง 2 อันใส่มาให้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าจะสามารถใช้งานเครื่องบดกาแฟรุ่นนี้ได้อย่างปลอดภัยจริง ๆ เหมาะสำหรับใช้งานในครัวเรือน หรือใช้ในร้านกาแฟขนาดเล็กก็ได้เช่นกันค่ะ เมื่อลองสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริง มีหลายคนให้ความเห็นว่าเครื่องบดเมล็ดกาแฟได้ละเอียดดี บดเร็ว เสียงไม่ดังมาก คุณภาพคุ้มราคา โดยรวมแล้วเป็นที่น่าพอใจเลยค่ะ
ราคา | 1,210 บาท |
ประเภทเครื่อง | ไฟฟ้า |
กำลังไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
มีดบดที่ใช้ | N/A |
ระดับการบด | 8 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถพลาสติกสีชา ปิดมิดชิด – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 250 กรัม |
พกพาได้ | ✘ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า Duchess รุ่น CG9100S ▲▲
.
….
เครื่องบดกาแฟ Duchess รุ่น CG9100S มีขนาดกะทัดรัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก ฐานตัวเครื่องและโถใส่เมล็ดกาแฟใช้วัสดุเป็นสเตนเลสสีเงิน แข็งแรง มาพร้อมฝาครอบพลาสติกชนิดหนาพิเศษสีใส ช่วยให้มองเห็นการทำงานของเครื่องด้านในได้อย่างชัดเจน ใบมีดบดใช้วัสดุเป็นสเตนเลสเช่นกัน แม้จะมีน้ำหนักเบาแต่ก็แข็งแรง สามารถใช้บดได้ทั้งเมล็ดกาแฟ เมล็ดธัญพืชเปลือกแข็ง รวมถึงเครื่องเทศได้หลายชนิด และโถปั่นยังสามารถถอดล้างออกมาทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
เครื่องบดกาแฟรุ่นนี้มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถปรับระดับการบดได้นะคะ มอเตอร์บดเมล็ดจะมีแรงปั่นคงที่อยู่ที่ 12,000 รอบต่อนาทีเสมอ ดังนั้นผู้ใช้งานอาจจะต้องลองผิดลองถูกกะเวลาในการบดคร่าว ๆ เพื่อให้ได้ผงกาแฟมีความละเอียดตามที่ต้องการในที่สุด ยิ่งใช้เวลาบดนาน ผงกาแฟที่ได้ก็จะมีความละเอียดขึ้นค่ะ เมื่อลองสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริง หลายคนชอบที่ตัวเครื่องใช้วัสดุแข็งแรง โถใส่เมล็ดบิดล็อกง่าย ใช้เวลาไม่นานแต่บดเมล็ดกาแฟได้ละเอียดดีเลย
ราคา | 890 บาท |
ประเภทเครื่อง | ไฟฟ้า |
กำลังไฟฟ้า | 200 วัตต์ |
มีดบดที่ใช้ | Stainless Burr |
ระดับการบด | 1 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถสเตนเลส ปิดด้วยฝาพลาสติกใส ปิดมิดชิด – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 80 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า ETZEL รุ่น SN7820 ▲▲
….
….
มาดูเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าราคาหลักร้อยอย่าง ETZEL รุ่น SN7820 กันบ้าง ฐานด้านล่างเป็นสเตนเลสสีดำ ตัดกับสีเงินของโถใส่เมล็ดด้านในที่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย มาพร้อมกับฝาครอบพลาสติกหนา สีใส มองเห็นเมล็ดกาแฟด้านในได้อย่างชัดเจน ด้านล่างฐานเครื่องบดมีปุ่มยางกันลื่น ช่วยเสริมความมั่นคงให้ตัวเครื่องไม่ขยับไปมาในระหว่างบดเมล็ดกาแฟ พร้อมมีช่องให้สำหรับขดเก็บสายไฟได้อย่างเรียบร้อย
ชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบง่าย เพียงใส่โถบรรจุเมล็ดลงไปแล้วหมุนล็อก จากนั้นเทเมล็ดกาแฟตามต้องการได้เลย โดยปริมาณสูงสุดที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 75 กรัม จากนั้นให้ปิดด้วยฝาครอบพลาสติกใส และกดเปิดเครื่องได้เลย หากต่ออุปกรณ์ไม่ลงล็อกให้เรียบร้อย เครื่องก็จะไม่ทำงานค่ะ และความละเอียดของผงกาแฟที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เวลาบดนานแค่ไหน ถ้าต้องการผงกาแฟหยาบสำหรับใช้ชงแบบเฟรนส์เพลส แนะนำให้บดเพียง 10 วินาทีก็พอแล้วค่ะ ผู้ใช้งานจริงหลายท่านประทับใจ เครื่องใช้งานดีมาก ทำงานเร็ว และราคาไม่แพงด้วย
ราคา | 790 บาท |
ประเภทเครื่อง | ไฟฟ้า |
กำลังไฟฟ้า | 200 วัตต์ |
มีดบดที่ใช้ | Stainless Burr |
ระดับการบด | 1 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถสเตนเลสทึบแสง ปิดด้วยฝาพลาสติกใส – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 75 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
แนะนำ 5 เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย บดละเอียด คงรสชาติแท้ของเมล็ดกาแฟ
สำหรับใครที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ไม่อยากได้เครื่องบดกาแฟที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า หรือใครที่ชอบความคลาสสิก กำลังมองหางานอดิเรกใหม่ ๆ และอยากทำให้การบดกาแฟกลายเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ แก้เบื่อยามเช้า ต้องลองใช้เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนดูสักครั้งค่ะ รับรองว่าจะต้องตกหลุมรัก และอยากบดกาแฟดื่มเองทุกวันเลยแน่นอนค่ะ ซึ่งวันนี้เรามีมาแนะนำถึง 5 ตัวด้วยกัน ดังนี้
…
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน Timemore Chestnut C2 ▲▲
….
….
เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนตัวแรกที่อยากแนะนำเลยคือ Timemore Chestnut C2 ผิวด้านนอกใช้วัสดุ Space Aluminium มีน้ำหนักเบา ทำให้ผิวกระบอกเงางาม ดูเรียบหรู และยังออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นช่องกริดสี่เหลี่ยมเล็กโดยรอบ ทำให้ผิวสัมผัสไม่ลื่น เวลาใช้มือหนึ่งจับที่ตัวกระบอกให้นิ่งเพื่อหมุนบดเมล็ดกาแฟจึงสามารถทำได้อย่างถนัดมือ ด้ามจับเป็นก้านเหล็กแข็งแรง มาพร้อมกับลูกตุ้มใหญ่ที่ปลายด้าม ช่วยให้จับหมุนได้ง่ายไม่เมื่อยแขน เป็นเครื่องบดกาแฟที่นอกจากจะใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังมีดีไซน์ที่สวยงาม สามารถซื้อเป็นของขวัญพรีเมี่ยมได้เลยด้วย
ใบมีดบดด้านในทำจากสเตนเลส HRC 58 ซึ่งเป็นสเตนเลสชุบแข็งพิเศษ ทนกว่าสเตนเลสทั่วไป ทำให้ใบมีดคมอยู่เสมอ และมีอายุการใช้งานนานกว่าใบมีดสเตนเลสธรรมดา นอกจากนี้ผู้ผลิตยังมีกล่องเก็บอุปกรณ์มาให้ด้วย ด้านในมีผ้า และแปรงสำหรับทำความสะอาดหลังใช้งานใส่มาให้ เมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ใช้งานจริง หลายท่านให้ความเห็นตรงกันว่าสินค้าจริงวัสดุดีมาก เป็นเครื่องบดกาแฟที่ดูแพง สามารถบดเมล็ดสบายมือ ไม่เมื่อยเลย ได้ผงกาแฟที่มีขนาดสม่ำเสมอ และทำให้ชงกาแฟได้หอมขึ้นด้วย
ราคา | 2,500 บาท |
ประเภทเครื่อง | มือหมุน |
กำลังไฟฟ้า | – |
มีดบดที่ใช้ | Stainless Burr |
ระดับการบด | 1 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถสเตนเลสทึบแสง ปิดมิดชิด – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 25 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน GEFU Coffee Grinder LORENZO รุ่น 16330 ▲▲
….
….
เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุน GEFU Coffee Grinder LORENZO รุ่น 16330 มีดีไซน์แปลกตา เป็นแบบทรงกรวย แตกต่างจากเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนทั่ว ๆ ไป ที่มักจะออกแบบเป็นทรงกระบอกยาว มีก้านหมุนหนาอยู่ด้านบน โดยบริเวณที่เชื่อมกับโถใส่เมล็ด สามารถหมุนตั้งค่าความละเอียดการบดได้ทั้งหมด 11 ระดับ ด้านในใช้ตัวบดเซรามิก แข็งแรง ไม่สะสมความร้อน และสามารถรองรับปริมาณกาแฟในการบดต่อครั้งได้สูงสุด 25 กรัม
ถัดลงมาด้านล่างมีกล่องใส่ผงกาแฟรองอยู่ โดยจะมีขีดแจ้งระดับว่าหากบดเมล็ดจนได้ผงกาแฟปริมาณเท่านี้ จะสามารถใช้ชงกาแฟได้ทั้งหมดกี่แก้ว ซึ่งปริมาณผงกาแฟที่ได้สูงสุดต่อการบดเต็ม Capacity 1 ครั้งจะอยู่ที่ 4 แก้ว หลังใช้งานเสร็จสามารถถอดแกนหมุนออกเพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้ และเมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ที่ได้ซื้อเครื่องบดกาแฟรุ่นนี้ไปใช้จริง หลายคนชอบที่สินค้ามีความแข็งแรง แต่มีข้อเสียคือ บริเวณมือจับลื่นไปนิด ทำให้ตอนใช้บดเมล็ดในระดับที่ละเอียดมาก ๆ หมุนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก
ราคา | 2,190 บาท |
ประเภทเครื่อง | มือหมุน |
กำลังไฟฟ้า | – |
มีดบดที่ใช้ | Ceramic Burr |
ระดับการบด | 11 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถสเตนเลสทึบแสง ปิดด้วยฝาพลาสติกใส – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 25 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน Kalita Coffee Mill รุ่น KH-3 ▲▲
….
….
เครื่องบดกาแฟ Kalita Coffee Mill รุ่น KH-3 ถูกออกแบบมาในแนววินเทจ มีการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของโถบดเมล็ดด้านบนที่ใช้วัสดุเป็นเหล็ก เผยให้เห็นผิวโลหะสีเข้มชัดเจน ดูเข้ากับกล่องไม้เก็บผงกาแฟสีน้ำตาล ผิวเรียบสวย สไตล์มินิมอลได้เป็นอย่างดี ทำให้โดยรวมแล้วดูเป็นเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนที่มีความเก๋า และ มีความทันสมัยอยู่ในตัวด้วยเหมือนกัน ด้านล่างกล่องไม้มีแผ่นกันลื่นใส่ไว้ที่ฐาน ทำให้หมุนบดเมล็ดได้อย่างมั่นคง เครื่องไม่ขยับเลื่อนในขณะใช้งาน
มีดบดด้านในใช้วัสดุเป็นเหล็กเช่นเดียวกับโถใส่เมล็ด ทำให้สามารถบดเมล็ดกาแฟได้อย่างละเอียด และได้ผงกาแฟที่มีขนาดเท่า ๆ กันพอดี อีกทั้งโถใส่เมล็ดกาแฟยังเป็นแบบเปิด ทำให้ในระหว่างหมุนบดเมล็ดจะได้กลิ่นกาแฟหอมอบอวลไปด้วย โดยสามารถปรับความละเอียดได้ 2 แบบ คือบีบให้มีดบดอยู่ชิดกันเพื่อใช้บดเมล็ดแบบละเอียด แต่ถ้าดึงให้มีดบดอยู่ห่างกันออกไป ก็จะได้ผงกาแฟที่หยาบขึ้นค่ะ เมื่อลองอ่านความเห็นของผู้ที่ซื้อไปใช้จริง พบว่าหลายคนชอบมาก ขนาดกำลังพอดี บดง่ายเบามือ และยังใช้วัสดุดีด้วย
ราคา | 1,290 บาท |
ประเภทเครื่อง | มือหมุน |
กำลังไฟฟ้า | – |
มีดบดที่ใช้ | Steel Burr |
ระดับการบด | 2 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถเหล็กครึ่งวงกลม – เมล็ดกาแฟสัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 25 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน Elit Vintage Manual Coffee Grinder รุ่น VCG204-WJ ▲▲
….
….
มาดูเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนในราคาประหยัดกันบ้างค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟราคาไม่เกินห้าร้อยบาท ขอแนะนำเครื่องบดกาแฟ Elit Vintage Manual Coffee Grinder รุ่น VCG204-WJ ที่ใช้วัสดุหลักเป็นไม้และเหล็กสีเข้ม คล้ายกับเครื่องบดกาแฟ Kalita Coffee Mill รุ่น KH-3 เลย แต่มีขนาดใหญ่กว่า บริเวณมือหมุนและโถใส่เมล็ดกาแฟด้านบนถูกออกแบบมาให้ดูคล้ายกับเครื่องจักรโบราณ เหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคที่สามารถวางประดับบ้านได้เลย
โถใส่เมล็ดถูกออกแบบมาเหมือนพอบถ้วยเล็ก ดูเข้ากับส่วนประกอบอื่น ๆ ส่วนด้ามหมุนบดเมล็ดกาแฟถูกออกแบบมาตามหลัก Ergonomics เพื่อให้สอดคล้องกับสรีระร่างกายของมนุษย์ ทำให้เครื่องบดกาแฟรุ่นนี้ต้องใช้วิธีหมุนบดแบบระนาบดิ่ง หมุนง่าย ช่วยประหยัดแรง ทำให้ไม่เมื่อยมือ เมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ที่ซื้อไปใช้จริง หลายคนให้ความเห็นว่าสินค้าจริงสวยเหมือนรูปที่แสดงให้ดูเลย ลองบดเมล็ดแล้วได้ขนาดผงกาแฟที่สม่ำเสมอดี เครื่องสวย และยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย
ราคา | 360 บาท |
ประเภทเครื่อง | มือหมุน |
กำลังไฟฟ้า | – |
มีดบดที่ใช้ | N/A |
ระดับการบด | 1 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถเหล็กทึบ ปิดมิดชิด – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 25 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✘ |
.
▼▼ เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน Coffee Bean Grinder ▲▲
….
อีกหนึ่งเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนราคาประหยัดที่หยิบมาแนะนำคือ Coffee Bean Grinder มีดีไซน์เฉพาะตัว กล่องเก็บผงกาแฟด้านล่างออกแบบมาเป็นโหลแก้วสีใส ตัดกับสีดำของโถใส่เมล็ด และด้ามหมุนบดด้านบน โดยรวมแล้วดูคล้ายกับตะเกียงโบราณในยุคเก่า ใครที่ชื่นชอบสไตล์วินเทจอยู่แล้ว ก็คงจะถูกใจไม่น้อยเลยค่ะ นอกจากนี้ โถใส่เมล็ดกาแฟยังเป็นแบบเปิด ทำให้ในระหว่างบดเมล็ดจะได้กลิ่นหอมของกาแฟลอยขึ้นมาด้วย ช่วยเพิ่มอรรถรส และทำให้อยากดื่มกาแฟมากขึ้นกว่าเดิม
เครื่องบดกาแฟรุ่นนี้มีขนาดเล็กกะทัดรัด แถมยังประกอบง่ายมาก สามารถพกพาไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวก เฟืองบดด้านในเป็นเซรามิก ไม่สะสมความร้อน ทนแข็งแรง และยังสามารถปรับการบดเมล็ดเป็นแบบหยาบ หรือแบบละเอียดได้ด้วย เรียกว่าเป็นเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนอีกชิ้นหนึ่งที่คุณภาพคุ้มเกินราคาจริง ๆ ค่ะ เมื่อลองอ่านรีวิวสินค้า พบว่าหลายคนที่ซื้อไปใช้ชอบมาก บดเมล็ดได้ดี แก้วบรรจุผงกาแฟหนา และยังถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ออกมาทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ ด้วยค่ะ
ราคา | 269 บาท |
ประเภทเครื่อง | มือหมุน |
กำลังไฟฟ้า | – |
มีดบดที่ใช้ | Ceramic Burr |
ระดับการบด | 2 ระดับ |
ลักษณะของโถบด | – โถทึบแสง ปิดมิดชิด – เมล็ดกาแฟไม่สัมผัสกับอากาศ |
ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟ | 75 กรัม |
พกพาได้ | ✓ |
ถอดล้างทำความสะอาดง่าย | ✓ |
.
เลือกซื้อเครื่องบดกาแฟอย่างไร
การที่จะหาเครื่องบดกาแฟดี ๆ มาใช้สักเครื่อง และเป็นเครื่องที่ทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุดนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อควรจะทราบรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกเครื่องบดกาแฟได้ง่ายขึ้น
…..
