แนะนำ 10 แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2020 แรงสั่นสะเทือนสูง ลดคราบพลัคได้ดี ไร้กลิ่นปาก
แปรงสีฟันไฟฟ้า อุปกรณ์แสนธรรมดาที่ถูกวางไว้ในห้องน้ำของใครหลาย ๆ คน ใครจะรู้ว่าเจ้าแปรงสีฟันไฟฟ้าชิ้นเล็ก ๆ นี้ จะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้คุณเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างสวยงาม เพราะแปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดช่องปาก แถมไม่ต้องออกแรงเยอะเลย แค่จับด้ามแปรงสีฟันไฟฟ้าให้ถนัดมือ ถูซ้าย-ขวา บน-ล่าง เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ ก็สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างหมดจด ต่อให้เร่งรีบหรือตื่นสายแค่ไหนก็รับรองได้เลยว่า แปรงสีฟันไฟฟ้าจะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สะอาดสดชื่นก่อนออกจากบ้านและมีสุขภาพฟันแข็งแรงไม่แพ้ใครแน่นอน
แปรงสีฟันไฟฟ้าถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้เลือกใช้มากมาย และมีฟังก์ชันการใช้งานที่เยอะแยะเต็มไปหมด จะทราบได้อย่างไรว่าฟังก์ชันไหนสำคัญ ฟังก์ชันไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา และนอกจากเรื่องราคาแล้ว ควรพิจารณาเปรียบเทียบแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ อย่างไรดี หรือจริง ๆ แค่เปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าแทนแปรงสีฟันแบบธรรมดาก็ดีกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ ? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังสับสน และไม่ทราบว่าแปรงสีฟันไฟฟ้านั้นดีกว่าอย่างไร ควรเลือกใช้ยี่ห้อใดถึงไม่ตกเทรนด์และคุ้มค่าที่สุด ลองอ่าน 10 แปรงสีฟันไฟฟ้าน่าใช้ที่นำมาแนะนำวันนี้กันดูก่อนนะคะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดาอย่างไร ?
หลายคนไม่เห็นความจำเป็นของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า มองว่าใช้แปรงสีฟันแบบธรรมดาก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อรู้สึกปวดฟัน เสียวฟัน หรือฟันผุขึ้นมา ลองมองย้อนกลับดูนะคะว่า จริง ๆ แล้วเราดูแลสุขภาพฟันของเราได้ดีพอแล้วหรือยัง? วันนี้ได้สรุปเหตุผลสั้น ๆ มาให้ลองอ่านกันค่ะ ว่าการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าอย่างไรบ้าง
1. ในต่างประเทศมีงานวิจัยหลายงานเลยค่ะที่ชี้ให้เห็นว่าการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าจะช่วยกำจัดคราบพลัคได้ดีกว่าการใช้แปรงสีฟันแบบธรรมดา
2. การใช้แปรงสีฟันแบบไฟฟ้าช่วยให้มีสุขภาพฟันที่ดีขึ้น ในระยะเวลาการแปรงฟันที่น้อยลง นั่นก็เพราะแปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีการสั่นสะเทือนต่อนาทีมากกว่าการที่เราแปรงฟันด้วยตัวเองนั่นเอง
3. การแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าทำให้เรารู้สึกสนุกและมีความสุขกับการแปรงฟันมากกว่าปกติ โดยจะเห็นได้ว่าหลายยี่ห้อมีการพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานมาให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมดการแปรงในระดับต่าง ๆ ที่สามารถให้เราเลือกเองได้เลยว่า วันนี้เราจะลองเลือกโหมดแปรงเบา ๆ สำหรับทำความสะอาดเหงือก หรือโหมดแปรงระดับสูงสุด สำหรับขัดสีฟันให้ขาวสะอาด นอกจากนี้ผู้ผลิตบางรายยังมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกมารองรับด้วย ทำให้เราสามารถดูประวัติการแปรงฟันของเราได้ทุกวัน และยังสามารถเช็กสุขภาพฟันกันแบบเรียลไทม์ได้เลย
4. การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้านั้นไม่จำเป็นต้องขยับแปรงมาก แต่ก็สามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับใครที่มีอาการบาดเจ็บที่แขนหรือข้อมือ ผู้สูงอายุที่รู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเด็กเล็กที่อาจจะยังไม่ทราบวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพราะเมื่อลองเทียบกับการแปรงฟันแบบธรรมดา โดยปกติแล้วจะมีการสั่นสะเทือนอยู่ที่ 300 ครั้งต่อนาทีเท่านั้นเอง ในขณะที่การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยให้เกิดแรงสั่นในการทำความสะอาดฟันมากกว่า 10,000 ครั้งต่อนาทีเลยทีเดียว
พอจะเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วใช้มั้ยล่ะคะว่า ควรเลิกใช้แปรงสีฟันธรรมดาและเปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าได้แล้ว แต่จะเลือกซื้อยังไงดี เรามีสรุปมาให้อ่าน 10 แปรงสีฟันไฟฟ้าน่าใช้ด้านล่างเลยค่ะ
…
ตารางสรุปข้อมูลแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบรวบรัด
…
แนะนำ 10 แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี แรงสั่นสะเทือนสูง ลดคราบพลัคได้ดี ไร้กลิ่นปาก
ได้เห็นกันประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้ากันไปแล้ว ลองมาดู 10 แปรงสีฟันไฟฟ้านี้นำมาแนะนำกันวันนี้บ้างนะคะ ว่าจะมีตัวไหนตรงใจและฟังก์ชันการใช้งานเหมาะกับทุกคนบ้าง
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare HX6857/30 ▲▲
….
แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips รุ่น Sonicare HX6857/30 ออกแบบมาในโทนสีขาวและสีมิ้นต์ ดูสะอาดตา พร้อมแท่นชาร์จและกล่องเก็บสำหรับพกพา ง่ายและสะดวกต่อการเดินทาง อีกทั้งขจัดสิ่งสกปรกในช่องปากโดยการสั่นด้วยคลื่นโซนิค Philips Sonicare ซึ่งจะทำให้น้ำที่อยู่ระหว่างซอกฟันเกิดการสั่นสะเทือน ช่วยกระเทาะเอาคราบสิ่งสกปรกและหินปูนให้หลุดลอกออกมา โดยสามารถเลือกโหมดการแปรงได้ 3 โหมด ดังต่อไปนี้
- โหมด Clean สำหรับการทำความสะอาดช่องปากในระดับมาตรฐาน แนะนำให้ใช้โหมดนี้เป็นประจำทุกวัน
- โหมด Gum Care ควรใช้เมื่อต้องการทำความสะอาดหรือนวดเหงือก
- โหมด White ใช้สำหรับขจัดคราบที่เกาะอยู่บนผิวฟัน
ในระหว่างแปรงฟันจะมี Pressure Censor คอยตรวจจับแรงกดภายใน เพื่อเช็กว่าคุณไม่ได้แปรงฟันแรงเกินไปจนเป็นอันตรายต่อเหงือก และยังมีระบบ SmarTimer ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ Quadpacer คอยเตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที โดยด้ามจับจะสั่นเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาทีเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเป็นผู้ช่วยที่ทำให้เราแปรงฟันได้อย่างสะอาดทั่วถึงในระยะเวลาที่เหมาะสมจริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 14 วันหลังการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม และที่บริเวณด้ามจับจะมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่แจ้งอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี BrushSync เพื่อช่วยเตือนผู้ใช้งานว่าควรเปลี่ยนหัวแปรงเมื่อใด ด้วยเทคโนโลยีที่ใส่มาให้ทั้งหมดนี้ ทำให้ผู้ใช้งานจริงหลายท่านชอบมาก ใช้งานได้ดี รู้สึกแปรงฟันสะอาดกว่าเดิม ชอบที่มีหัวแปรงจำหน่ายจาก Philips เองเลย หาซื้อง่าย มีทั้งหัวแปรงสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
ราคา | 4,990 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 14 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 3 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | Sonic |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 62,000 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✓ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✓ |
ระบบ Pressure Censor | ✓ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B รุ่น Pro 2 2500N ▲▲
…
….
แปรงสีฟันไฟฟ้าแบรนด์คุณภาพจากสหรัฐอเมริกา Oral-B รุ่น Pro 2 2500N แม้จะไม่ได้ใช้คลื่นโซนิคเหมือนตัวด้านบน แต่ฟังก์ชันสำคัญอื่น ๆ ก็ยังอยู่ครบ แตกต่างกันที่วิธีการทำงานของหัวแปรงเท่านั้น รุ่นนี้ถูกดีไซน์ออกมาให้หัวแปรงทำงานแบบ 3D แทน ซึ่งจะเป็นการขยับขนแปรง 3 แบบไปพร้อม ๆ กันในระหว่างทำความสะอาดซอกฟัน ได้แก่ การแกว่งขนแปรงซ้ายขวา (Oscillates) หัวแปรงหมุน (Rotates) และขนแปรงกดลงบนผิวฟัน (Pulsates) ทั้ง 3 วิธีนี้ทำให้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดไม่น้อยหน้าใครเลย สามารถปรับโหมดการทำงานได้ 2 โหมด คือ Daily Clean สำหรับใช้แปรงฟันในทุก ๆ วัน และโหมด Gum Care สำหรับทำความสะอาดเหงือก
ฟังก์ชันอื่น ๆ อย่างระบบ Pressure Censor ก็ยังมีมาให้เพื่อคอยแจ้งเตือนเมื่อใช้แรงกดหนักเกินไป พร้อมระบบ Professional Timer คอยจับเวลาและเตือนให้หยุดเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที ที่พิเศษกว่าคือเมื่อชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้นานมากกว่า 2 อาทิตย์ แถมราคาประหยัดกว่าตัวด้านบนด้วย สำหรับใครที่อยากได้แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นท็อป แต่ราคาเบากว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าอย่าง Philips Sonicare HX6857/30 รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ ลูกค้าหลายท่านที่ได้ใช้จริงต่างรู้สึกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้ช่วยทำความสะอาดฟันได้ดี ดีไซน์สวย แบตเตอรี่ทนทาน และใช้ได้นาน จึงอยากแนะนำให้ลองซื้อมาใช้กันสักครั้งนะคะ
ราคา | 3,490 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 16 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 2 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | 3D |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การแกว่งซ้ายขวา (Oscillates) การหมุน (Rotates) และการกด (Pulsates) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 40,000 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✓ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✓ |
ระบบ Pressure Censor | ✓ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Soocas X3U ▲▲
….
….
