แนะนำ 10 แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2020 ดีไซน์สวย ชาร์จเร็ว พกพาง่าย ได้มาตรฐาน
แท่นชาร์จไร้สาย อีกหนึ่งอุปกรณ์ทันสมัยที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายมากขึ้น หลายครั้งที่เราต้องเจอกับปัญหาสายชาร์จพันกันยุ่งเหยิง หยิบมาใช้ไม่ทันใจ เวลาชาร์จสมาร์ทโฟนทิ้งไว้ก็จะมีสายระโยงระยางเกะกะ เปลืองพื้นที่ จนทำให้หลาย ๆ คนเดินสะดุดกันอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การเสียบสายชาร์จเข้าออกบ่อย ๆ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ทุกวัน ยังทำให้พอร์ตชาร์จของสมาร์ทโฟนพังอีกด้วย จากปัญหากวนใจเหล่านี้ แท่นชาร์จไร้สายจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราบอกลาปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งหมด
แท่นชาร์จไร้สายจะถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าให้กับสมาร์ทโฟนทันทีที่ถูกวางลงบนแท่นชาร์จ ทำให้สมาร์ทโฟนมีแบตเตอรี่พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา และยังสามารถชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ Smart Device อื่น ๆ ได้ รวมไปถึงการชาร์จสมาร์ทโฟน 2 เครื่องบนแท่นชาร์จไร้สายเดียวกันได้อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังสนใจและอยากซื้อแท่นชาร์จไร้สายดี ๆ สักเครื่องมาลองใช้ดูบ้าง และอยากได้ที่ชาร์จไร้สายคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า ต้องลองอ่านบทความ แนะนำ 10 แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2020 ดีไซน์สวย ชาร์จเร็ว พกพาง่าย ได้มาตรฐาน ของเราในวันนี้เลยค่ะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
แท่นชาร์จไร้สาย ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นอย่างไร
แม้ว่าการชาร์จไร้สายจะชาร์จไฟได้ไม่เร็วเท่ากับการเสียบสายชาร์จโดยตรงกับไฟบ้านก็ตาม แต่การใช้แท่นชาร์จไร้สายก็จะช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายกว่าเดิมไม่น้อย วันนี้เราจึงได้สรุปประโยชน์ของแท่นชาร์จไร้สายมาให้อ่านกันแบบคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
- ไปเที่ยวที่ไหนก็ง่ายกว่าเดิม เพราะไม่ต้องพกสาย Adapter อีกต่อไป มีแท่นชาร์จไร้สายอันเดียวก็พอแล้ว แค่วางสมาร์ทโฟนบนแท่นชาร์จ แบตเตอรี่ก็เพิ่มขึ้นอัตโนมัติทันทีเลย
- นอกจากจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนได้แล้ว ยังสามารถชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วย เช่น Smart Watch หรือ Airpods เรียกได้ว่ามีแท่นชาร์จไร้สายแค่อันเดียว แต่ได้ประโยชน์หลายต่อเลย
- แท่นชาร์จไร้สายบางรุ่นสามารถชาร์จหลายอุปกรณ์พร้อม ๆ กันได้ เช่น ชาร์จสมาร์ทโฟน 2 เครื่องพร้อมกัน หรือจะชาร์จสมาร์ทโฟนไปพร้อม ๆ กับ Smart Watch ก็ได้ ในขณะที่การใช้สายชาร์จ จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่ละอุปกรณ์เท่านั้น
- สามารถใช้งานร่วมกับหัวชาร์จที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วอย่าง Quick Charge หรือ Fast Charge ได้ ช่วยให้การชาร์จไร้สายจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับสมาร์ทโฟนได้เร็วขึ้น โดยแท่นชาร์จไร้สายบางรุ่นสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ 7.5 W และ 10W อีกด้วย
- การชาร์จไร้สายช่วยถนอมช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน เพราะเพียงแค่วางสมาร์ทโฟนบนแท่นชาร์ทก็สามารถรับพลังงานไฟฟ้าจากแท่นชาร์จได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องคอยเสียบสายแบตเตอรี่เข้า-ออกบ่อย ๆ
…
ตารางสรุปข้อมูลแท่นชาร์จไร้สายแบบรวบรัด
…
แนะนำ 10 แท่นชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ดีไซน์สวย ชาร์จเร็ว พกพาง่าย ได้มาตรฐาน
หลังจากที่เราได้อ่านประโยชน์ของแท่นชาร์จไร้สายกันไปแล้ว ต่อไปลองมาดู 10 แท่นชาร์จไร้สายจากหลากหลายยี่ห้อที่เราอยากแนะนำให้ลองใช้กันเลยค่ะ
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Belkin BOOST↑UP™ Wireless Charging Stand F7U083 ▲▲
….
….