ความแตกต่างของเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า และ แบบมือหมุนคลาสสิก
- เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าสามารถเลือกระดับการบดได้เยอะกว่าเครื่องบดแบบใช้มือหมุน ซึ่งจะทำให้ได้ผงกาแฟหลายแบบให้เลือกใช้อย่างเหมาะสมกับการชงการแฟในรูปแบบที่ต้องการได้ดีกว่า
- เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนบางรุ่นโถมีใส่เมล็ดกาแฟเป็นประเภทไม่มีฝาปิด ทำให้สามารถบดเมล็ดพร้อมกับได้กลิ่นหอมผ่อนคลายของกาแฟสดไปด้วยพลาง ๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศแบบนี้ เป็นสิ่งที่หาไม่ได้หากใช้เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า
- เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าบางรุ่น อย่างเครื่องบดกาแฟ Melitta Molino Coffee Grinder รุ่น CoffeeWORKS-HH009 มีฟังก์ชันที่สามารถเลือกได้ว่าต้องการบดเมล็ดเพื่อใช้สำหรับดื่มกาแฟกี่แก้ว โดยหลังจากที่เติมเมล็ดเข้าไปในเครื่องแล้ว เครื่องจะทำการบดเมล็ดกาแฟตามปริมาณที่ตั้งค่าไว้เท่านั้น ทำให้ไม่มีผงกาแฟเหลือทิ้ง ได้ดื่มกาแฟที่สดใหม่อยู่เสมอ และยังไม่ต้องมากะปริมาณเมล็ดกาแฟในทุก ๆ ครั้งที่ต้องการบดเองอีกด้วย
- เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าช่วยประหยัดเวลาในการชงกาแฟ สามารถบดกาแฟได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องเร่งรีบ มีเวลาเตรียมตัวในตอนเช้าน้อยมาก ในขณะที่เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้เวลาเตรียมกาแฟแก้วโปรดอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนจริง ๆ และอยากเสพบรรยากาศที่หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟในขณะที่กำลังค่อย ๆ บดเมล็ดไปพลาง ๆ ด้วย
- เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนมีขนาดเล็กกว่า และมีน้ำหนักเบากว่าเครื่องบดกาแฟแบบใช้ไฟฟ้า เหมาะสำหรับพกพาไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ตั้งแคมป์ ไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศได้ดีกว่า ช่วยให้มีกาแฟสดดื่มได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า
- เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนมักจะถูกออกแบบมาในสไลต์วินเทจ คลาสสิก ในขณะที่เครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าจะออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ทันสมัย
.
วัสดุของใบมีดที่ใช้บดเมล็ดกาแฟ
อีกสิ่งสำคัญที่ต้องเช็คก่อนตัดสินใจซื้อ คือ ลักษณะใบมีดของเครื่องบดกาแฟนั้นเป็นแบบไหน ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีทั้งหมด 3 แบบดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ใบมีดเหล็ก (Steel Burr) – ใบมีดเหล็กจะมีความทนทานแข็งแรงมากที่สุด บดกาแฟได้ดี แต่ก็สามารถนำความร้อนได้ดีเช่นกัน หมายความว่า หากบดกาแฟอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ใบมีดจะเกิดความร้อนสะสมขึ้น ซึ่งอาจทำให้ในขณะใช้งานอยู่มีกลิ่นเหล็กหรือกลิ่นไหม้ลอยขึ้นมาได้ ใบมีดประเภทนี้จึงมักจะถูกใช้ในเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนมากกว่า เนื่องจากมีรอบการปั่นต่อนาทีน้อยกว่าแบบไฟฟ้า และผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมการหมุนเองได้ด้วย
2. ใบมีดสเตนเลส (Stainless Burr) – สเตนเลสเป็นวัสดุที่ผสมกันระหว่างโลหะกับเหล็ก แม้จะมีความแข็งแรงน้อยกว่าใบมีดแบบเหล็ก แต่ก็มีความทนทานเพียงพอสำหรับการบดเมล็ดกาแฟ และเมล็ดธัญพืชอื่น ๆ ด้วย มีน้ำหนักเบา สะสมความร้อนไว้น้อยกว่าใบมีดเหล็ก จึงเป็นที่นิยมในการใช้เป็นใบมีดสำหรับเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า
3. ใบมีดเซรามิก (Ceramic Burr) – ใบมีดเซรามิกนำความร้อนได้น้อยกว่าใบมีดเหล็ก ดังนั้นแม้จะบดกาแฟอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ก็เกิดความร้อนสะสมขึ้นน้อย มีความแข็งแรง และเนื่องจากเซรามิกไม่มีการทำปฏิกิริยาทางเคมีกับน้ำและก๊าซในอากาศ ทำให้แม้จะมีการล้างทำความสะอาดบ่อยครั้ง ใบมีดก็ยังคงมีคุณภาพดีอยู่ ไม่สึกหรอ โดยรวมแล้วจึงมีอายุการใช้งานนานกว่าใบมีดที่มีเหล็กผสมค่ะ
.
