แนะนำ 9 เครื่องดูดไรฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 2020 ใช้งานง่าย แผ่นกรองคุณภาพดี ลดไรฝุ่นได้จริง ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้
เครื่องดูดไรฝุ่น ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ดูดฝุ่นหรือใช้ทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังช่วยลดไรฝุ่นขนาดจิ๋ว ที่เป็นต้นเหตุของอาการภูมิแพ้ได้ดี และรวดเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย หากจะซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นดี ๆ มาครอบครองสักชิ้น มีหลักในการเลือกซื้อที่สำคัญง่าย ๆ สองข้อคือ การใช้งานสะดวกมากน้อยแค่ไหน? และมีระบบในการขจัดไรฝุ่นมากน้อยเพียงใด? เพราะสิ่งที่เรากำลังจะกำจัดนั้นแทบมองไม่เห็นค่ะ! หากมีเครื่องทุ่นแรงที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังเหมาะกับการใช้งานในบ้านของเราแล้ว ก็จะช่วยลดไรฝุ่นได้จริง ส่งผลให้อาการภูมิแพ้ของคนในบ้านดีขึ้นอีกด้วย
และจะแน่ใจได้อย่างไร? ว่าบ้านของเราสะอาด เพราะไรฝุ่นที่มีจำนวนมากมายนั้นซุกซ่อนอยู่ แถมกำลังแพร่กระจายพร้อมจะทำร้ายคนที่เรารัก การดูดไรฝุ่นออกจากที่นอนนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ค่ะ เพราะฉะนั้น การเลือกซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีคุณภาพ จะช่วยให้คนในบ้านมีระบบทางทางเดินหายใจที่ดีอีกด้วย และต่อไปนี้คือ ตัวเลือกเครื่องดูดไรฝุ่นที่ดีที่สุด ที่เรารวบรวมหามาให้คุณ ถึงเวลาไปอ่านบทความนี้แล้วค่ะ แนะนำ 9 เครื่องดูดไรฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ที่ลดไรฝุ่นได้จริง ให้บ้านและคนที่รักห่างไกลจากภูมิแพ้ เราได้มีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างมากมายอยู่ในบทความนี้ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจในการซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นของคุณ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
ตัวไรฝุ่นกับอาการภูมิแพ้
เคยสังเกตไหมคะว่า? อาการจาม คัดจมูก คัน ตาแดง หายใจลำบาก มักเกิดขึ้นในขณะที่เราอยู่ในบ้านของตัวเอง? อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการภูมิแพ้จากไรฝุ่น! เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่านี่แหละ เป็นตัวก่อกวนชั้นเลิศ ที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ไม่น้อยกว่าฝุ่นควันนอกบ้าน ไรฝุ่นเหล่านี้ชอบที่จะอาศัยอยู่เกือบทุกจุดของบ้าน เพราะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น โดยเฉพาะในช่วงอุณหภูมิประมาณ +23 – +26 องศา ยิ่งกว่านั้น หากความชื้นของบ้านสูงถึง 55% ตัวไรฝุ่นยังสามารถมีชีวิตได้ถึง 75 วันเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงที่มีชีวิต ตัวไรฝุ่นก็สามารถฟักไข่ได้ถึง 300 ฟอง ส่วนใหญ่จะวางไข่ในช่วงปลายสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมค่ะ
ซึ่งขนาดตัวของไรฝุ่นนั้นเล็กกว่าจุดของปากกาหลายเท่าค่ะ หากเราซูมกล้องจุลทัศน์เข้าไป ลักษณะของไรฝุ่นจะคล้ายแมงมุมเพราะมีหลายขาเช่นเดียวกัน ชอบอาศัยอยู่บนฟูกที่นอน เฟอร์นิเจอร์ พรม หรือผ้าม่าน เป็นต้น มีหลายคนที่เพิกเฉยและไม่สนใจเจ้าไรฝุ่น เพราะยังไม่รู้ว่า ปริมาณไรฝุ่นตามที่ต่าง ๆ นั้นมีจำนวนเท่าใด ถ้าเทียบจากงานศึกษา จะพบว่าแต่ละจุดที่มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ถึง 1,000,000 ตัวเลยทีเดียว! โดยเฉพาะที่นอน ที่สามารถพบได้มากถึง 70% เลยค่ะ จากตัวเลขพวกนี้เอง ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมไรฝุ่นถึงเป็นสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ ผื่นแพ้ ผด คัน ของคนเราค่ะ
แล้วเพื่อน ๆ สงสัยกันไหมว่า ทำไมไรฝุ่นถึงชอบอยู่ที่บ้าน? เพราะสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มักจะกินเซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้า หรือผิวหนังที่ตายแล้วที่หลุดลอกออกมาจากผิวหนังของเราในทุก ๆ วันเป็นหลักค่ะ โดยปริมาณผิวหนังที่หลุดลอกจะมีปริมาณเฉลี่ย 0.5 กรัมต่อวัน ซึ่งก็เพียงพอให้เป็นอาหารอันโอชะแก่ไรฝุ่นตัวจิ๋ว ๆ ให้อิ่มหนำสำราญแล้วค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ไรฝุ่นตัวร้ายยังกินชั้นหนังกำพร้าของสัตว์ได้อีกด้วยนะคะ ครอบครัวไหนที่มีสัตว์เลี้ยง ก็เตรียมใจเลี้ยงไรฝุ่นเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
….
วิธีกำจัดไรฝุ่นเบื้องต้น
ได้รู้จักไรฝุ่นกันแล้ว ก็ถึงเวลามาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันแล้วค่ะ แต่เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมค่ะ? ไม่ว่าบ้านจะสะอาดแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถกำจัดเจ้าไรฝุ่นตัวร้ายออกไปได้อย่างหมดจดสักที ทำได้แค่เพียงลดจำนวนเจ้าไรฝุ่นให้น้อยลง ซึ่งวิธีที่จะทำให้ไรฝุ่นลดจำนวนลงนั้น มีวิธีใดบ้าง เราลองมาอ่านพร้อม ๆ กันค่ะ
- เปลี่ยนเครื่องนอนเป็นแบบใยสังเคราะห์ แทนเครื่องนอนและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่ทำมาจากขนสัตว์ เช่น หมอนขนเป็ด พรมขนสัตว์ รวมถึงที่นอน เฟอร์นิเจอร์และพรม ที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างนานและอยู่ในสภาพเก่า
- ทำความสะอาดเตียง โดยน้ำร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 65 องศา และให้ใช้สเปรย์กำจัดไรฝุ่นฉีดพ่นทำความสะอาด หรือทำความสะอาดที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน ด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 130 องศา แล้วจึงอบผ้าให้แห้งด้วยความร้อนจากเครื่องอบผ้าที่มี
- เนื่องจากไรฝุ่นชอบอยู่บนอาหารแห้งเช่นกัน ดังนั้นจึงควรเก็บแป้งและซีเรียลให้มิดชิด เพราะหากเผลอกินเข้าไป อาจจะเกิดอาการแพ้รุนแรงได้
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันการฆ่าเชื้อโรคในตัว อาทิ รุ่นที่มีระบบอัลตราไวโอเลต ระบบปล่อยประจุไฟฟ้า และระบบไทเทเนียม เป็นต้น
- อย่าพาสัตว์เลี้ยงไปที่เตียงนอน เพราะสัตว์เลี้ยงถือเป็นพาหะ ที่จะเพิ่มจำนวนไรฝุ่นที่ติดมาตามตัวของสัตว์นั่นเอง
- อีกวิธีที่ดีที่สุด และเรายังสามารถทำได้สม่ำเสมอ โดยไม่ต้องออกแรงยกเครื่องนอนออกมาทำความสะอาดด้านนอกบ้าน นั่นคือ การใช้เครื่องดูดไรฝุ่นที่เรากำลังจะพาไปรู้จักนั่นเองค่ะ
….