สำหรับใครที่อยากได้แปรงสีฟันไฟฟ้าฟังก์ชันการใช้งานครบเทียบชั้นแบรนด์ดังอย่าง Phillips และ Oral-B แต่ราคาน่าคบหากว่าแล้วล่ะก็ แนะนำให้ซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าจากค่ายที่มาแรงมาก ๆ อย่าง Xiaomi รุ่น Soocas X3U เลยค่ะ ราคาเพียง 1,350 บาท แต่คุณภาพคับจริง! (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้) เป็นแปรงสีฟันไฟฟ้ากันน้ำ ชาร์จไฟที่ 1 ครั้ง สามารถใช้ได้นานถึง 25 วัน! เกือบเดือนเลยค่ะ มีระบบ Pressure Censor ดูแลสุขภาพเหงือกในขณะแปรง พร้อมด้วยระบบจับเวลาเตือนให้การแปรงฟันให้จบลงที่ 2 นาที และคอยเตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาทีเช่นกัน
อีกทั้งใช้วิธีขจัดคราบสกปรกแบบโซนิคด้วย แต่มีการปรับระดับแรงสั่นสะเทือนให้ขนแปรงขยับลงมาอยู่ที่ 39,600 ครั้งต่อนาที ซึ่งก็ยังนับว่าสูงมาก แม้จะน้อยกว่าแปรงสีฟัน Philips Sonicare HX6857/30 ก็ตาม แต่ทางผู้ผลิตได้ใส่โหมดการทำงานทดแทนมาให้เต็มแม็กซ์ ถึง 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่
- โหมด Cleaning ใช้การสั่นสูงระดับที่สุด สำหรับใช้เวลาที่ต้องการขจัดคราบสกปรกออกไปเร็ว ๆ
- โหมด Sensitive สำหรับทำความสะอาดเหงือก
- โหมด Beginner สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า จะใช้การสั่นที่ช้าและเบาลง เพื่อให้ผู้ใช้งานคุ้นเคบกับแปรงก่อน
- โหมด Polishing หรือ Whitening ใช้แรงสั่นสูงรองลงมาจากโหมด Cleaning เพื่อให้ฟันขาวสะอาด
นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับการทำงานในแต่ละโหมดด้วย โดยหัวแปรงหลักจะเป็น Copper Free Brush Head ที่มีส่วนผสมของซิลิก้าช่วยให้ทำความสะอาดลิ้นได้ดี ส่วนอีก 2 หัวแปรงที่ให้มาคือ Polishing Brush Head ใช้คู่กับโหมด Polishing จะช่วยให้ขัดคราบสกปรกบนผิวฟันได้ดีขึ้น และ Sensitive Brush Head ขนแปรงนุ่มกว่า สำหรับใช้กับโหมด Sensitive หรือ Beginner เมื่อลองสำหรับความคิดเห็นผู้ใช้งานจริง หลายท่านชื่นชอบ รู้สึกคุ้มค่า ใช้งานได้ดี แปรงฟันได้สะอาด เสียงไม่ดังเลย จัดหนักจัดเต็มขนาดนี้ ต้องลองหาซื้อมาใช้แล้วค่ะ
ราคา | 1,350 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 25 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 3 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 4 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | Sonic |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 39,600 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✓ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✓ |
ระบบ Pressure Censor | ✓ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare Elite+ HX3215/08 ▲▲
….
….
สำหรับแฟน ๆ ของแบรนด์ Phillips ที่กำลังมองหาแปรงสีฟันไฟฟ้าราคาประหยัดกว่ารุ่น Sonicare HX6857/30 แนะนำให้ซื้อรุ่น Sonicare Elite+ HX3215/08 แทนได้เลยค่ะ มีการปรับลดสเปคลงนิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าใช้งานได้ดี สมราคาและมาตรฐานของแบรนด์อยู่ วิธีการทำความสะอาดช่องปากยังคงใช้คลื่นโซนิคขจัดสิ่งสกปรกในซอกฟัน โดยใช้ระดับคลื่นเท่าเดิมคือ 62,000 ครั้งต่อนาที และยังคงระบบ QuadPacer กับ SmarTimer ไว้ให้อยู่เช่นเดิม ฟังก์ชันที่มีการปรับลด มี 2 ฟังก์ชัน คือ Pressure Censor รุ่นนี้จะไม่มีเซ็นเซอร์เตือนเมื่อกดแปรงหนักเกินไป ผู้ใช้งานต้องกะน้ำหนักมือให้เหมาะสมเองนะคะ
อีกฟังก์ชันที่ถูกปรับคือ ระดับการทำงานของหัวแปรงจะเหลือเพียงโหมดเดียวเท่านั้น แต่ก็ถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบการใช้งานมากสักเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากเมื่อใช้งานจริง หลายท่านก็ไม่ได้มีการปรับโหมดการแปรงบ่อย ๆ กันอยู่แล้วด้วย นอกจากนี้ หัวแปรงของรุ่นนี้ยังสามารถหาซื้อมาเปลี่ยนได้ง่าย และสามารถใช้ร่วมกับด้ามจับแปรงของ Phillips ที่เป็นรุ่น Sonicare ได้ทั้งหมดเลย ยกเว้นรุ่น PowerUp Battery และ Essence ค่ะ เมื่อลองอ่านความเห็นจากผู้ใช้งานจริง หลายท่านบอกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้งานได้ดีมาก ชอบ และยังช่วยให้การแปรงฟันง่ายขึ้นด้วย
ราคา | 1,590 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 14 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 1 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | Sonic |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 62,000 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✓ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✓ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B รุ่น Pro500 ▲▲
….
.