ลักษณะของโถบดเมล็ดกาแฟ
เครื่องบดกาแฟจะมีโถใส่เมล็ดกาแฟ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ โถใส่เมล็ดแบบเปิด และแบบปิด
1. โถใส่เมล็ดแบบเปิด เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับทุก ๆ ขั้นตอน ค่อย ๆ บดเมล็ดกาแฟอย่างช้า ๆ เพื่อให้ได้กาแฟสดหนึ่งแก้วที่สมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งการใช้โถใส่เมล็ดแบบเปิดนั้นจะทำให้ได้กลิ่นหอมของกาแฟอยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย และยิ่งทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับการบดเมล็ดกาแฟมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม การใช้โถแบบเปิดนั้นมีมีข้อเสียเช่นกัน เนื่องจากไม่มีฝาปิดจึงทำให้เมล็ดกาแฟสัมผัสกับอากาศโดยตรง ซึ่งส่งผลให้ผงกาแฟบดละเอียดที่ได้มานั้นมีกลิ่นอ่อนลง
2. โถใส่เมล็ดแบบปิด ช่วยกักเก็บกลิ่นของเมล็ดกาแฟไว้ ทำให้เมื่อบดเมล็ดเรียบร้อยแล้ว จะได้ผงกาแฟสดที่มีกลิ่นหอมนาน และโถใส่เมล็ดแบบปิดยังช่วยให้เมล็ดกาแฟไม่กระเด็นหล่นในระหว่างบดเมล็ด รวมถึงช่วยป้องกันฝุ่นละอองที่อาจปะปนมาทำให้กาแฟเสียรสชาติได้อีกด้วย
.
เลือกเครื่องบดกาแฟที่ให้ปริมาณผงกาแฟต่อครั้งได้พอดีกับความต้องการ
อีกหนึ่งเรื่องที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องบดกาแฟ คือ ขนาดบรรจุเมล็ดกาแฟว่าสามารถใส่เมล็ดกาแฟได้มากน้อยแค่ไหน หากโถใส่เมล็ดใหญ่ สามารถจุเมล็ดกาแฟได้เกิน 200 กรัม บดกาแฟเพียงครั้งเดียวก็จะมีผงกาแฟสำหรับชงดื่มได้หลายแก้ว แต่มีข้อเสียคือการบดกาแฟเตรียมไว้มาก ๆ และเก็บไว้นานนั้น จะทำให้ผงกาแฟที่ได้ไม่หอมสดใหม่
สำหรับโถบดกาแฟที่สามารถจุเมล็ดได้ประมาณ 20-30 กรัม แม้จะเป็นปริมาณที่น้อย แต่ก็ถือว่ากำลังพอดีในกรณีที่ใช้เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน เพราะไม่ต้องใช้เวลาบดนานเกินไป ไม่ทำให้เมื่อยแขน และปริมาณผงกาแฟที่ได้ก็ไม่มากเกินไปจนทำให้กลิ่นกาแฟเจือจางลงด้วย นอกจากนี้เมื่อลองคำนวณคร่าว ๆ แล้ว กาแฟ 1 ช็อต จะใช้ผงกาแฟประมาณ 8 กรัม ดังนั้นการบดเมล็ดด้วยเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหนึ่งครั้ง ก็จะได้ผงกาแฟสำหรับชงดื่ม 2-4 แก้ว ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสม เหมือนได้ผงกาแฟที่สดใหม่อยู่เสมอ
.