มาทำความรู้จักเครื่องดูดไรฝุ่น
เนื่องจากไรฝุ่นไม่สามารถดักจับได้ง่าย เพราะมีขนาดเพียง 250 – 300 ไมครอน ซึ่งถือว่า ขนาดเล็กจนมองแทบไม่เห็น ทำให้ยากต่อการกำจัดและลดปริมาณ การซักทำความสะอาดหรือการอบร้อนก็เป็นวิธีการที่ยุ่งยากและเสียเวลาในการกำจัดไรฝุ่น จึงได้มีผู้เชี่ยวชาญคิดค้นเครื่องดูดจับไรฝุ่นขึ้นมา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เน้นการกำจัดไรฝุ่นได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านที่พบเจอปัญหาไรฝุ่นตามเครื่องนอน รวมถึงผู้ที่มีอาการแพ้ขั้นรุนแรง เช่น ภูมิแพ้ไรฝุ่น มีอาการตาแดงก่ำ หายใจติดขัด เกิดอาการคันตลอดเวลา ผดผื่นขึ้นตามตัว และเมื่อไรฝุ่นถูกลดจำนวนลง อาการเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น จนลดน้อยหายไปได้
โดยเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีพลังแรงดูดมาก จะช่วยกำจัดตัวไรฝุ่นและเชื้อโรคในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยขนาดเครื่องที่กระทัดรัด ช่วยทุ่นแรงผู้ใช้ และไม่จำเป็นต้องยกเครื่องนอนใด ๆ ออกจากห้อง หรือถอดออกมาซักล้างให้เสียเวลา เพียงแค่เปิดเครื่อง แล้วกดลากเครื่องไปตามพื้นผิวที่ต้องการดูดไรฝุ่น เพียงแค่นี้ เจ้าไรฝุ่นตัวร้ายก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น และเนื่องจากความสะดวกสบายเช่นนี้นี่เอง ทำให้ผู้ใช้สามารถทำความสะอาดเชื้อโรค และกำจัดไรฝุ่นได้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้ได้อีกด้วย
…….
ตารางสรุปข้อมูลเครื่องดูดไรฝุ่นแบบรวบรัด
…
แนะนำ 9 เครื่องดูดไรฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 2020 ใช้งานง่าย แผ่นกรองคุณภาพดี ลดไรฝุ่นได้จริง ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้
มาถึง 10 เครื่องดูดไรฝุ่นที่เราอยากจะนแนะนำกันแล้วค่ะ ทางทีมงานได้คัดสรรเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีผู้นิยมใช้จริง เราหวังว่าทุกคนจะได้รับข้อมูลน่าสนใจ และรายละเอียดจำเป็นที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันค่ะ
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น Philips MiteCleaner รุ่น FC6230 ▲▲
….
….
เริ่มต้นกันด้วย แบรนด์ Philips รุ่น FC6230 ตัวเครื่องมีสีฟ้า น้ำหนักอยู่ที่ 3 กก. ทำให้ไม่ต้องออกแรงกดเครื่องมากนัก ส่วนตรงด้ามจับก็ออกแบบมาให้กระชับมือ สามารถลากถูไปมาได้ง่าย พร้อมด้วยกำลังมอเตอร์ที่ 450 วัตต์ ให้แรงดูดมาก ดูดแรงจนไรฝุ่นหายเรียบแน่นอน และมีสายไฟยาว 4 เมตร ยาวเพียงพอที่จะลากไปดูดครอบคลุมทุกพื้นที่ และยังมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย ในกรณีเปิดใช้งานนานเกินไปหรือเครื่องร้อนเกินไปอีกด้วย
รุ่นนี้การดักจับไรฝุ่นถือว่าหายห่วง เพราะมีระบบการกรองโดยใช้แผ่นกรอง HEPA ที่ได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกาว่ามีคุณภาพ สามารถดักจับเชื้อโรคและไรฝุ่นจากที่นอนได้ดี ตัวเครื่องมีขนาดท่อดูดกว้าง 82 มม. ช่วยให้ดูดไรฝุ่นได้เยอะและง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผ่นตบหรือแผ่นสั่นสะเทือนซึ่งสามารถปรับโหมดให้ทำงานพร้อมกับแรงดูดได้อีกด้วย ทั้งตบทั้งดูดเจ้าไรฝุ่นตัวร้ายไม่รอดแน่นอนค่ะ และมีฟังก์ชันใช้งานถึง 3 ระดับ ที่ออกแบบให้เหมาะกับพื้นผิวแต่ละชนิด ทำให้ดูดเจ้าไรฝุ่นได้ทุกสภาพผิว เสริมด้วยหลอดยูวีคุณภาพสูง ที่จะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ บนเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นเรื่องง่ายมากขึ้นอีกด้วย
ผู้ซื้อเครื่องไปใช้งานหลายคน ต่างบอกกันว่า “เกินกว่าที่คาดหวังไว้” เพราะตอนเปิดเครื่องใช้งานแรก ๆ บางคนรีวิวว่าแรงดูดดูต่ำ แต่ก็แอบตกใจหลังใช้งานเสร็จ เพราะไรฝุ่นและเชื้อโรคออกมาเป็นผงขาว ๆ จำนวนมาก สรุปว่า ตัวเครื่องดูดไรฝุ่นรุ่นนี้มีพลังดูดที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายตรงที่เครื่องค่อนข้างหนักกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ใช้ไปสักระยะอาจจะรู้สึกเมื่อยมือได้ อีกทั้งมีเสียงที่ค่อนข้างดังด้วย ด้านราคาก็แอบสูงไปหน่อย แต่ด้วยแบรนด์คุณภาพจาก Philips จึงยกให้เป็นอีกเครื่องที่น่าสนใจ เหมาะที่จะเน้นใช้งานระยะยาว ไม่ต้องคอยห่วงเรื่องอะไหล่ ความทนทาน และงานประกอบอื่น ๆ ค่ะ
ราคาโดยประมาณ | 4,590 บาท |
ขนาด | 425 x 300 x 190 มม. |
น้ำหนัก | 3 กก. |
สายไฟยาว | 4 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | 10,800 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | – |
เสียงดัง | – |
ความจุโถเก็บฝุ่น | – |
ขนาดท่อดูด | กว้าง 82 มม. |
ขนาดหลอดไฟ UV | – |
ความลึกของแสง UV | – |
ชนิดที่กรอง | แผ่นกรอง รุ่น HEPA 12 |
กำลังไฟฟ้า | 450 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น SHIMONO รุ่น UV B702 ▲▲
….
มาดูอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมจาก SHIMONO กับรุ่น UV B702 ที่มาพร้อมรูปทรงดีไซน์ทันสมัย ขนาดเครื่องไม่ใหญ่เกินไป เนื่องจากเสียงรบกวนค่อนข้างต่ำกว่า 72 เดซิเบล จึงไม่มีมลพิษทางเสียงมากนัก ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่ 2.58 กก. ถือว่าช่วยเป็นแรงกดไปในตัว และมีแรงดูดของเครื่องที่ 4,000 Pa ดูดได้แรงและต่อเนื่องจนน่าทึ่ง ทั้งยังมีหลอดไฟยูวี ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ลึกถึง 253.7 นาโนเมตร พร้อมด้วยระบบเซนเซอร์ที่คอยปิดแสงจากหลอดยูวีอัตโนมัติเมื่อไม่ได้สัมผัสกับพื้นผิว ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงต่อสายตาของเราได้ มั่นใจได้ว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
ตัวเครื่องดูดไรฝุ่นใช้ตัวกรองแบบสเตนเลส ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ เท่าแผ่นกรอง HEPA มีระบบสั่นสะเทือนสูงถึง 36,900 ครั้งต่อนาที ถือว่ามีแรงสั่นหรือแรงตบที่ค่อนข้างถี่มาก จัดหนักจัดเต็ม เพิ่มโอกาสในการกำจัดไรฝุ่นได้มากขึ้น เป็นเครื่องที่มีระบบการทำงานทั้งตบและดูดในเครื่องเดียว ในขณะที่เครื่องดูดไรฝุ่นบางยี่ห้อทำออกมาเพียงระบบใดระบบหนึ่งเท่านั้น สำหรับโถเก็บฝุ่นมีขนาด 0.3 ลิตร รองรับฝุ่นได้พอดีกับตัวเครื่อง และมีกำลังมอเตอร์สูงถึง 500 วัตต์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องดูดไรฝุ่น ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างหมดจด บวกกับสายไฟที่มีความยาว 5 เมตร ถือว่าใช้งานในบ้านได้ทั่วทุกบริเวณ เรียกได้ว่า ครบครันเลยทีเดียว
รีวิวจากผู้ใช้หลายคนบอกว่า พลังดูดถือว่าแรงดี ไม่ต้องใช้เวลานาน ก็สามารถดูดไรฝุ่นได้เต็มโถเก็บ ทำความสะอาดก็ง่าย มีรังสียูวีช่วยฆ่าเชื้อโรคไปในตัว และยังสามารถดูดฝุ่นจากตุ๊กตาหรือพรมยาว ๆ ได้ดีอีกด้วย น่าเสียดายที่ปุ่มกดเปิด-ปิด ค่อนข้างอยู่ใกล้กับด้ามจับ ทำให้ขณะใช้งานอาจพลาดไปโดนปุ่มกดได้ เครื่องอาจหยุดทำงาน ส่งผลให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง และราคาค่อนข้างสูง แต่หากกำลังมองหาเครื่องดูดไรฝุ่นดี ๆ สักเครื่อง SHIMONO รุ่นนี้ตอบโจทย์ค่ะ
ราคาโดยประมาณ | 5,990 บาท |
ขนาด | 250 x 400 x 250 มม. |
น้ำหนัก | 2.58 กก. |
สายไฟยาว | 5 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | 36,900 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | 4,000 Pa |
เสียงดัง | น้อยกว่า 72 เดซิเบล |
ความจุโถเก็บฝุ่น | 0.3 ลิตร |
ขนาดท่อดูด | – |
ขนาดหลอดไฟ UV | 160 มม. |
ความลึกของแสง UV | 253.7 นาโนเมตร |
ชนิดที่กรอง | ไส้กรองสเตนเลส |
กำลังไฟฟ้า | 500 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น Mister Robot รุ่น BV ▲▲
….
….
เครื่องดูดไรฝุ่น Mister Robot รุ่น BV มีขนาดเครื่องพอเหมาะและน้ำหนักกำลังพอดี เหมาะสำหรับใช้งานที่ต้องการความคล่องตัว โดยผู้เชี่ยวชาญจงใจออกแบบให้มีกำลังดูดสูงถึง 12,000 Pa ถือว่าพลังแรงมาก เวลาใช้งานไม่ต้องออกแรงกดเยอะเลย อีกทั้งด้วยระบบสั่นสะเทือนที่มีแผ่นสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ไม่เหมือนใคร สามารถให้พลังตบได้ถึง 32,000 ครั้งต่อนาที เจ้าไรฝุ่นถูกตบและดูดขึ้นมาได้หมดสิ้นภายในเวลาไม่กี่นาทีอย่างแน่นอน บวกกับหลอดที่ให้แสงยูวีคุณภาพสูง และระบบเป่าลมร้อนที่ให้ความร้อนถึง 60 องศา ช่วยฆ่าเจ้าไรฝุ่นตัวร้ายบนที่นอนให้ตายเรียบสิ้นซากเลยทีเดียว
ตัวเครื่องใช้แผ่นกรองรุ่น HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นละเอียด ไม่ให้เล็ดลอดออกจากตัวเครื่องไปได้ และยังนำมาถอดล้างได้จนกว่าจะเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังมีระบบเซนเซอร์ตรวจจับระยะห่างที่สามารถตัดการทำงานของหลอดไฟยูวี ในกรณีที่ยกตัวเครื่องเหนือกว่าพื้นผิว ระบบจะดับแสงลงโดยอัตโนมัติ ช่วยในเรื่องความปลอดภัยต่อดวงตาและผิวหนังของผู้ใช้ ในส่วนของโถเก็บฝุ่นเป็นแบบโปร่งใส สามารถมองเห็นเศษฝุ่นที่ดูดเข้าไปได้ชัดเจน ง่ายต่อการสังเกตเพื่อนำไปทิ้ง และยังถอดออกจากตัวเครื่องไปล้างได้สะดวกอีกด้วย
จากรีวิวของผู้ใช้ที่ทีมงานได้ไปรวบรวมมา ส่วนใหญ่บอกว่า รู้สึกคิดไม่ผิดที่ซื้อเครื่องรุ่นนี้ เพราะโครงสร้าง งานประกอบเครื่องดูแข็งแรง ทนทาน มอเตอร์เล็กแต่ทรงพลัง ตัวเครื่องสามารถดูดไรฝุ่นติดมาได้เยอะมาก ๆ ส่วนความดังจากตัวเครื่องถือว่าเสียงไม่ดังมากไป พอรับได้ แต่เครื่องรุ่นนี้ไม่มีเซนเซอร์โถเก็บฝุ่น จึงทำให้เครื่องทำงานได้ต่อแม้ผู้ใช้ลืมใส่โถเก็บฝุ่น อาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วได้ หลายคนบอกว่ารุ่นนี้ตัดไฟค่อนข้างเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ใช้งานแรงดูดได้ไม่ต่อเนื่องนัก ต้องพักเครื่องก่อน แล้วจึงเปิดขึ้นมาใช้งานได้ใหม่อีกรอบ อาจจะทำให้บางคนหงุดหงิดได้
ราคาโดยประมาณ | 3,990 บาท |
ขนาด | 425 x 300 x 190 มม. |
น้ำหนัก | – |
สายไฟยาว | 4 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | 32,000 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | 12,000 Pa |
เสียงดัง | – |
ความจุโถเก็บฝุ่น | – |
ขนาดท่อดูด | 112 มม. |
ขนาดหลอด UV | 135 มม. |
ความลึกของแสง UV | – |
ชนิดที่กรอง | – |
กำลังไฟฟ้า | 500 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น Xiaomi Deerma Dust Mites Vacuum Cleaner รุ่น CM800 ▲▲
….