แท่นชาร์จไร้สาย Belkin BOOST↑UP™ Wireless Charging Stand F7U083 ถูกออกแบบมาเรียบ ๆ ให้ดูคล้ายกระจกตั้งโต๊ะบานเล็ก วางไว้ตรงไหนของบ้านก็ไม่รู้สึกขัดตา บนแท่นชาร์จใช้ผิวสัมผัสแบบ Non-Slip Surface ทำให้มือถือไม่ลื่นหล่นขณะชาร์จ โดยสามารถวางสมาร์ทโฟนบนแท่นชาร์จได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ดังนั้นไม่ว่าเราจะกำลังคุยโทรศัพท์หรือกำลังดูภาพยนตร์อยู่ หากมีการแจ้งเตือนแบตเตอรี่ต่ำขึ้นมา เพียงวางสมาร์ทโฟนบนแท่นชาร์จในแนวที่ต้องการ ก็สามารถทำงานหรือดูภาพยนตร์ต่อไปได้เลยโดยไม่ถูกขัดจังหวะ เรียกว่าเป็นแท่นชาร์จไร้สายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวจริง ๆ ค่ะ
แท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้มาพร้อมหัวชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 ช่วยให้ชาร์จสมาร์ทโฟนได้เร็วกว่าการใช้หัวชาร์จทั่วไปที่มีขนาด 5 วัตต์ 4 เท่า รองรับการชาร์จกำลังไฟได้หลายระดับ ไม่ว่าจะเป็น 7.5W สำหรับ iPhone 9W สำหรับ Samsung และสูงสุดที่ 10W สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับมาตรฐาน Qi นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุบนแท่นชาร์จ หากเป็นวัตถุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนอย่าง กุญแจ หรือเหรียญ แท่นชาร์จจะแสดงไฟ LED แจ้งเตือนเป็นสีส้ม หลายคนที่ซื้อไปใช้จริงชอบแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ที่สามารถวางมือถือแนวตั้งได้ ถ้ามีสายเรียกเข้าก็สามารถหันไปดูได้เลย โดยไม่ต้องคอยลุกไปมองหน้าจอ ถือว่าเป็นแท่นชาร์จไร้สายที่สะดวกและใช้งานดีเลยทีเดียวค่ะ
ราคา | 2,490 บาท |
ขนาด | 11 x 10 ซม. |
น้ำหนัก | 110 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✓ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge 3.0) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✓ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | Overheating Protection / เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุบนแท่นชาร์จ |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Samsung Wireless Charger Duo Pad ▲▲
….
สำหรับใครที่มีอุปกรณ์ Smart Device อยู่หลายชิ้นน่าจะถูกใจ Samsung Wireless Charger Duo Pad แน่นอนค่ะ เพราะแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มี 2 จุดชาร์จในแท่นเดียว สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้ 2 เครื่องพร้อม ๆ กัน หรือจะชาร์จ Smart Watch พร้อมกับโทรศัพท์มือถือก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจุดชาร์จทั้ง 2 จุดมีการจ่ายไฟที่แตกต่างกัน ดังนี้
- จุดชาร์จที่ 1 จ่ายไฟสูงสุดที่ 15W เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนที่ต้องการกำลังไฟมาก ได้แก่
– Samsung Galaxy S20, S20+, S20 Ultra
– Samsung Note10, 10+
– Samsung Galaxy S10, S10+, S20 - จุดชาร์จที่ 2 จ่ายไฟสูงสุดที่ 10W เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไปที่ต้องการกำลังไฟ 5W หรือ iPhone ที่ต้องการกำลังไฟ 7.5W และยังถูกออกแบบมาให้วาง Smart Watch ได้อย่างพอดี ๆ อีกด้วย
แท่นชาร์จทั้ง 2 จุดรองรับเทคโนโลยี Fast Charge ทำให้ชาร์จไฟฟ้าได้เร็ว ขณะใช้งานจะมีไฟ LED แสดงสถานะอยู่ด้วยทั้ง 2 จุด หากไฟขึ้นสีแดง หมายถึงกำลังมีการชาร์จอยู่ หากเป็นไฟสีเขียว หมายถึงชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% เรียบร้อยแล้ว และหากไฟสีส้มกระพริบ แสดงว่ามีการวางอุปกรณ์ที่แท่นชาร์จรุ่นนี้ไม่รองรับอยู่ หลายคนที่ใช้งานจริงประทับใจกับดีไซน์ของแท่นชาร์จ ชอบผิวสัมผัสที่ไม่ติดรอยนิ้วมือ ใส่เคสขณะชาร์จได้ คุ้มราคาและอยากแนะนำให้คนที่ใช้ Samsung ซื้อไปลอง คงจะชอบมากเช่นกัน
ราคา | 2,290 บาท |
ขนาด | 19.5 x 9.2 x 1.8 ซม. |
น้ำหนัก | 168 g |
กำลังไฟ | 15W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✓ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Fast Charge) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✓ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 8 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | ชาร์จพร้อม Smart Watch ได้ / ชาร์จสมาร์ทโฟน 2 เครื่องได้พร้อมกัน |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Xiaomi Yeelight Wireless Charging Night Light ▲▲
….
….