ใครที่มีงบไม่พอที่จะซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B รุ่นท็อปอย่าง Pro 2 2500N แนะนำให้รู้จักกับรุ่น Pro500 ค่ะ เพราะราคาย่อมเยากว่า ตัวหัวแปรงใช้วิธีการกำจัดคราบสิ่งสกปรกแบบ 3D โดยขนแปรงจะขยับ 3 แบบพร้อม ๆ กันขณะใช้งานเหมือนกับรุ่น Pro 2 2500N เลย และยังคงมีระบบ Timer ไว้เหมือนกัน โดยจะมีไฟแจ้งเตือนที่บริเวณด้ามจับเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที แต่ที่หายไปคือ ฟังก์ชัน Quadrant Timers ทำให้ไม่มีการสั่น หรือไฟแจ้งเตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงฟันทุก ๆ 30 วินาทีแล้ว ดังนั้นเพื่อให้สามารถแปรงฟันอย่างสะอาดทั่วถึง ต้องประมาณการแปรงฟันในแต่ละจุดให้อยู่ที่ 30 วินาทีด้วยตัวเองนะคะ
การขยับขนแปรงทำความสะอาดจะอยู่ที่ 22,500 ครั้งต่อนาที ถือว่าเป็นระดับการเคลื่อนไหวของแปรงไฟฟ้าที่สามารถทำความสะอาดช่องปากได้โอเคเลยค่ะ และเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สามารถใช้แปรงฟันต่อเนื่องได้นานประมาณ 1 อาทิตย์ ที่บริเวณด้ามจับแปรงกันน้ำได้ บางท่านที่ได้ลองใช้งานจริงให้ความเห็นว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้งานได้ดี ทนทาน แต่แนะนำว่าเหมาะสำหรับผู้ที่เคยใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ามาก่อนแล้วมากกว่ามือใหม่ เพราะไม่มีฟังก์ชัน Pressure Consor คอยเตือนเมื่อกดแปรงแรงเกินไป และเปลี่ยนระดับแปรงไม่ได้ ผู้ที่ยังไม่ชินกับการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้านั้น หากกดแรงเกินไปอาจจะมีเลือดออกได้ค่ะ
ราคา | 1,990 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 7 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 1 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | 3D |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การแกว่งซ้ายขวา (Oscillates) การหมุน (Rotates) และการกด (Pulsates) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 22,500 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✘ (กันน้ำได้เฉพาะด้ามแปรง) |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✓ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✘ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Soocas X3 ▲▲
….
….
สำหรับสายไอที น่าจะถูกใจแปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Soocas X3 กันค่ะ แปรงรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Mi Home ได้ โดยจะบันทึกการแปรงฟันของเราในแต่ละวันไว้ทั้งหมด สามารถเช็กได้ว่าเราทำความสะอาดฟันอย่างทั่วถึงแล้วหรือยัง รวมถึงมี Mission การแปรงฟันให้ทำในแอพพลิเคชั่นด้วย เรียกว่าเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ช่วยเปลี่ยนการแปรงฟันอันสุดแสนธรรมดาน่าเบื่อ ให้กลายเป็นเกมแสนสนุกยามเช้าแทนเลย นอกจากนี้ หัวแปรงยังถูกนำไปผ่านการฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี แล้วนำมาแพ็คในถุงสุญญากาศด้วยนะคะ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้จะถึงมือเราอย่างสะอาดและปลอดภัยแน่นอน
แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Soocas X3 สามารถกันน้ำได้ ในระดับที่ว่า ถ้าลองเอาไปแช่น้ำลึก 1 เมตร เจ้าแปรงสีฟันไฟฟ้าเครื่องนี้ก็ไม่เกิดความเสียหายใด ๆ แม้แต่น้อย ส่วนวิธีการกำจัดสิ่งสกปรกจะใช้คลื่นโซนิคในการทำลายหินปูน และสามารถปรับระดับการแปรงได้ 4 โหมด ที่พิเศษคือ แปรงรุ่นนี้ใช้แท่นชาร์จไฟฟ้าไร้สายด้วยค่ะ ทำให้ไม่ต้องพกสายชาร์จพะรุงพะรังเมื่อต้องเดินทาง มีความดีงามอีกอย่างตรงแบตเตอรรี่ที่อึดมาก เมื่อชาร์จเต็มสามารถใช้งานได้นานเกือบ 1 เดือนเลย หลายคนที่ได้ซื้อไปใช้งานจริง ต่างรู้สึกว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้ช่วยกำจัดหินปูนได้ดีมาก ๆ ด้ามจับก็ถนัดมือ ใช้งานง่าย และแรงสั่นดีมาก
ราคา | 1,150 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 25 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 4 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | Sonic |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 31,000 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✘ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✘ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B รุ่น Vitality Precision Clean ▲▲
….
….
Oral-B รุ่น Vitality Precision Clean ถือว่าเป็นรุ่นชาร์จไฟของ Oral-B ที่ขายดีที่สุด เหตุผลที่ได้รับความนิยมคงเป็นเพราะราคาไม่แพง และมีฟังก์ชันการใช้งานที่พอดี ผู้ผลิตใส่มาให้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น จากรุ่นท็อปที่ใช้วิธีทำความสะอาดฟันและช่องปากเป็นแบบ 3D รุ่นนี้จะใช้แบบ 2D แทนค่ะ โดยหัวแปรงจะแกว่งซ้าย-ขวา และหมุนไปด้วยที่ระดับ 7,600 รอบหมุนใน 1 นาที ทำให้ยังคงกำจัดสิ่งสกปรกได้ดี โดยเฉพาะคราบพลัคในช่องปาก มีระบบ Timer คอยจับเวลาการแปรงฟันและแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที มีเพียง 1 โหมดการแปรงเท่านั้นจึงใช้งานง่าย ไม่ต้องคิดมาก และกดเปิด-ปิดเครื่องได้ที่ปุ่มเดียวได้เลย
สำหรับมือใหม่อาจจะไม่ค่อยชอบรุ่นนี้สักเท่าไหร่ เพราะแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้ไม่ได้ใส่ฟังก์ชัน Pressure Censor มาให้ ดังนั้นหากกะน้ำหนักมือขณะใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้าไม่ถูก หรือกดมือแรงเกินไป อาจจะทำให้แปรงสัมผัสกับเหงือกแรงจนเกิดอาการอักเสบได้ แต่ถ้าใครใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นประจำอยู่แล้ว การที่ไม่มีฟังก์ชันนี้มาให้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรค่ะ ฟังก์ชันอื่น ๆ ยังคงประสิทธิภาพการทำความสะอาดไว้ได้ดีเลย และเมื่อลองสำรวจความเห็นผู้ใช้งานจริง หลายท่านก็ชอบ รู้สึกพึงพอใจกับคุณภาพแปรง แต่น่าเสียดายที่ มีเสียงดังรบกวนอยู่บ้างค่ะ
ราคา | 1,039 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | 7 วัน |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 1 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | 2D |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การแกว่งซ้ายขวา (Oscillates) และ การหมุน (Rotates) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | ระบุเพียง รอบหมุน 7,600 รอบต่อนาที |
กันน้ำได้ | N/A |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | N/A |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✘ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า SPARKLE Sonic Pro Active SK0372 ▲▲
….