….
เครื่องดูดไรฝุ่น Xiaomi รุ่น CM800 มาพร้อมรูปทรงดูทันสมัย น่าใช้ทีเดียวค่ะ ตัวด้ามจับก็เป็นพลาสติกคุณภาพดี จึงไม่ร้อนเมื่อใช้ในระยะเวลานาน และมีปุ่มเปิด ปิดเครื่อง เพื่อให้สามารถกดสั่งงานได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย อีกทั้งตัวเครื่องก็มีน้ำหนักที่ไม่หนักมาก ทำให้สามารถยกใช้งานง่าย จึงช่วยทำความสะอาดที่นอน หมอน ผ้าห่ม รวมถึงผ้าม่านที่แขวนไว้ได้
ตัวเครื่องมีพลังดูดสูงถึง 13,000 Pa กำลังไฟมอเตอร์ 450 วัตต์ และมีแรงสั่นสะเทือนมากถึง 8,000 ครั้งต่อนาที รวมถึงหลอดไฟยูวีคุณภาพสูงที่ปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตชนิดซี คอยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ โดยเมื่อทั้งสามระบบนี้ทำงานพร้อมกัน จะช่วยให้ไรฝุ่นหลุดออกจากพื้นผิวใยผ้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เสริมให้การดูดไรฝุ่นเป็นเรื่องง่าย พร้อมด้วยระบบแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถนำไปล้างน้ำและนำกลับมาใช้ต่อได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะไรฝุ่นหรือเชื้อโรคร้ายกาจขนาดไหน ก็ไม่รอดเงื้อมมือของ Xiaomi CM800 แน่นอนค่ะ
จากการสำรวจความเห็นของผู้ใช้ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เครื่องสวย ใช้งานง่าย และชอบการทำงานของเครื่องที่สามารถทำได้ทั้งสามระบบพร้อมกัน แต่น่าเสียดายที่เวลาเครื่องทำงานจะส่งเสียงดังมาก ตัวโถเก็บฝุ่นก็ค่อนข้างเล็ก ทำให้ต้องหมั่นเททิ้งบ่อย ๆ ดูดได้ไม่นานสะใจเท่าที่ควร อีกทั้งระบบเซนเซอร์หลอดไฟยูวีก็ไม่คอยดีนัก เครื่องต้องแนบชิดกับพื้นสนิท เซนเซอร์ถึงจะทำงาน แต่เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวของเครื่องดูดไรฝุ่นที่ราคาย่อมเยากว่าตัวอื่น ก็อาจจะทำให้ลืมเรื่องนี้ไปได้อยู่เหมือนกัน
ราคาโดยประมาณ | 1,090 บาท |
ขนาด | – |
น้ำหนัก | – |
สายไฟยาว | 3 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | 8,000 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | 13,000 Pa |
เสียงดัง | – |
ความจุโถเก็บฝุ่น | – |
ขนาดท่อดูด | – |
ขนาดหลอด UV | – |
ความลึกของแสง UV | – |
ชนิดแผ่นกรอง | แผ่นกรอง HEPA |
กำลังไฟฟ้า | 450 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น HOMU ▲▲
….
….
จุดที่ทำให้ เครื่องดูดไรฝุ่นแบรนด์ HOMU รุ่นนี้ถึงแตกต่างจากเครื่องดูดไรฝุ่นแบรนด์อื่น ๆ นั้นก็คือความสามารถในการกำจัดเชื้อโรคได้ด้วยสองระบบที่ให้มา ทั้งระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยลำแสงยูวีจากหลอดไฟยูวีคุณภาพสูง และระบบเป่าลมร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค ที่ให้อุณหภูมิความร้อนถึง 60 องศา ลมร้อนที่ผ่านออกมากระทบพื้นผิวที่กำลังทำความสะอาด ช่วยให้เชื้อโรคอ่อนแรงลง สำหรับองค์ประกอบภายนอก เครื่องนี้มีสายไฟยาวถึง 5 เมตร จึงทำให้ใช้งานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ตัวเครื่องมีระบบตัดไฟอัตโนมัติหากเครื่องมีความร้อนสูงเกินไปขณะใช้งาน ดังนั้นจึงไม่ควรใช้งานเกินครั้งละ 20 นาที หากต้องการใช้งานต่อ ควรมีการพักเครื่องอย่างน้อย 10 นาทีก่อนเริ่มเปิดเครื่องใหม่ รุ่นนี้มีล้อเลื่อนที่จะช่วยรับน้ำหนักด้านหน้าของตัวเครื่องให้สามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น แม้จะบนพรมหรือบนพื้นผิวต่าง ๆ สำหรับระบบกรองฝุ่นมาในแบบแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถดักไรฝุ่นและฝุ่นต่าง ๆ ไม่ให้ออกมาจากตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี
มาถึงความเห็นจากผู้ใช้จริงกันบ้างนะคะ โดยส่วนใหญ่บอกว่า สินค้ามีคุณภาพ งานประกอบแข็งแรง ใช้ดี ระบบใช้งานค่อนข้างง่าย เครื่องมีน้ำหนักไม่มาก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง มาพร้อมกับแปรงทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่ช่วงกวาดเศษผงฝุ่นต่าง ๆ ได้อีกด้วย หลังจากการใช้งานเสร็จแล้ว เปิดโถเก็บฝุ่น มีฝุ่นคล้ายผงสีขาว ๆ กองเป็นจำนวนมาก และจำนวนไรฝุ่นเล็ก ๆ ตามที่นอนที่เราไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า สำหรับข้อเสียของเครื่องนี้ก็คือ ไม่มีปุ่มล็อกโถเก็บฝุ่นที่ติดกับตัวเครื่องแน่นหนา ทำให้โถเก็บฝุ่นเลื่อนหลุดได้ง่าย จึงต้องระวังโถเก็บฝุ่นร่วงตกลงมา สำหรับเสียงระหว่างใช้งานมีความดังเหมือนใช้เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปมากกว่า
ราคาโดยประมาณ | 1,390 บาท |
ขนาด | 360 x 200 x 335 มม. |
น้ำหนัก | 1.75 กก. |
สายไฟยาว | 5 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | – |
แรงดูด | – |
เสียงดัง | น้อยกว่า 75 เดซิเบล |
ความจุโถเก็บฝุ่น | 0.5 ลิตร |
ขนาดท่อดูด | 30 x 55 มม. |
ขนาดของหลอด UV | – |
ความลึกของแสง UV | 253.7 นาโนเมตร |
ชนิดที่กรอง | แผ่นกรอง HEPA |
กำลังไฟฟ้า | 400 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น XIAOMI SWDK KC301 Mites Vacuum Cleaner ▲▲
….