Xiaomi Yeelight Wireless Charging Night Light แท่นชาร์จไร้สายที่มาพร้อมโคมไฟ LED ขนาดเล็กสไลต์มินิมอล ที่ฐานวางโคมไฟจะเป็นขั้วชาร์จแบบแม่เหล็กที่ปรับหมุนได้ 180 องศา และถอดแยกออกจากฐานเพื่อถือไปใช้ที่อื่นได้ ใครที่ชอบลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อย ๆ สามารถหยิบโคมไฟนี้ช่วยส่องนำทางได้เลย และยังสามารถปรับแสงจากโคมไฟให้เป็นแสงสว่างสีขาวหรือแสงสีส้มถนอมสายตาได้ด้วย หากเป็นแสงสีขาวจะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง ส่วนแสงสีส้มจะใช้งานได้ 20 ชั่วโมง
แท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็วและโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ได้มาตรฐาน Qi หากสวมเคสที่หนาไม่เกิน 4 มม. สามารถชาร์จไฟได้เลยได้โดยที่ไม่ต้องถอดเคส ด้านข้างฐานแท่นชาร์จจะมีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ โดยไฟสีแดงจะแจ้งเตือนเมื่อวางอุปกรณ์ที่แท่นชาร์จไม่รองรับ ไฟสีเขียวจะแสดงขึ้นเมื่อแท่นชาร์จพร้อมใช้งาน สามารถวางโทรศัพท์มือถือได้เลย และไฟสีน้ำเงิน หมายถึงกำลังชาร์จไฟอยู่ ผู้ใช้งานจริงหลายคนชอบแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ที่ราคาไม่แพง และใช้โคมไฟเล็กเป็นไฟหัวเตียงได้ด้วย
ราคา | 799 บาท |
ขนาด | 22.5 x 8 x 4.3 ซม. |
น้ำหนัก | 220 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✘ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge 3.0) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 4 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | โคมไฟ LED เล็ก |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Nillkin Magic Disk 4 Fast Wireless Charger ▲▲
….
….
แท่นชาร์จไร้สาย Nillkin Magic Disk 4 Fast Wireless Charger ดีไซน์โดดเด่นเป็นทรงกลมแบนมีไฟ LED แบบ White Light และ Colorful Lights สวยงาม ใช้วัสดุเป็นกระจกใสและพลาสติกเคลือบด้าน ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือและยังเคลือบสารกันรอยไว้ให้ด้วย โดยที่ฐานด้านล่างจะแปะซิลิโคนกันลื่น พร้อมช่องระบายอากาศกระจายอยู่เป็นวงกลม ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี และรักษาอุณหภูมิแท่นชาร์จไม่ให้ร้อนจนเกินไป ซึ่งเมื่อแท่นชาร์จมีความร้อนเกินกำหนด ระบบจะทำการตัดไฟฟ้าให้ทันที
ด้านในแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้มี Intelligent Chip ช่วยตรวจจับวัตถุบนแท่นชาร์จ หากไม่ใช่โทรศัพท์มือถือที่ได้มาตรฐาน Qi ไฟ LED จะกระพริบแจ้งเตือนและระบบชาร์จไฟจะไม่ทำงาน แต่เมื่อชาร์จโทรศัพท์รุ่นที่แท่นชาร์จรองรับ ไฟ LED จะเปลี่ยนจากสี Colorful เป็นไฟสีน้ำเงินแทน หากใครที่รู้สึกว่าแสงไฟจากแท่นชาร์จสว่างเกินไปจนรบกวนสายตา ก็สามารถกดปิดไฟได้เช่นกัน แท่นชาร์จจะยังคงทำงานอยู่แม้จะไม่ได้เปิดไฟก็ตาม ผู้ใช้งานจริงหลายคนชอบแท่นชาร์จรุ่นนี้ที่ดีไซน์เรียบสวย มีเครื่องหมายกลางแท่นชาร์จช่วยระบุตำแหน่ง Center การจ่ายไฟ ชาร์จไฟได้โอเค วัสดุทนทานน้ำหนักเบา พกพาง่าย
ราคา | 787 บาท |
ขนาด | 13.5 x 13.5 x 4.5 ซม. |
น้ำหนัก | 120 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✓ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge 3.0) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 6 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุบนแท่นชาร์จ / ระบบตัดไฟเมื่อแท่นชาร์จมีความร้อนเกินกำหนด |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Belkin BOOST UP Qi Wireless Charging Pad F8M747bt ▲▲
….
….