เลือกจากดีไซน์ของเครื่อง
เครื่องบดกาแฟมีหลายดีไซน์ให้เลือกตามความชอบ สำหรับคอกาแฟที่เน้นความสะดวก อยากได้เครื่องที่บดกาแฟได้รวดเร็ว ชอบสไตล์โมเดิร์นทันสมัย เรียบ ๆ แนะนำให้เลือกเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า เพราะบดเมล็ดได้ละเอียด รวดเร็ว ใช้งานง่าย ลักษณะภายนอกมักจะถูกออกแบบมาเป็นทรงสี่เหลี่ยม ใช้โทนสีดำ ขาว เทา มีวัสดุหลักเป็นสเตนเลสและพลาสติก สีเรียบ ไม่สะดุดตา
ในทางกลับกัน เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนหลายรุ่นถูกออกแบบมาโดยใช้วัสดุหลักเป็นเหล็กและไม้ แทนการใช้สเตนเลส ทำให้ผิวด้านนอกของเครื่องบดกาแฟเห็น Texture ของวัสดุชัดเจน ซึ่งก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะบางรุ่นอย่าง Elit Vintage Manual Coffee Grinder รุ่น VCG204-WJ ที่นอกจากจะเห็นผิวไม้ชัดสวยงามแล้ว ยังมีดีไซน์ไม่เหมือนใคร มองดูคล้ายเครื่องจักรโบราณ สามารถวางเป็นของแต่งบ้านชิ้นหนึ่งได้เลย ใครที่ชอบความคลาสสิก ชอบสไตล์วินเทจ และอยากได้เครื่องบดกาแฟที่ดูแตกต่างจากที่เห็นตามร้านกาแฟทั่วไป ต้องเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนมาวางไว้ที่บ้านเลยค่ะ
.
เครื่องบดกาแฟที่ประกอบใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักเดินทาง
สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ยังอยากจิบกาแฟสดอยู่ทุกเช้า แนะนำให้เลือกเครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุนที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอกยาวนะคะ เพราะนอกจากจะไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าแล้ว ยังสามารถถอดแยกชิ้นส่วนง่าย ทำให้พกพาได้สะดวก โดยบางรุ่นประกอบแค่ตัวด้ามหมุนอย่างเดียว บางรุ่นสามารถแยกชิ้นส่วนได้ทั้งตัวด้ามหมุน โถใส่เมล็ดกาแฟ และกล่องใส่ผงกาแฟเลย
เพื่อความสะดวกและให้สามารถใช้งานได้เร็วที่สุด แนะนำให้เลือกเครื่องบดกาแฟรุ่นกระบอกยาวเล็ก ใช้วัสดุเป็นสเตนเลสบาง น้ำหนักเบา และเวลาใช้งานต้องประกอบเพียงแค่ด้ามหมุนชิ้นเดียวก็พอค่ะ เพราะถ้ายิ่งชิ้นส่วนอุปกรณ์เยอะ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการสูญหายได้ และยังเสียเวลาในการประกอบเพื่อใช้งานในแต่ละครั้งด้วย
.
เลือกเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าที่ปรับระดับความละเอียดของการบดได้
การชงกาแฟแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นเอสเพรสโซ่ มอคค่า หรือกาแฟดริป ต่างใช้ผงกาแฟที่มีความหยาบ-ละเอียดไม่เหมือนกัน ดังนั้นคงดีมาก ๆ เลย ถ้าเครื่องบดกาแฟที่กำลังเล็งอยู่สามารถปรับเลือกระดับความละเอียดได้ด้วย ซึ่งผงกาแฟที่เหมาะสมกับการชงกาแฟสดในแต่ละแบบนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- บดเมล็ดกาแฟแบบละเอียดมาก เหมาะสำหรับใช้ชงกาแฟเอสเพรสโซ่ ซึ่งเครื่อง Espresso Machine จะสร้างกาแฟขึ้นได้ต้องอาศัยแรงดันร่วมกับความร้อน ดันให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟอย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งผงกาแฟละเอียดมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้น้ำไหลผ่านได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้ได้กาแฟเอสเพรสโซ่รสชาติเข้มข้นขึ้นตามไปด้วย
- บดเมล็ดกาแฟแบบละเอียดปานกลาง เหมาะสำหรับการชงกาแฟดริปที่จะทำการสกัดกาแฟออกมาโดยใช้แผ่นกรองวาง จากนั้นเทน้ำร้อนผ่านผงกาแฟช้า ๆ ซึ่งจะทำให้ได้กาแฟรสชาติเบา ดื่มสบาย
- บดเมล็ดกาแฟแบบหยาบ เหมาะสำหรับการชงกาแฟโดยใช้กาเฟรนซ์เพลส (French Press) ซึ่งจะมีตาข่ายช่วยกรองผงกาแฟอยู่ด้วย ดังนั้นจึงควรใช้ผงกาแฟหยาบ เพื่อไม่ให้กากกาแฟหลุดออกมาพร้อมกับน้ำมากจนเกินไป
.