มาต่อที่เครื่องดูดไรฝุ่น XIAOMI รุ่น SWDK KC301 ขนาดของเครื่องที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก ด้ามจับดูถนัดมือ รูปทรงออกแบบให้ดูล้ำสมัยน่าใช้ มาพร้อมกับน้ำหนักเครื่อง 1.3 กก. ที่ถือว่าเบาใช้ได้ทุกเพศทุกวัย สำหรับพลังแรงดูด 12,000 Pa ซึ่งให้ความเสถียรแรงดูดต่อเนื่อง รุ่นนี้ให้สายไฟยาวพิเศษถึง 5 เมตร ช่วยให้ยืดเหยียดทำความสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น ระหว่างเปิดเครื่องใช้งานให้เสียงที่ไม่รบกวนมากนัก เพราะเสียงต่ำกว่า 65 เดซิเบล และมีแผ่นตบที่ช่วยสร้างระบบความสั่นสะเทือน ใช้ในการตีฝุ่นให้หลุดออกจากพื้นผิวได้ง่ายขึ้น
วิธีการใช้ไม่ยุ่งยาก ให้จับด้ามถือของเครื่องดูดไรฝุ่น และทำการกดบนพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาดเพียงเล็กน้อย ลากพร้อมกับถูไปมาช้า ๆ ให้เครื่องได้ทำการดูดไรฝุ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของโถเก็บฝุ่น 0.4 ลิตร ขนาดบรรจุฝุ่นที่พอดีกับการใช้งานของเครื่องในแต่ละรอบ และแสงยูวีจากหลอดไฟที่กว้าง 50 มม. ซึ่งให้กำลังแสงที่เท่ากับแสงของดวงอาทิตย์ถึง 253.7 นาโนเมตร จะทำงานเมื่อกระทบพื้นผิวเท่านั้น ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคและให้ไรฝุ่นอ่อนแรง ดูดเก็บได้ง่าย นอกจากนี้ตัวเครื่องจะดับแสงยูวีอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้สัมผัสพื้นผิว
โดยความเห็นของรีวิวส่วนใหญ่พูดว่า แม้พลังแรงดูดอยู่ในระดับปานกลาง แต่สามารถดูดไรฝุ่นได้ดีมาก หลังได้เครื่องดูดไรฝุ่นมา เสียบสายไฟ ก็สามารถกดปุ่มเปิดเริ่มใช้งานได้ทันที ตัวไส้กรองอื่น ๆ สามารถนำมาถอดล้างได้ทั้งหมด ค่อนข้างง่ายสะดวกต่อการดูแลรักษา ทั้งนี้ต้องหมั่นถอดอุปกรณ์ภายในมาล้างบ่อย ๆ เพื่อให้พลังแรงดูดและมอเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
ราคาโดยประมาณ | 1,590 บาท |
ขนาด | 270 x 324 x 170 มม. |
น้ำหนัก | 1.3 กก. |
สายไฟยาว | 5 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | – |
แรงดูด | 12,000 Pa |
เสียงดัง | น้อยกว่า 65 เดซิเบล |
ความจุโถเก็บฝุ่น | 0.4 ลิตร |
ขนาดท่อดูด | – |
ขนาดของหลอด UV | 50 มม. |
ความลึกของแสง UV | 253.7 นาโนเมตร |
ชนิดที่กรอง | แผ่นกรอง HEPA |
กำลังไฟฟ้า | 450 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น Mamibot รุ่น UV-LITE100 ▲▲
….