แท่นชาร์จไร้สาย Belkin BOOST UP Qi Wireless Charging Pad F8M747bt ออกแบบมาในลักษณะสี่เหลี่ยมแบน เรียบหรู ใช้วัสดุเป็นพลาสติก ABS แข็งแรง ทนความร้อนสูง มีแถบยางซิลิโคนทั้งด้านบนและด้านล่างแท่นชาร์จ ช่วยให้แท่นชาร์จยึดเกาะกับผิวโต๊ะได้ดี และป้องกันไม่ให้สมาร์ทโฟนลื่นหล่น ที่ฐานด้านข้างจะแสดงไฟ LED สีเขียวเมื่อวางอุปกรณ์ลงบนแท่นชาร์จ หากไม่ใช่อุปกรณ์ที่รองรับระบบ Qi แท่นชาร์จก็จะไม่ทำงาน ทำให้ไม่เกิดความร้อนที่ไม่จำเป็นขึ้น
แท่นชาร์จรุ่นนี้จ่ายพลังงาน 5W ซึ่งเป็นปริมาณไฟฟ้าที่พอดีกับสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไปตามมาตรฐาน Qi แต่อาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับการชาร์จ iPhone เพราะพลังงานที่จ่ายออกมาสำหรับ iPhone ควรเป็น 7.5W ดังนั้นสาวก Apple อาจจะต้องใช้เวลาชาร์จไร้สายนานกว่าเพื่อน ๆ ไปสักนิด อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความเห็นผู้ใช้งานจริง หลายคนแจ้งว่า 5W ก็โอเคแล้ว วางสมาร์ทโฟนชาร์จไว้เรื่อย ๆ ก็สามารถใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหาอะไร หากต้องการให้แบตเตอรี่เต็มเร็ว ๆ สามารถเสียบสาย PD แทนได้
ราคา | 790 บาท |
ขนาด | 11.6 x 1.3 ซม. |
น้ำหนัก | 191 g |
กำลังไฟ | 5W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✘ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Fast Charge) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 3 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | ระบบตัดไฟเมื่อแท่นชาร์จมีความร้อนเกินกำหนด |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย AUKEY LC-Q4 ▲▲
….
AUKEY LC-Q4 แท่นชาร์จไร้สายที่ถูกออกแบบมาอย่างโดดเด่นแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ วัสดุภายในทำจากอลูมิเนียม ห่อหุ้มด้วยใยผ้าด้านบน ทำให้ไม่เกิดปัญหารอยนิ้วมือ ลดการกระแทกหรือเสียดสีกันระหว่างแท่นชาร์จและโทรศัพท์มือถือได้ดี จึงไม่เกิดปัญหารอยขีดข่วนขึ้นเหมือนการใช้งานแท่นชาร์จไร้สายรุ่นอื่น ๆ ที่ใช้วัสดุเป็นกระจกใสหรือพลาสติกผิวเรียบ แท่นชาร์จมีน้ำหนักเบา บาง พกพาสะดวกและมีไฟ LED แจ้งสถานะเมื่อมีการชาร์จไฟ โดยจะปรากฎเป็นรูปสายไฟขึ้นที่แท่นชาร์จเลย
แท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้จ่ายพลังงานออกมาได้สูงสุด 10W สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่ต้องการกำลังไฟฟ้าแตกต่างกันได้ ทั้งสมาร์ทโฟนที่ต้องการพลังงาน 5W 7.5W หรือ 10W และวางสมาร์ทโฟนลงบนแท่นชาร์จได้เลยโดยที่ไม่ต้องถอดเคส (ควรเป็นเคสพลาสติก และหนาไม่เกิน 3 มม.) เมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ใช้งานจริง หลายคนชอบที่แท่นชาร์จให้ผิวสัมผัสเป็นผ้าด้านบน ใช้งานได้ดี คุ้มราคาที่ซื้อมาและมีความแข็งแรงทนทาน
ราคา | 690 บาท |
ขนาด | 11.2 x 12.6 x 0.65 ซม. |
น้ำหนัก | 150 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✘ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Fast Charge) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 3 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | – |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Eloop W2 Quick Wireless Charger ▲▲
…
….
Eloop W2 Quick Wireless Charger เป็นแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับการชาร์จเร็วแบบ Quick Charge และสามารถใช้เป็น Power Bank ได้ด้วย มีความจุ 5000mAh ลักษณะภายนอกของแท่นชาร์จเป็นทรงรีเล็ก คล้ายกล่องแว่นแบน หุ้มด้วยหนัง PU ทำให้ผิวสัมผัสของแท่นชาร์จไม่ลื่น ช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนหล่นขณะชาร์จได้ดี หากสมาร์ทโฟนสวมเคสพลาสติกหนาไม่เกิน 4 มม. สามารถวางชาร์จได้เลยโดยที่ไม่ต้องถอดเคสออก
แท่นชาร์จไร้สายจาก Eloop รองรับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี Qi ได้ทุกรุ่น โดยสามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าแตกต่างกันได้หลายระดับ ทั้งที่ต้องการพลังงาน 5W และ 7.5W หรือมากกว่า แต่สูงสุดคือไม่เกิน 10 W เมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ใช้งานจริงแล้วพบว่า หลายคนพึงพอใจกับแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ แม้จะชาร์จไฟได้ช้ากว่าการเสียบปลั๊กกับไฟบ้านโดยตรง แต่ก็ถือว่าชาร์จได้เร็วกว่าที่คิด ชอบที่มีราคาถูกด้วย โดยรวมจึงถือว่าเป็นแท่นชาร์จที่มีความคุ้มค่ารุ่นนึงเลย
ราคา | 369 บาท |
ขนาด | 14.5 x 7.2 x 1.0 ซม. |
น้ำหนัก | 138 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✘ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 4 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | เป็น Powerbank ในตัว |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย UGREEN 60470 ▲▲
….
….