….
สำหรับใครที่มีงบไม่เกิน 1,000 บาท ในการซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า เรามีรุ่นที่เรียกว่าถูกและดีมาแนะนำเช่นกันค่ะ ที่โดดเด่นมาก ๆ เลยคือ SPARKLE Sonic Pro Active SK0372 รุ่นนี้ใช้วิธีกำจัดสิ่งสกปรกในซอกฟันโดยใช้คลื่นโซนิคที่มีระดับการสั่นประมาณ 36,000 ครั้งต่อนาที สามารถปรับระดับแรงสั่นของขนแปรงได้ 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมด Clean ซึ่งเป็นระดับมาตรฐาน เหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดฟันในทุก ๆ วัน โหมด White จะมีการสั่นขนแปรงสูงสุด เน้นกำจัดคราบบนผิวฟัน เพื่อให้ฟันขาวสะอาด และโหมด Massage ซึ่งเป็นระดับการสั่นต่ำสุด เหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดเหงือกและลดการอักเสบ
ขนแปรงของรุ่นนี้ไม่แข็งกระด้างทำร้ายเหงือกเวลาแปรง มีการจัดเรียงตัวเป็นแบบ Spiral ซ้อน ๆ กัน ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซอกซอนเข้าไปในร่องฟัน และกำจัดคราบต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แม้จะไม่มีการแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที แต่มีระบบแจ้งเตือนให้เปลี่ยนปริเวณแปรงฟันทุก ๆ 30 วินาทีเข้ามาให้ค่ะ เหตุผลที่แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้มีราคาถูกเหลือเพียงหลักร้อยนั้น เนื่องจากใช้ถ่านก้อน AAA เป็นแหล่งพลังงานแทนการชาร์จไฟ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานแย่ลงเลยนะคะ จะเห็นได้จากความเห็นของผู้ใช้งานจริงหลายท่านที่บอกว่าแปรงรุ่นนี้คุณภาพโอเคเลย คุ้มค่า ขนาดก็กำลังพอดีมือ ดีไซน์สวยงาม
ราคา | 650 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | AAA 2 ก้อน |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | – |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 3 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | Sonic |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 36,000 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✘ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✓ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Kemei KM-907 ▲▲
….
….
แปรงสีฟันไฟฟ้า Kemei KM-907 เป็นอีกรุ่นที่ใช้การชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สาย มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และสามารถกันน้ำได้ 100% ตัวเครื่องแพ็คมาให้พร้อมหัวแปรง 4 หัว และเป็นรุ่นชาร์จไฟฟ้ารุ่นเดียวที่ราคาไม่ถึง 500 บาท นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางเลยก็ว่าได้ หรือเน้นความประหยัด ตัวแปรงใช้วิธีการกำจัดสิ่งสกปรกในช่องปากโดยการสร้างคลื่นโซนิคทำให้ขนแปรงสั่นที่ระดับ 30,000 ครั้งต่อนาที ซึ่งถือว่าเป็นระดับการสั่นขนแปรงที่พอ ๆ กับแปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi Soocas X3 และ SPARKLE Sonic Pro Active SK0372 เลยทีเดียว จึงไม่ต้องสงสัยในประสิทธิภาพการขจัดหินปูนเลยว่าไม่ด้อยไปกว่าแปรงราคาแพงแน่นอน
ข้อเสียที่พบคือ ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานเสริมเลย อย่างการช่วยจับเวลา การแจ้งเตือนให้เปลี่ยนบริเวณแปรงฟัน ไม่มีโหมดแรงสั่นต่ำสำหรับการทำความสะอาดเหงือกให้เลือกปรับ และเวลาชาร์จไฟฟ้าเข้าตัวเครื่องจะไม่มีไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่ที่บริเวณด้ามแปรงหรือแท่นชาร์จ ทำให้ผู้ใช้งานต้องคำนวณเวลาเอาเอง ซึ่งอาจจะทำให้บางคนหงุดหงิดได้ และเมื่อได้ลองสำรวจความเห็นของผู้ใช้งานจริง หลายท่านมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ เมื่อได้ลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้แล้วรู้สึกว่าฟันสะอาดขึ้น ระบบสั่นของแปรงกำลังพอดี ไม่แรงเกินไปจนทำให้รู้สึกเสียวฟัน และมีขนแปรงนุ่มใช้ได้เลย
ราคา | 279 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | ชาร์จไฟฟ้า |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | N/A |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 1 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | Sonic |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 30,000 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | ✓ |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✘ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✘ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
▼▼ แปรงสีฟันไฟฟ้า Colgate Power 360 Charcoal ▲▲
….
….