มาดูแบรนด์ Mamibot รุ่น UV-LITE100 ออกแบบตัวเครื่องมาให้ดูสวยทันสมัยมาก ๆ โครงสร้างระบบใช้งานง่าย ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก เนื่องจากเป็นรุ่นพกพาแบบไร้สาย ตัวแบตเตอรี่เป็นชนิดลิเทียม ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ 2.5 – 3 ชม. หากผู้ใช้ชาร์จแบตเต็ม ก็จะสามารถใช้งานได้นาน 20-30 นาที เสียงรบกวนค่อนข้างต่ำเนื่องจากกำลังมอเตอร์ค่อนข้างน้อยเพียง 100 วัตต์ และมีโถเก็บฝุ่นที่อยู่บริเวณด้านข้าง จึงค่อนข้างง่ายที่จะล้างและถอดนำมาทำความสะอาด ยิ่งกว่านั้นมาพร้อมกับตัวกรองแผ่น HEPA สำหรับการทำงานระบบสั่นสะเทือนให้ความถี่สูง 8,000 ครั้งต่อนาที ถือว่าสูงในไลน์ของเครื่องแบบไร้สาย แต่ก็ให้พลังการดูดที่ลดหลั่นลงมา
ตัวโถเก็บฝุ่นเป็นแบบสีโปร่งใส จึงสามารถมองเห็นสิ่งสกปรกได้ดี หากฝุ่นเต็มโถเก็บก็สามารถนำมาทำความสะอาดได้ทันที ยังเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ สามารถพกพาไปทำความสะอาดตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น โรงแรม เป็นต้น เนื่องจากขนาดเครื่องที่ค่อนข้างเล็กและไม่มีสายระเกะระกะนั่นเอง ด้วยเหตุผลคร่าว ๆ นี้จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมเครื่องดูดไรฝุ่นรุ่นนี้ จึงเป็นเครื่องดูดไรฝุ่นที่ขายดีไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ในตอนนี้
ผู้ใช้หลายท่านให้ความเห็นว่า รู้สึกใช้งานง่าย ได้ผลจริง เครื่องรุ่นนี้ดึงไรฝุ่นสีขาวโพลนออกมาเป็นจำนวนมากจนน่าประทับใจ ถือว่ามีประโยชน์ต่อบ้านที่มีเด็กเล็กอีกด้วย เพราะเสียงค่อนข้างเงียบมาก ๆ มีการฆ่าเชื้อด้วยลำแสงยูวี ระบบกรองก็อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ข้อเสียคือ แรงสั่นสะเทือนและแรงดูดยังต่ำไม่เหมาะกับการใช้งานที่สมบุกสมบันนัก ตัวแบตเตอรี่สามารถเสื่อมสภาพได้เช่นกัน แต่หากมองหาความคุ้มค่าแล้ว รุ่นนี้เหมาะกับการพกพาไปทำความสะอาดตามบริเวณ ที่ปลั๊กไฟเข้าถึงได้ยาก หรือพกพาไปใช้ในรถยนต์ เบาะรถยนต์ เป็นต้น
ราคาโดยประมาณ | 4,990 บาท |
ขนาด | – |
น้ำหนัก | – |
สายไฟยาว | – |
แรงสั่นสะเทือน | 8,000 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | 4,000 Pa |
เสียงดัง | น้อยกว่า 70 เดซิเบล |
ความจุโถเก็บฝุ่น | 0.5 ลิตร |
ขนาดท่อดูด | – |
ขนาดของหลอด UV | 310 มม. |
ความลึกของแสง UV | – |
ชนิดที่กรอง | แผ่นกรอง HEPA |
กำลังไฟฟ้า | 100 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น Xiaomi Youpin Jimmy รุ่น JV11 ▲▲
….
หากคุณกำลังมองหาเครื่องดูดไรฝุ่นที่จะเปลี่ยนงานบ้านที่น่าเบื่อให้กลายเป็นกิจกรรมที่แสนง่ายดาย เรามาดูรุ่น JV11 จาก Xiaomi เจ้าดังจากประเทศจีน เครื่องดูดไรฝุ่นตัวนี้ รูปทรงดูน่าใช้ มีช่องดูดกว้าง 220 มม. และในช่องดูดมีแปรงยาวที่จะคอยทำหน้าที่ปัดฝุ่นเข้ามาในโถเก็บฝุ่น สำหรับโถเก็บฝุ่นแบบโปร่งแสงง่ายต่อการสังเกตไรฝุ่นที่ถูกดูดเข้าไปได้ มีความจุโถเก็บฝุ่น 0.4 ลิตร โถเก็บตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องง่ายต่อเก็บและถอดทำความสะอาด
ความใส่ใจในรายละเอียดที่ผู้ผลิตปรับแต่งคุณสมบัติรุ่นนี้ ยังให้มีลำแสงยูวีลึก 253.7 นาโนเมตร ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อโรคต่าง ๆ ที่ติดตามใยผ้าได้ดี และกำจัดตัวไรฝุ่นที่เกาะอยู่ตามที่นอนได้อย่างสะอาดเอี่ยม บวกกับแรงสั่นสะเทือนที่อยู่ระดับ 14,000 ครั้งต่อนาที ทำให้เสียงของเครื่องดูดไรฝุ่นเครื่องนี้ให้ความดังระดับปานกลาง หรือน้อยกว่า 78 เดซิเบล สำหรับสายไฟค่อนข้างให้มายาวถึง 5 เมตร ช่วยให้การทำงานดูดฝุ่นคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
รีวิวจากผู้ซื้อส่วนใหญ่กล่าวว่า ดูดฝุ่นละเอียดบนที่นอนได้ดีมาก ๆ ฝุ่นออกมาเยอะพอสมควร ด้วยการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนเลย สามารถดูดไรฝุ่นบนโซฟา เบาะรถ เฟอร์นิเจอร์ หรือพื้นผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังใช้งานมีฝุ่นอยู่ในโถเก็บจำนวนมาก ซึ่งเป็นความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้กับผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าพอใจ โดยรีวิวยอดขายยังสูงต่อเนื่องในปัจจุบัน และแม้ราคาสูงกว่า Xiaomi ตัวอื่น แต่ก็ยังถือว่าไม่แรงจนเกินไปนัก
ราคาโดยประมาณ | 1,690 บาท |
ขนาด | 350 x 285 x 221 มม. |
น้ำหนัก | 2.34 กก. |
สายไฟยาว | 5 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | 14,000 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | – |
เสียงดัง | น้อยกว่า 78 เดซิเบล |
ความจุโถเก็บฝุ่น | 0.4 ลิตร |
ขนาดท่อดูด | 220 มม. |
ขนาดของหลอด UV | – |
ความลึกของแสง UV | 253.7 นาโนเมตร |
ชนิดที่กรอง | ฟองน้ำ |
กำลังไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
.
▼▼ เครื่องดูดไรฝุ่น HOMIE รุ่น BED VAC PLUS ▲▲
….
ขอปิดท้ายด้วยรุ่น BED VAC PLUS จาก HOMIE มาในโครงสร้างวัสดุที่เน้นสีขาว ดูเรียบหรูสะอาดตา สวยและดูทันสมัย น่าใช้ ตัวเครื่องมีน้ำหนักไม่มากนัก ด้วยรูปทรงที่กระทัดรัด สามารถทำความสะอาดได้แม้พื้นที่ที่เป็นซอกหลืบในบ้านของคุณ ทั้งยังกำจัดไรฝุ่นและตัวเรือดได้ทุกชนิดโดยรุ่นนี้สังเกตได้ว่าเน้นแรงดูดที่มีพลังสูงถึง 13,000 Pa และมาพร้อมกับระบบแรงสั่นสะเทือน 8,000 ครั้งต่อนาที ในส่วนของโถเก็บฝุ่นขนาด 0.5 ลิตรซึ่งพอดีกับตัวเครื่อง
ระบบการกำจัดไรฝุ่นนั้นใช้การกรองแบบแผ่นกรอง HEPA ซึ่งนำไปล้างทำความสะอาด ตากให้แห้ง และกลับมาใช้ซ้ำได้ ซึ่งการดูแลแผ่นกรองอยู่เสมอ ก็ยังสามารถยืดอายุการใช้งานแผ่นกรองได้นานขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ปุ่มเปิด-ปิด อยู่ตำแหน่งด้ามจับจึงทำให้ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับหลังการใช้งานมีฝุ่นละอองขนาดเล็กเกาะติดอยู่ในโถเก็บฝุ่นเป็นจำนวนมาก
สำหรับความเห็นของผู้ใช้จริงทั้งหลายบอกว่า ตัวเครื่องให้พลังแรงดีมาก เครื่องดูดใช้งานได้ดี เครื่องและด้ามจับไม่ร้อนเร็ว ดูดขนแมว ดูดฝุ่นที่ฝังในฟูกที่นอน หมอน ผ้าคลุม กรองฝุ่นได้เยอะ เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ฝุ่น สายไฟยาวมาก และความดังของตัวเครื่องขณะที่ใช้งานอยู่นั้นให้เสียงที่ไม่ได้ดังเกินไป สำหรับข้อเสียคือ ผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่บอกว่า ตัวเครื่องหนักไป และมีผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกว่า ด้ามจับและปุ่มกดใกล้กันเกินไป ทำให้อาจเผลอไปกดปุ่มปิดระหว่างใช้งานได้
ราคาโดยประมาณ | 1,090 บาท |
ขนาด | – |
น้ำหนัก | – |
สายไฟยาว | 5 เมตร |
แรงสั่นสะเทือน | 8,000 ครั้งต่อนาที |
แรงดูด | 13,000 Pa |
เสียงดัง | – |
ความจุโถเก็บฝุ่น | 0.5 ลิตร |
ขนาดท่อดูด | – |
ขนาดของหลอด UV | – |
ความลึกของแสง UV | – |
ชนิดที่กรอง | แผ่นกรอง HEPA |
กำลังไฟฟ้า | 450 วัตต์ |
.
เลือกซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นอย่างไรดี?
หลาย ๆ คนที่อ่านถึงตรงนี้คงจะสนใจเครื่องดูดไรฝุ่นกันแล้วใช่ไหมค่ะ? เพราะเครื่องดูดไรฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ดี ย่อมช่วยสร้างสุขอนามัยของคนภายในบ้านได้ไม่น้อยทีเดียวค่ะ ดังนั้น คุณจะเลือกซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นได้อย่างไร? วันนี้ทีมงานได้ทำการแยกหัวข้อไว้ให้ไปลองเลือกซื้อกันดู ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลย
…..
ตรวจสอบแรงดูดของเครื่องดูดไรฝุ่น
เครื่องดูดไรฝุ่นนั้นควรมีแรงดูดที่ประมาณ 4,000 Pa ขึ้นไป (ทีมงานได้เลือกค่าเฉลี่ยนี้ จากค่ามาตรฐานของแต่ละรุ่นที่มียอดขายดี) เนื่องจากกำลังมอเตอร์(วัตต์)ที่สูงในบางรุ่นก็ไม่ได้หมายถึงแรงดูดของเครื่องดูดไรฝุ่นจะดีเสมอไป เพราะฉะนั้น การเจาะจงดูค่าแรงดูด (Pa) ตามข้อมูลที่แบรนด์ให้มาจึงตอบโจทย์ที่สุด ทว่า ต้องดูงานประกอบโครงสร้างตัวเครื่องร่วมด้วย เพราะการออกแบบที่ดีย่อมทำให้แรงดูดใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าเช่นกัน
นอกจากนี้ เครื่องดูดไรฝุ่นที่ดี ควรมีการทำงานแบบระบบสั่นสะเทือน หรือการตีพื้นผิวร่วมด้วย เพราะหากมีกำลังแรงดูดเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ไรฝุ่นออกมาจากใยผ้าได้ไม่หมด เนื่องจากตัวไรฝุ่นมีเขี้ยวที่สามารถเกาะติดใยผ้าได้ดี ดังนั้น การทำงานในรูปแบบการตีพื้นผิวควบคู่กับใช้พลังแรงดูด จะทำให้เกิดกระบวนการทำงานที่กำจัดไรฝุ่นได้ดีกว่านั่นเอง
.
ตรวจสอบขนาดถังดักฝุ่น
เนื่องจากขนาดถังดักฝุ่นที่มีขนาดเล็กเกินไปต่อการใช้งานในแต่ละรอบ จำเป็นต้องถอดถังออกมาเทคราบฝุ่นและทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งกลับกลายเป็นการใช้เครื่องดูดไรฝุ่นอาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะคราบไรฝุ่นตัวร้ายอาจจะฟุ้งกระจายทุกครั้งที่เทฝุ่นออกจากถัง ทำให้ฝุ่นเผลอเข้าจมูก ตา หรือปากบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดภูมิแพ้มาเยือนซ้ำซากอีกก็เป็นได้
สำหรับมาตรฐานของถังดักฝุ่นโดยทั่วไป ควรอยู่ที่ 0.3 ลิตร ขึ้นไป แต่ก็อย่าพึ่งกังวลไปค่ะ แม้ขนาดของถังดักฝุ่นนั้น มีแตกต่างกันไปตามแต่ผู้ผลิตของแต่ละรุ่นได้ออกแบบ ซึ่งถ้าหากเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ ผู้เชี่ยวชาญจะออกแบบให้ตรงกับสเปคของเครื่อง อาทิ ขนาดของแรงดูดและกำลังมอเตอร์ที่ใช้งานแต่ละครั้ง รวมถึงให้เข้ากับรูปทรงของตัวเครื่องอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ซื้ออาจดูขนาดของถังดักฝุ่นไว้ เพื่อประกอบการพิจารณาคร่าว ๆ ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ
.
ตรวจสอบน้ำหนักและความยาวสายไฟของเครื่องดูดไรฝุ่น
การใช้เครื่องดูดไรฝุ่นเน้นการถือและออกแรงบังคับเครื่องด้วยมือข้างเดียวเสียส่วนใหญ่ การเลือกเครื่องที่มีน้ำหนักให้พอดีกับสรีระของผู้ใช้ เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย โดยตามหลักใช้งานจริง ๆ หากเครื่องช่วยผ่อนแรงผู้ใช้ได้ด้วย ก็ยิ่งทำให้เครื่องได้ใช้งานอยู่สม่ำเสมอ ดังนั้น เครื่องดูดไรฝุ่นโดยปกติ ควรมีน้ำหนักไม่เกิน 3 กก. เพราะหากบวกลบกับระยะเวลาที่ใช้งานจริง ๆ เพียง 20-30 นาทีต่อครั้ง ก่อนเครื่องดูดไรฝุ่นจะทำการตัดไฟอัตโนมัติ ก็ยังถือว่าไม่หนักจนเกินไปเพราะหากเครื่องมีน้ำหนักเบาเกินไปก็จะทำให้แรงกดและแรงตบน้อย ส่งผลให้ปริมาณแรงดูดที่เครื่องมี ใช้งานได้อย่างไม่เต็มที่นั่นเองค่ะ
สำหรับความยาวของสายไฟ ก็ถือเป็นอีกข้อมูลสำคัญ ที่หลายคนเผลอลืม เพราะมุ่งเน้นไปแต่ตรวจสอบกำลังมอเตอร์และฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ทว่า หากตัดสินใจซื้อมาใช้แล้วสายไฟยาวไม่พอกับการใช้งานจริงภายในบ้าน ไม่สามารถยืดเหยียดทำงานตามจุดต่าง ๆ ของเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องนอนได้ดีนัก ไรฝุ่นและเชื้อโรคที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็สามารถฟักตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นไม่จบไม่สิ้นเช่นกัน ดังนั้น การตรวจสอบน้ำหนักและความยาวสายไฟของเครื่องให้แน่ใจเสียก่อน ก็ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้มากยิ่งขึ้นทีเดียวค่ะ
.