แท่นชาร์จไร้สาย UGREEN 60470 สามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี Qi ได้ทุกรุ่น รวมถึง Airpods ก็สามารถชาร์จไฟผ่านแท่นชาร์จนี้ได้เช่นกัน กรณีสมาร์ทโฟนสวมเคสพลาสติกหนาไม่เกิน 3 มม. สามารถวางบนแท่นชาร์จได้เลยโดยที่ไม่ต้องถอดเคสออก แท่นชาร์จมีลักษณะเป็นทรงกลมแบน ขนาดเล็กพอ ๆ กับฝ่ามือ มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ด้านบนและด้านล่างแท่นชาร์จมีแผ่นยางกันลื่น ช่วยให้สมาร์ทโฟนไม่หล่นขณะชาร์จและช่วยให้แท่นชาร์จยึดติดผิวโต๊ะได้ดีด้วย
แท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้รองรับระบบชาร์จเร็วทั้ง Quick Charge 2.0 และ 3.0 โดยสามารถจ่ายพลังงานให้กับสมาร์ทโฟนได้สูงสุด 10W และชาร์จไฟได้เร็วกว่าแท่นชาร์จขนาด 5W 1.4 เท่า ด้านในฝังชิปคอยตรวจเช็คอุณหภูมิแท่นชาร์จ เพื่อป้องกันไม่ให้แท่นชาร์จมีอุณหภูมิสูงเกินไปจนอาจเกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้ เมื่อลองสำรวจความเห็นของผู้ใช้งานจริง หลายคนชอบแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ที่แม้จะมีราคาถูกมาก แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีเหมือนกับรุ่นที่ราคาแพงกว่าโดยไม่ปัญหาอะไรเลย
ราคา | 339 บาท |
ขนาด | 9 x 1.0 ซม. |
น้ำหนัก | 59 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✘ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge 3.0) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 3 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | – |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Eloop W1 Wireless Charger ▲▲
….
ใครที่เป็นแฟน Eloop และกำลังมองหาแท่นชาร์จไร้สายรุ่นที่มีสีขาวหรือดำเรียบสไตล์มินิมอล ขอแนะนำเป็น Eloop W1 Wireless Charger เลยค่ะ ดีไซน์จะคล้ายกับแท่นชาร์จไร้สาย Nillkin Magic Disk 4 Fast Wireless Charger ตรงที่มีลักษณะเป็นทรงกลมแบน มีมาร์ค Center ตำแหน่งจ่ายไฟตรงกลางไว้ให้ด้วย แต่ต่างกันตรงที่แท่นชาร์จไร้สายของ Eloop รุ่นนี้จะใช้วัสดุเป็นผิวกระจกดำหรือขาวเรียบทั้งแผ่นแทนกระจกใส ทำให้แท่นชาร์จดูเรียบหรู เงางาม ทันสมัย และยังมีราคาประหยัดกว่าถึงครึ่งหนึ่งเลย
ด้านในแท่นชาร์จมีชิปตรวจสอบวัถตุบนแท่น หากไม่ใช่สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี Qi แท่นชาร์จจะไม่ทำงาน โดยในกรณีปกติแท่นชาร์จจะจ่ายไฟได้สูงสุด 10W สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone และ Samsung ได้สบาย ๆ เมื่อลองสำรวจความเห็นผู้ใช้งานจริง หลายคนให้ความเห็นว่าแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ใช้งานได้ดีสมราคา อีกทั้งตัวเครื่องยังบาง น้ำหนักเบา แต่ข้อเสียที่พบคือ เนื่องจากเป็นแผ่นกระจกและไม่มีแผ่นยางกันลื่นมาให้ สมาร์ทโฟนจึงเลื่อนขยับไปมา จึงต้องระมัดระวังในการวางค่ะ
ราคา | 309 บาท |
ขนาด | 13 x 0.8 ซม. |
น้ำหนัก | 140 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✘ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 3 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | – |
.
▼▼ แท่นชาร์จไร้สาย Divi ProTech Fast Wireless Charger ▲▲
….
แท่นชาร์จไร้สาย Divi ProTech Fast Wireless Charger ถูกออกแบบมาในขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 100 กรัม บริเวณจุดชาร์จมีผิวสัมผัส 2 แบบให้เลือกตามความชอบ ได้แก่ ผิวแท่นชาร์จแบบแผ่นกระจกขาวเงาและดำเงา เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเรียบหรู แต่สำหรับใครที่กังวลเรื่องของรอยนิ้วมือ ไม่ชอบผิวกระจก กลัวสมาร์ทโฟนจะลื่นหล่นในขณะชาร์จ แนะนำให้เลือกซื้อเป็นแท่นชาร์จที่เป็นผิวหนัง PU ขาวหรือดำแทนดีกว่าค่ะ
ภายในแท่นชาร์จมีระบบควบคุมความร้อนและระบบตัดไฟอัตโนมัติให้ทันทีที่ชาร์จไฟเต็ม 100% เพื่อป้องกันการดึงไฟฟ้ามาใช้เกินความจำเป็น และช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนด้วย จึงมั่นใจได้เลยว่าหากซื้อแท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้ไปแล้วจะใช้งานได้อย่างปลอดภัยจริง ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถวางโทรศัพท์มือถือบนแท่นชาร์จได้เลยโดยที่ไม่ต้องถอดเคสออก ผู้ใช้งานจริงหลายคนชอบที่แท่นชาร์จออกแนวเรียบ แต่ดูทันสมัย และโดยรวมแล้วถือว่าชาร์จไฟได้ดีเลยค่ะ
ราคา | 690 บาท |
ขนาด | 9 x 0.8 ซม. |
น้ำหนัก | 100 g |
กำลังไฟ | 10W |
โทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ |
|
มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม | ✓ |
รองรับการชาร์จเร็ว | ✓ (Quick Charge 3.0) |
วางโทรศัพท์ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนในขณะชาร์จ | ✘ |
สามารถชาร์จพร้อมใส่เคสได้ | ✓ (เคสพลาสติกไม่เกิน 8 มม.) |
ผ่านมาตรฐาน Qi | ✓ |
ฟังก์ชันเพิ่มเติม | – |
.