แปรงสีฟันไฟฟ้าราคาไม่ถึง 300 บาท ที่อยากแนะนำให้ลองใช้กันอีกสักตัวคือ Colgate Power 360 Charcoal รุ่นนี้ใช้ถ่านอัลคาไลน์ AAA 2 ก้อน เป็นแหล่งพลังงานแทนการชาร์จไฟฟ้า กำจัดคราบสิ่งสกปรกในช่องปากด้วยการสร้างแรงสั่นสะเทือน 11,500 ครั้งต่อนาที แม้จะน้อยกว่าการขจัดสิ่งสกปรกโดยใช้คลื่นโซนิค แต่เป็นระดับที่เพียงพอต่อการทำความสะอาดฟัน ซึ่งจะทำงานร่วมกับขนแปรงรุ่นพิเศษที่ถูกออกแบบมาให้ปลายมีความบางเรียว ซอกซอนไปที่ร่องฟันได้ลึกมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า และมีการเรียงตัวแบบไขว้ รวมถึงมีการเพิ่มปริมาณขนแปรงมากกว่าแปรงสีฟันธรรมดา 30% ค่ะ
ข้อเสียของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า Colgate Power 360 Charcoal ที่พบคือ ไม่มีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เลย เช่นเดียวกับแปรงของ Kemei KM-907 เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด ไม่ซีเรียสกับฟังก์ชันการใช้งานมากนัก เป็นผู้ที่มีคราบสกปรกในช่องปากน้อยและมีการตรวจเช็กดูแลสุขภาพฟันดีอยู่แล้ว หรือเหมาะสำหรับซื้อใช้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อมีการเดินทาง มากกว่าใช้สำหรับผู้ที่มีคราบพลัคติดหนาแน่น ซึ่งจะเกินประสิทธิภาพการสั่นของแปรงในการกำจัดคราบฝังแน่น ผู้ใช้จริงให้ความเห็นว่าแปรงรุ่นนี้ใช้งานง่าย หัวแปรงก็ถอดเปลี่ยนได้สะดวกดี ราคาถูก โดยรวมแล้วรู้สึกคุ้มค่ามาก ๆ
ราคา | 240 บาท |
แหล่งพลังงานไฟฟ้า | AAA 2 ก้อน |
ระยะเวลาการใช้งาน เมื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เต็ม | – |
จำนวนหัวแปรงที่สามารถเปลี่ยนได้ | 1 หัวแปรง |
Brushing Mode ที่สามารถปรับได้ | 1 โหมด |
รูปแบบหัวแปรงสีฟัน | การสั่นธรรมดา |
วิธีการทำงานของหัวแปรง | การสั่น (Vibration) |
การขยับขนแปรงในเวลา 1 นาที | 11,500 ครั้งต่อนาที |
กันน้ำได้ | N/A |
ระบบแจ้งเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที | ✘ |
เตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) | ✘ |
ระบบ Pressure Censor | ✘ |
.
เลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าอย่างไรดี
การที่จะซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าดี ๆ สักด้ามหนึ่งมาใช้ ควรจะทราบรายละเอียดสเปคเบื้องต้นกันก่อน และพิจารณาว่าเหมาะสมกับการใช้งานจริงสำหรับเราหรือไม่ โดยข้อมูลที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อนั้น มีดังต่อไปนี้ค่ะ
…..
หัวแปรงสีฟันไฟฟ้ามีกี่แบบ และการทำงานแต่ละแบบเป็นอย่างไร
แปรงสีฟันไฟฟ้านั้นมีการโฆษณาประสิทธิภาพการทำความสะอาดหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ การบอกประเภทของหัวแปรง ซึ่งมีการเรียกชื่อแตกต่างกันเยอะมาก วันนี้จึงได้สรุปประเภทหัวแปรงทั้งหมดมาให้ โดยเรียงลำดับประสิทธิภาพการใช้งานต่ำไปสูง ดังนี้ค่ะ
1. หัวแปรงแบบ 2D – หัวแปรงประเภทนี้จะทำความสะอาดโดยการเคลื่อนไหว 2 รูปแบบพร้อม ๆ กันในขณะทำความสะอาดช่องปาก คือ การปัดขึ้น-ลง หรือปัดซ้าย-ขวา (Oscillating) และการหมุน (Rotating) ซึ่งในโฆษณามักจะระบุเป็นชื่อรูปแบบการทำความสะอาดไปเลย เช่น แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้ ใช้หัวแปรงแบบหมุน ทำความสะอาดฟันได้ดีกว่าเดิม หรือบางยี่ห้อก็ใช้คำว่าผลิตภัณฑ์เป็นหัวแปรงแบบ 2D ไปเลยค่ะ
2. หัวแปรงแบบ 3D – หัวแปรงแบบนี้ จะเป็นการทำงาน 3 รูปแบบพร้อม ๆ กัน ได้แก่ ขนแปรงจะขยับซ้าย-ขวา (Oscillating) ส่วนหัวแปรงจะหมุน (Rotating) และมีการสร้างคลื่นความถี่ไปที่ร่องฟัน ทำให้ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีหัวแปรงแบบ 3D ซึ่งจะทำงานได้ดีกว่าแบบ 2D และมีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบพลัคได้ดีกว่าด้วยค่ะ
3. หัวแปรงแบบโซนิค (Sonic) – หัวแปรงแบบนี้จะสร้างการสั่นสะเทือน (Vibrations) ขึ้นรอบ ๆ ขนแปรง ซึ่งจะทำให้ขนแปรงเกิดการขยับอย่างน้อย 30,000 ครั้งต่อนาที หากพิจารณาเป็นหน่วยคลื่นความถี่ที่ถูกกระจายออกมาต่อวินาทีจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 เฮิร์ต แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นการสั่นที่รุนแรงจนเป็นอันตรายต่อเหงือกและฟัน เพราะจริง ๆ แล้ว แรงสั่นสะเทือนที่ถูกส่งออกไปจากหัวแปรงจะทำให้ขนแปรงลอยตัวอยู่เหนือผิวฟัน (Floating) ไม่ได้มีการสัมผัสกับฟันของเราโดยตรงเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนและคลื่นความถี่ออกไปที่น้ำอีกที เพื่อให้น้ำช่วยกระเทาะสิ่งสกปรกออกมาจากซอกฟันนั่นเองค่ะ
4. หัวแปรงแบบอัลตร้าโซนิค (Ultrasonic) – หัวแปรงแบบนี้มีวิธีการทำงานเหมือนกับหัวแปลงแบบโซนิคเลยค่ะ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ แรงสั่นสะเทือนรอบ ๆ ขนแปรงจะให้คลื่นความถี่ที่สูงกว่าเท่านั้นเอง โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1.6 เมกกะเฮิร์ทค่ะ ซึ่งก็จะช่วยให้ขจัดคราบพลัคและสิ่งสกปรกในซอกฟันได้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหม ต้องเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ใช้หัวแปรงแบบนี้ไปเลยรึเปล่า? ถ้าใครมีงบประมาณเยอะ ก็เลือกเป็นประเภทนี้ได้เลย แต่จริง ๆ แล้วเลือกเป็นรุ่นหัวแปรง 3D หรือโซนิค ก็นับว่าทำความสะอาดฟันได้ดีมาก ๆ แล้วค่ะ
.