ตรวจสอบเครื่องดูดไรฝุ่นแบบไร้สายและแบบมีสาย
โดยทั่วไป เครื่องดูดไรฝุ่นจะทำออกมาให้เราได้เลือกใช้ อยู่สองแบบคือ แบบไร้สายและแบบมีสาย ซึ่งทั้งสองแบบนี้ ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปค่ะ มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันดีกว่า
เครื่องดูดไรฝุ่นแบบไร้สาย : แบบไร้สายนั้น จะเป็นเครื่องที่ต้องใช้ไฟบ้านชาร์จก่อนใช้งาน รุ่นนี้จะมีแบตเตอรี่ในตัว เนื่องจากออกแบบให้เป็นรุ่นขนาดพกพาได้ จึงมีขนาดเล็กและมอเตอร์กำลังไฟต่ำกว่าเครื่องดูดไรฝุ่นแบบมีสาย ทำให้ระยะเวลาในการใช้งานค่อนข้างจำกัดลงกว่าเครื่องดูดไรฝุ่นแบบมีสายเช่นกัน ดังนั้น การเลือกความจุของแบตเตอรี่(mAh) ที่มากพอและการชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ จะช่วยให้พื้นผิวที่ต้องการดูดเชื้อโรค สะอาดหมดจดมากกว่าเดิม และเครื่องทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เครื่องดูดไรฝุ่นแบบมีสาย : เป็นเครื่องที่มีสายไฟติดกับตัวเครื่องโดยตรง ไม่เหมาะสำหรับพกพาเหมือนแบบไร้สาย แต่ด้วยพลังมอเตอร์ที่สูงกว่า จึงสามารถนำมาใช้ดูดไรฝุ่นได้แรงกว่าเครื่องแบบไร้สาย แต่ทั้งนี้ แม้กำลังวัตต์ที่มากกว่าเครื่องแบบไร้สาย ก็ใช่ว่าจะใช้งานได้ต่อเนื่องนัก เพราะเครื่องดูดไรฝุ่นแบบมีสายรุ่นใหม่ ๆ นั้นมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ที่จะคอยตัดไฟทันทีเมื่อเครื่องมีความร้อนสูงหรือใช้งานเป็นระยะเวลาเกินกว่าที่คู่มือแนะนำ การตัดไฟในแต่ละรอบเพื่อพักเครื่องและยืดอายุการใช้งานของตัวเครื่องไม่ให้เสื่อมสภาพได้ง่าย หากต้องการใช้เครื่องต่อ ก็ต้องพักเครื่องสัก 10 นาที เพื่อให้เครื่องได้รีเซ็ตระบบและทำงานใหม่อีกครั้ง แม้จะดูวุ่นวายสักเล็กน้อย แต่ระบบก็สร้างมาเพื่อต้องการเน้นย้ำถึงความปลอดภัยต่อตัวเครื่องและผู้ใช้นั่นเอง
….
ตรวจสอบฟังก์ชันเสริมของเครื่องดูดไรฝุ่น
แต่ละรุ่นออกแบบฟังก์ชันมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในหลาย ๆ รูปแบบ อาทิ
- ตัวกรองไรฝุ่น มีทั้งแบบที่สามารถใช้ซ้ำได้ และแบบที่ต้องเปลี่ยนอยู่สม่ำเสมอ โดยปกติเครื่องดูดไรฝุ่นทั่วไปจะนิยมนำแผ่นกรองแบบ HEPA มาใช้แต่อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อย ๆ ในขณะที่บางรุ่นเป็นไส้กรองโลหะ หรือสเตนเลสที่ใช้ซ้ำได้ ถ้าหากคุณมีงบจำกัด ก็ควรเลือกซื้อตัวกรองไรฝุ่นที่สามารถใช้ซ้ำได้จะดีกว่า แต่ก็ต้องหมั่นทำความสะอาด เพื่อให้แน่ใจว่าไรฝุ่นและเศษผงไม่เกาะติดมากจนลดประสิทธิภาพของแรงดูดของเครื่องลง
- ฟังก์ชันสำหรับการทำงานแบบประหยัดไฟ ช่วยปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ได้อีกด้วย
- ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของแรงดูด ที่กำจัดไรฝุ่นได้รวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นระบบสั่นสะเทือนหรือแรงตบของเครื่อง ที่จะช่วยให้ตัวไรฝุ่นที่มีขาเป็นเขี้ยวเล็ก ๆ เกาะติดใยผ้า หลุดออกจากใยผ้าได้ง่ายขึ้น ระบบรังสีอัลตราไวโอเลต เมื่อแสงยูวีกระทบตัวไรฝุ่นหลายล้านตัว จะช่วยให้ไรฝุ่นอ่อนแรงหลุดออกจากพื้นผิวได้อย่างง่ายดาย หรือระบบเป่าลมร้อน ที่มีความร้อนสูงก็จะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ติดกับพื้นผิวได้ เป็นต้น
…..
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
มาถึงตรงนี้แล้ว มีใครเจอเครื่องดูดไรฝุ่นตรงตามความต้องการของตัวเองกันบ้างหรือยัง? เมื่อคุณตัดสินใจจะซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นได้แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมก่อนจะทำการซื้อ นั่นก็คือ การทำการบ้านว่าต้องการซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นเพื่อจุดประสงค์ใด และเครื่องแบบไหนที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคุณมากที่สุด
ที่สำคัญ ควรศึกษาข้อดีและข้อเสียของเครื่องดูดไรฝุ่นให้แน่ใจก่อนซื้อ เพื่อผลลัพธ์สำหรับการใช้งานในระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะเครื่องดูดไรฝุ่นที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนั้น ยังส่งผลในด้านสุขภาพระยะยาว ที่จะช่วยลดปัญหาภูมิแพ้ หอบหืด ผดผื่น อาการคันแดงตามตัวจากไรฝุ่นและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่หมักหมมในที่นอนของคุณ ทั้งหมดนี้ หากคุณเลือกฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และบ้านของคุณได้แล้ว ก็ถึงเวลากำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ไรฝุ่นตัวร้าย และเชื้อโรคให้หมดไปจากบ้านสักที !