เลือกแท่นชาร์จไร้สายอย่างไร
การที่จะหาแท่นชาร์จไร้สายสักเครื่องหนึ่งมาใช้งาน ควรศึกษาข้อมูลการทำงานของแท่นชาร์จไร้สาย และฟังก์ชั่นคร่าว ๆ เพื่อใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วย โดยสามารถอ่านรายละเอียดได้ดังต่อไปนี้
…..
แท่นชาร์จไร้สายทำงานอย่างไร
หลายคนอาจสงสัยว่าในเมื่อไม่มีสายชาร์จ แต่ทำไมแท่นชาร์จจึงสามารถทำให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนมีพลังงานเพิ่มขึ้นได้ทั้ง ๆ ที่ไม่มีส่วนใดเชื่อมต่อกันเลย อุปกรณ์ทั้งสองสามารถส่งผ่านพลังงานไฟฟ้าให้กันได้อย่างไร ?
หลักการทำงานของแท่นชาร์จไร้สายนี้อ้างอิงจาก “การสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า” ที่ถูกสร้างขึ้นได้โดยการปล่อยให้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่วิ่งไหลผ่านขดลวดทองแดง จากนั้นกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านขดลวดจะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็กขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้สามารถทำย้อนกลับได้ นั่นหมายความว่า ถ้าปล่อยกระแสไฟออกจากแบตเตอรี่ เราจะได้สนามแม่เหล็ก แต่ถ้าเราอยากได้กระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าไปที่แบตเตอรี่สมาร์ทโฟน เราก็แค่ปล่อยสนามแม่เหล็กออกมาแทน หลักการนี้จึงถูกนำมาใช้ในการสร้างแท่นชาร์จไร้สายขึ้นนั่นเอง
.
เทคโนโลยี Qi และ Transmitter Coil กับ Receiver Coil คืออะไร มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
จากวิธีการทำงานคร่าว ๆ ข้างต้น จะเห็นได้ว่าแท่นชาร์จไร้สายจะสามารถเปลี่ยนสนามแม่เหล็กให้เป็นกระแสไฟฟ้าได้นั้น จำเป็นต้องมี “ขดลวดทองแดง” ซึ่งขดลวดนี้จะถูกวางอยู่ทั้งหมด 2 จุดด้วยกัน
- ขดลวดจุดที่ 1 จะอยู่ที่แท่นชาร์จไร้สาย เราเรียกขดลวดบริเวณนี้ว่า “Transmitter Coil”
- ขดลวดจุดที่ 2 จะอยู่ที่ฝาด้านหลังของสมาร์ทโฟน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็น “Receiver Coil”
ดังนั้นเมื่อวางสมาร์ทโฟนบนแท่นชาร์จ จึงเท่ากับว่าเรากำลังวางขดลวด 2 อันไว้ใกล้ ๆ กันอยู่ และเมื่อขดลวดทั้งสองอยู่ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก จะทำการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าไหลกลับไปที่แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน ยิ่งวางสมาร์ทโฟนใกล้แท่นชาร์จมากเท่าไหร่ เท่ากับว่าเรากำลังวางขดลวดไว้ใกล้กันมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งใกล้ ยิ่งสร้างกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น และช่วยให้แบตเตอรี่เต็มได้เร็วขึ้นตามไปด้วย
กระบวนการสร้างกระแสไฟฟ้าจากสนามแม่เหล็กแบบนี้ ถูกเรียกว่า “เทคโนโลยี Qi” และอุปกรณ์ที่ช่วยแปลงคลื่นแม่เหล็กให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าได้ จะถูกเรียกว่าเป็น “อุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี Qi” ดังนั้นเวลาอ่านข้อความอธิบายแท่นชาร์จไร้สายที่ระบุว่า สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี Qi ได้ จึงหมายความว่า แท่นชาร์จไร้สายนี้ จะต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่มีขดลวดทองแดงอยู่ด้านหลังเครื่องเท่านั้น เพราะอุปกรณ์ทั้งสองจะช่วยกันแปลงคลื่นแม่เหล็กบนแท่นชาร์จให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าไหลกลับเข้าไปที่แบตเตอรี่ได้นั่นเอง
สมาร์ทโฟนรุ่นเก่า ๆ ที่ไม่มีการใส่ Receiver Coil ไว้ด้านหลังตัวเครื่อง สามารถใช้แผ่น “QI Wireless Charger Receiver” เข้ามาช่วยได้ค่ะ ราคาไม่แพงเลยเพียงหลักร้อยเท่านั้น ลักษณะจะเป็นแผ่นขดลวดสี่เหลี่ยมคล้ายการ์ดหรือบัตรเครดิตเล็ก ๆ พร้อมสายเสียบเข้ากับช่องเสียบสายชาร์จสมาร์ทโฟน เพียงเท่านี้ก็สามารถนำสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าของเราไปวางบนแท่นชาร์จไร้สายเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้แล้ว
.