การเก็บล้างทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟ
หลังจากได้ดื่มกาแฟสดฝีมือตัวเองแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ การเก็บล้างทำความสะอาด ซึ่งการทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟก็มีวิธีการทำความสะอาดที่แตกต่างกันไปตามดีไซน์ของเครื่อง โดยสามาถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังต่อไปนี้
- เครื่องบดกาแฟแบบใช้มือหมุน ที่สามารถถอดแยกชิ้นอุปกรณ์ทุกส่วนได้
หลังใช้งานแล้วให้ถอดอุปกรณ์ทั้งด้ามหมุน โถใส่เมล็ดกาแฟ และส่วนที่เก็บผงกาแฟออกจากกัน จากนั้นล้างทำความสะอาดแล้วผึ่งไว้ให้แห้ง บางรุ่นอย่าง Timemore Chestnut C2 จะมีกล่องเก็บอุปกรณ์มาให้ด้วย ควรเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันชิ้นส่วนอุปกรณ์สูญหายด้วยค่ะ
- เครื่องบดกาแฟที่สามารถถอดโถใส่เมล็ดกาแฟ หรือกล่องใส่ผงกาแฟออกได้
หลังจากใช้งานเสร็จควรล้างทำความสะอาด และใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง หลังจากนั้นนำโถใส่เมล็ดกาแฟ หรือกล่องใส่ผงกาแฟไว้ที่เครื่องเหมือนเดิม
- เครื่องบดกาแฟที่ไม่สามารถถอดโถใส่เมล็ดได้
เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ใช้ผ้าแห้ง หรือแปรงปัดละอองกาแฟที่เหลืออยู่ออกก่อน จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดหนึ่งครั้ง รอให้แห้ง แล้วจึงเก็บเครื่องบดกาแฟให้เข้าที่
อย่างไรก็ตาม กรณีใช้เครื่องบดกาแฟแบบที่โถใส่เมล็ดกาแฟเป็นแบบเปิด ไม่มีฝาปิด อาจจะทำให้มีฝุ่นละออง หรือขนสัตว์เลี้ยงเกาะอยู่บนผิวอุปกรณ์ได้ ก่อนใช้งานควรตรวจเช็กและใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดด้วย เพื่อที่จะได้กาแฟที่รสชาติไม่เพี้ยนและสะอาดถูกสุขอนามัยที่สุดค่ะ
.
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
หลังจากที่ได้อ่านบทความกันไปแล้ว หวังว่าเครื่องบดกาแฟทั้ง 10 เครื่องที่เลือกมาแนะนำนั้นคงจะถูกใจกันนะคะ ก่อนตัดสินใจซื้ออยากให้เพื่อน ๆ อ่านรายละเอียดสินค้าให้ดี ลองดูก่อนว่าเราอยากได้เครื่องบดกาแฟแบบไหน แบบใช้มือหมุน หรือแบบใช้ไฟฟ้า หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ พิจารณาฟังก์ชัน และ องค์ประกอบอื่น ๆ ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปริมาณเมล็ดกาแฟที่สามารถรองรับได้ และสามารถปรับระดับความละเอียดของผงกาแฟได้หรือไม่ด้วย
นอกจากนี้อย่าลืมเช็คด้วยนะคะว่ามีดบดของเครื่องบดกาแฟนั้นเป็นแบบไหน สำหรับเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า ควรเช็คกำลังไฟฟ้าด้วยว่าตัวเครื่องดึงพลังงานจากไฟบ้านไปเยอะแค่ไหน หากต้องใช้งานทุกวันจะเปลืองไฟหรือเปล่า รวมถึงเช็คด้วยว่ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติให้เมื่อเครื่องบดกาแฟไม่พร้อมใช้งานด้วยหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย และจะได้ดื่มกาแฟแสนอร่อยอย่างสบายใจในทุก ๆ วันด้วยค่ะ