แรงสั่นสะเทือนของหัวแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ดี ?
หัวแปรงแบบโซนิค (Sonic) และแบบอัลตร้าโซนิค (Ultrasonic) โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ผลิตมักจะไม่แสดงค่าประสิทธิภาพการทำความสะอาดออกมาเป็นตัวเลขคลื่นความถี่ที่มีหน่วยเป็นเฮิร์ต (Hz) แต่จะบอกเป็นจำนวนครั้งที่ขนแปรงมีการขยับเคลื่อนไหว หรือมีการสั่นในระยะเวลา 1 นาทีแทน หากได้ลองอ่านรีวิวของต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเปรียบเทียบประสิทธิภาพการสั่นของหัวแปรงโดยใช้คำว่า Movement per Minute หรือ Pulsations per Minute
ดังนั้นในกรณีที่ต้องการเปรียบเทียบแปรงสีฟันไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ ลองมองหาคำอธิบายสินค้าที่แจ้งตัวเลขและมีหน่วยลงท้ายว่า “… ครั้งต่อนาที” ดูนะคะ ยิ่งตัวเลขมาก หมายความว่าจะเกิดการสั่นทำความสะอาดได้ดี แต่ถ้าตัวเลขสูงเกินไปก็อาจผลเสียต่อเหงือกได้เหมือนกันค่ะ แนะนำให้พิจารณาแปรงที่มีแรงสั่น 30,000 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป และสามารถปรับระดับแรงสั่นได้ดีกว่าค่ะ เพราะจะช่วยให้เราสามารถปรับใช้งานได้อย่างเหมาะสมและเลือกระดับการแปรงได้หลากหลายกว่าด้วย
ส่วนหัวแปรงแบบ 2D และ 3D จะมีวิธีการบอกประสิทธิภาพ 2 แบบหลัก ๆ คือ บอกการสั่นขยับของขนแปรง (Movement หรือ Pulsates) เป็นหน่วย “ครั้งต่อนาที” เช่นกัน ซึ่งจะมีการสั่นในระดับน้อยกว่าหัวแปรงแบบโซนิคและแบบอัลตร้าโซนิคอยู่แล้ว โดยสำหรับหัวแปรงแบบ 2D และ 3D ควรจะมีแรงสั่นอย่างน้อย 10,000 ครั้งขึ้นไป ยิ่งใกล้ 30,000 ครั้งต่อนาทีจะยิ่งดีค่ะ เพราะนั่นหมายความว่าหัวแปรงมีประสิทธิภาพเกือบเทียบเท่าหัวแปรงแบบโซนิคได้เลย
ผู้ผลิตบางเจ้าใช้การบอกค่ารอบหมุน (Rotation) ของหัวแปรงที่มีหน่วยเป็น “รอบต่อนาที” แทน ซึ่งทำให้สับสนและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแปรงสีฟันไฟฟ้าได้ยากขึ้น ดังนั้นในกรณีที่เจอแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีเพียงเลขหน่วยนี้มาให้ แนะนำให้เลือกแปรงที่ระบุรอบหมุนอย่างน้อย 7,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป จึงจะถือว่ามีประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่พอเหมาะค่ะ
.
รูปแบบการชาร์จแบตเตอรี่ของแปรงสีฟันไฟฟ้า
แหล่งพลังงานของแปรงสีฟันไฟฟ้าหลัก ๆ จะมี 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบที่ต้องชาร์จไฟฟ้า ซึ่งโดยปกติจะมีแท่นชาร์จมาให้พร้อมด้ามแปรงเลย สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ แนะนำให้เลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เป็นแบบชาร์จไร้สาย สามารถชาร์จกับ Case หรือฐานวางด้ามแปรงได้เลยจะสะดวกกว่า และควรพิจารณาความอึดของแบตเตอรี่เมื่อมีการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้งประกอบด้วยนะคะ อย่างน้อยควรใช้งานได้นานต่อเนื่อง 14 วันขึ้นไป และควรมีการแสดงผลที่ด้ามแปรงแจ้งระดับแบตเตอรี่ให้ทราบด้วยจะดีมากเลยค่ะ
อีกแบบคือการใช้แหล่งพลังงานจากถ่านอัลคาไลน์ AAA ข้อดีคือแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ใช้ถ่านแบบนี้จะมีราคาถูกกว่า หาซื้อถ่านเปลี่ยนได้ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่อยู่เรื่อย ๆ และถ้าในห้องน้ำไม่มีปลั๊กไฟ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ แต่ข้อเสียเสียคือพลังงานที่ได้จะน้อยกว่าแบบชาร์จไฟฟ้า ทำให้แปรงสีฟันไฟฟ้าประเภทนี้มักจะไม่ค่อยมีฟังก์ชันอะไรเยอะแยะ ดังนั้นสำหรับใครที่มีงบประมาณ แนะนำให้ซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เป็นแบบชาร์จไฟฟ้าไปเลยค่ะ แต่ถ้างบจำกัดจริง ๆ สามารถซื้อแบบถ่านมาใช้ก่อนได้เหมือนกัน แม้จะมีแรงสั่นที่น้อยกว่า แต่ก็ทำความสะอาดฟันได้ดีกว่าการใช้แปรงสีฟันธรรมดาแปรงเองอยู่แล้วค่ะ
.