Qi Certified คืออะไร
แม้เราจะทราบดีว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่นั้นเป็นรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี Qi และสามารถใช้งานร่วมกับแท่นชาร์จไร้สายได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรเลือกซื้อแท่นชาร์จไร้สายสุ่มสี่สุ่มห้านะคะ ควรเลือกพิจารณาเฉพาะแท่นชาร์จไร้สายที่ผ่าน “มาตรฐาน Qi” เท่านั้น เนื่องจากอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานนี้จะถูกทดสอบมาแล้วว่ามีความปลอดภัย และไม่ทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเสียหาย โดยจะมีการทดสอบคุณภาพแท่นชาร์จไร้สายด้วย 3 ปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
- เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ : สามารถใช้ชาร์จแบตเตอรี่ต่อเนื่องได้นานแค่ไหน ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ไม่ช้าจนเกินไป
- แรงดันไฟที่เหมาะสมกับการชาร์จ : มีการแปลงแรงดันไฟฟ้าที่เกิดขึ้นให้เหมาะสมกับสมาร์ทโฟนรุ่นนั้น ๆ หรือไม่
- อุณหภูมิ : ขณะชาร์จไฟแท่นชาร์จไม่ควรเกิดความร้อนสูงเกินมาตรฐานที่กำหนด หลายแบรนด์จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับและควบคุมความร้อน ใส่พัดลมหรือช่องระบายอากาศ รวมถึงใส่ระบบตัดไฟฟ้าเมื่อความร้อนสูงเกินไปมาให้ด้วย
ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อแท่นชาร์จไร้สายสักเครื่อง ยอมเสียเวลาอ่านรายละเอียดสินค้าให้ละเอียดก่อน เพื่อเช็คว่าแท่นชาร์จไร้สายนั้นได้มาตรฐานจริง ๆ จะได้ใช้แท่นชาร์จไร้สายอย่างสบายใจและปลอดภัยจริง ๆ กันนะคะ
.
การอ่านค่าพลังงานการชาร์จไร้สาย
โดยปกติแล้ว แท่นชาร์จไร้สายจะระบุค่าพลังงานมาให้เป็นค่าวัตต์ (W) แต่ก็มีอีกหลายรุ่นที่มีการแจ้งค่าพลังงานมาเป็นค่าโวลท์ (V) และค่ากระแสแอมแปร์ (A) เช่น “แท่นชาร์จไร้สายจ่ายไฟฟ้าได้ถึง 5V/2A” กรณีแบบนี้สามารถคำนวณกำลังไฟฟ้าที่แท่นชาร์จสามารถปล่อยออกมาได้ โดยการนำตัวเลข V และ A มาคูณกันตามสูตร Power (W) = V (V) x I (A) ได้เลยค่ะ ซึ่งจะทำให้เราทราบว่าแท่นชาร์จไร้สายนี้ สามารถจ่ายพลังงานออกมาได้ 5V x 2A = 10W
นอกจากนี้ แท่นชาร์จไร้สายบางรุ่นยังมีการแสดงค่าพลังงานเป็นแบบ Input/Output ด้วย เช่น “แท่นชาร์จไร้สายจ่ายพลังงาน 10W/7.5W” ซึ่งในกรณีนี้หมายความว่า แท่นชาร์จมีการดึงพลังงานเข้ามาสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 10W แต่จะปล่อยพลังงานไฟฟ้าออกมาไหลกลับเข้าไปที่สมาร์ทโฟน 7.5W ดังนั้นหากต้องการทราบว่าสมาร์ทโฟนจะได้รับพลังงานจากการชาร์จเท่าไหร่ ให้ดูที่ตัวเลข W ด้านหลังเป็นหลักนะคะ
อาจจะมีบางครั้งที่เรารู้สึกว่าแท่นชาร์จไร้สายจ่ายไฟได้น้อย แบตเตอรี่ขึ้นช้า ทั้ง ๆ ที่ตามค่าพลังงานที่ระบุไว้น่าจะสามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่านี้ นั่นเป็นเพราะการชาร์จแบบไร้สายจะมีการสูญเสียพลังงานระหว่างชาร์จอยู่ตลอดนั่นเองค่ะ พลังงานที่เสียไปเรียกว่าเป็นค่า Loss ซึ่งมักจะไม่มีการระบุค่าอย่างชัดเจน เพราะแท่นชาร์จไร้สายแต่ละแบบจะมีค่า Loss ที่ไม่เท่ากัน แต่โดยปกติจะไม่เกิน 30% ของค่าพลังงาน Output ที่ผู้ผลิตระบุไว้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเองด้วย ยิ่งวางสมาร์ทโฟนห่างจากแท่นชาร์จ หรือหยิบออกจากแท่นชาร์จบ่อย ๆ ก็จะยิ่งเกิดค่า Loss มากขึ้น ทำให้ไฟไม่เข้าสมาร์ทโฟน 100% และชาร์จแบตเตอรี่ได้ช้าลงด้วยค่ะ
.