ควรเลือกฟังก์ชันการใช้งานแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบไหนดี
หากลองเปรียบเทียบแปรงสีฟันไฟฟ้า ทั้งราคา ประเภทหัวแปรง และประเภทแบตเตอรี่ทั้งหมดแล้ว ปรากฎว่ามีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันมาก ลองเปรียบเทียบฟังก์ชันการใช้งานประกอบการตัดสินใจนะคะ เราสรุปมาให้เรียบร้อยแล้วตามลำดับความสำคัญจากน้อยไปมาก ดังต่อไปนี้
1. กันน้ำได้ (Waterproof) แปรงสีฟันไฟฟ้าส่วนใหญ่จะถูกทำให้กันน้ำได้อยู่แล้ว ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องคอยระวังน้ำ ลดความเสี่ยงการเสื่อมของแบตเตอรี่ด้วย อย่างไรก็ตามเวลาล้างทำความสะอาดแปรงก็ควรหลีกเลี่ยงให้บริเวณรอยต่อสัมผัสกับน้ำโดยตรงนาน ๆ นะคะ เพราะหากมีน้ำเข้าไปที่มอเตอร์ด้านในแปรงสีฟันไฟฟ้าบ่อย ๆ อาจเกิดความเสียหายและเป็นอันตรายได้ค่ะ
2. ระบบวัดแรงกด (Pressure Censor) ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้ผู้ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า สามารถแปรงฟันได้ในระดับแรงกดที่เหมาะสม โดยจะมีการแจ้งเตือนเมื่อใช้แรงกดทำความสะอาดฟันมากเกินไป และช่วยลดอาการเหงือกอักเสบอีกด้วย
3. ระบบเตือนให้เปลี่ยนจุดแปรงทุก ๆ 30 วินาที (Quadrant Timers) ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยให้เราแปรงฟันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบจะแจ้งเตือนให้มีการเปลี่ยนบริเวณทำความสะอาดช่องปากในทุก ๆ 30 วินาที ซึ่งจะช่วยให้แปรงฟันได้สะอาดทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
4. ระบบเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที (2 Minute Timer Notification) เคยสงสัยมั้ยคะว่าทำไมแปรงสีฟันไฟฟ้าต่าง ๆ จึงมักจะโฆษณาว่ามีระบบช่วยให้เราแปรงฟันครบ 2 นาที ? เหตุผลที่เราต้องแปรงฟันให้ครบ 2 นาที เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการวิจัยมาแล้วว่าเหมาะสมที่สุด ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป และเป็นระยะเวลาที่ทันตแพทย์ทั่วโลกแนะนำด้วย ดังนั้นการที่มีฟังก์ชันนี้จึงเปรียบเสมือนมีตัวช่วยการันตีว่าเราจะใช้เวลาในการทำความสะอาดฟันได้อย่างพอดีจริง ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกโดยที่เราไม่ต้องมาคอยคำนวณเวลาเองด้วย
.
การทำความสะอาดและเก็บรักษาแปรงสีฟันไฟฟ้า
หลังการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ควรล้างหัวแปรงด้วยน้ำสะอาดทุกครั้ง แม้จะมีฟังก์ชันกันน้ำ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงให้ฐานชาร์จสัมผัสกับน้ำโดยตรง โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของหัวแปรงและด้ามจับ หากมีน้ำเข้าไปสัมผัสกับระบบภายในอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ จากนั้นให้วางแปรงสีฟันไฟฟ้าไว้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก และทิ้งให้หัวแปรงแห้ง เมื่อใช้งานไปสักพักควรมีการเปลี่ยนหัวแปรงทุก ๆ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้ซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นที่มีการแจ้งเตือยให้เปลี่ยนหัวแปรงจะสะดวกกว่า อย่างแปรงสีฟันไฟฟ้าของ Philips รุ่น Sonicare HX6857/30 ค่ะ เพราะจะได้ไม่ต้องมาคอยพิจารณาเองว่าควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจได้เลยค่ะ
.
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
จากบทความข้างต้นหวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์ และสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าได้นะคะ ก่อนการซื้อลองดูงบประมาณของตัวเองก่อนก็ได้ค่ะว่าอยากได้แปรงสีฟันไฟฟ้าที่ราคาไม่เกินเท่าไหร่ จากนั้นก็ไล่มาดูคุณสมบัติอื่น ๆ และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ว่า เราอยากได้ฟังก์ชันแบบไหนบ้าง นอกจากจะต้องเลือกให้ตรงกับความต้องการแล้ว อย่าลืมเช็กด้วยว่าตรงกับการใช้งานจริงของเราด้วยรึเปล่านะคะ
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ลืมไม่ได้เลยคือหัวแปรง เพราะหลังจากตัดสินใจซื้อแล้ว เมื่อใช้งานไปสักพักก็ต้องมีการเปลี่ยนหัวแปรง ดังนั้นต้องพิจารณาด้วยว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าที่อยากได้นั้น สามารถถอดเปลี่ยนหัวแปรงได้ง่ายหรือไม่ สามารถหาซื้อหัวแปรงมาเปลี่ยนจากช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยรึเปล่า รวมถึงสามารถใช้หัวแปรงรุ่นอื่น ๆ มาเสียบใส่แทนได้มั้ย เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น ควรถามผู้ขายให้เรียบร้อยก่อน หรือลองเช็กที่ร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ว่ามีการขายหัวแปรงรุ่นนั้น ๆ บ้างหรือไม่ก็ได้เช่นกันค่ะ อ่านบทความนี้จนจบแล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะมีแปรงสีฟันไฟฟ้าดี ๆ สักด้ามไปใช้ที่บ้านกันนะคะ