การชาร์จเร็วของแท่นชาร์จไร้สาย
หลายครั้งที่แท่นชาร์จไร้สายจะมีการโฆษณาว่ารองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งมีทั้งแบบ Quick Charge 2.0 3.0 และยังมีแบบ Fast Charge อีกด้วย การชาร์จเร็วที่ระบุแตกต่างกันนี้มีผลกับการทำงานของแท่นชาร์จที่แตกต่างกันด้วย โดยจากสูตร Power (W) = V (V) x I (A) จะเห็นได้ว่าจะชาร์จพลังงานได้เร็ว ๆ นั้น จะต้องมีการเพิ่ม “แรงดันไฟฟ้า (V)” หรือ “กระแสไฟฟ้า (A)” ให้มากขึ้น ทำให้สามารถแบ่งเทคโนโลยีการชาร์จเร็วได้ดังนี้
- การชาร์จเร็วโดยการเพิ่ม “กระแสไฟฟ้า (A)”
1.1 เทคโนโลยี Dash Charge จะมีการจ่ายพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 5V 4A
1.2 เทคโนโลยี Super Charge จะมีการจ่ายพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 5V 4.5A หรือ 4.5V 5Aอย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมนัก เราจึงไม่ค่อยได้เห็นชื่อเทคโนโลยีข้างต้นในคำโฆษณาค่ะ เนื่องจากการใส่กระแสไฟฟ้าเข้าไปเยอะ ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หลายบริษัทจึงเลือกวิธีที่ 2 คือการเพิ่มแรงดันไฟฟ้าและใช้กระแสไฟฟ้าน้อย ๆ เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่แทน - การชาร์จเร็วโดยการเพิ่ม “แรงดันไฟฟ้า (V)”
2.1 เทคโนโลยี Power Delivery จะมีการจ่ายไฟฟ้าสูงสุดที่ 5V-20V 5A อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ได้แก่ iPhone, Google Pixel 2-3 และ MacBook
2.2 เทคโนโลยี Quick Charge อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ได้แก่ Samsung, LG, Sony, Nokia, Asus, Xiaomi, HTC และ Vivo โดยสามารถแบ่งย่อยตามระดับปริมาณไฟฟ้าที่สามารถปล่อยออกมาได้อีกดังนี้
– Quick Charge 2.0 จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 5V-9V 2A หรือ 12V 1.5A
– Quick Charge 3.0 จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 5V-6V 3A หรือ 6-9V 2A หรือ 12V 1.5A
– Quick Charge 4.0 จะจ่ายพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 3V-5.9V 4.6A หรือ 6V-11V 2.5A
2.3 เทคโนโลยี Fast Charge Protocol จะมีการจ่ายไฟฟ้าสูงสุดที่ 5V-9V 2A อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ได้แก่ Huawei
2.4 เทคโนโลยี Adaptive Fast Charge จะมีการจ่ายไฟฟ้าสูงสุดที่ 5V 2A หรือ 9V 1.67A อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ได้แก่ Samsung ตระกูล Galaxy Note และตระกูล S6-S9
หลายแบรนด์เปลี่ยนชื่อเทคโนโลยีการชาร์จเร็วเป็นชื่อเฉพาะของแบรนด์เอง เพื่อให้ดูแตกต่างและส่งเสริมการตลาด ดังนั้นแนะนำให้ยึดตัวเลขพลังงานไฟฟ้าที่แท่นชาร์จสามารถจ่ายออกมาได้เป็นสำคัญ ควรเลือกแท่นชาร์จไร้สายที่มีปริมาณไฟฟ้าเหมาะสมกับสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่จะดีกว่าค่ะ
.
ข้อควรระวัง เมื่อใช้การชาร์จแบบไร้สาย
- เนื่องจากเป็นการชาร์จโดยใช้สนามแม่เหล็ก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอุปกรณ์หรือวัตถุที่เป็นโลหะให้อยู่ห่างจากแท่นชาร์จ เพื่อลดคลื่นรบกวน และให้แท่นชาร์จไร้สายสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
- แท่นชาร์จไร้สายหลายรุ่นต้องวางสมาร์ทโฟนระนาบไปกับระดับพื้น หากสมาร์ทโฟนสั่นจึงมีโอกาสลื่นตกจากแท่นชาร์จได้ ดังนั้นควรเลือกแท่นชาร์จไร้สายที่มีซิลิโคนหรือขอบยางป้องกันการลื่นหล่นด้วย
- การชาร์จไร้สายทำให้เกิดความร้อนได้ง่ายกว่าการชาร์จแบบปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกแท่นชาร์จที่มีระบบตัดไฟเมื่ออุณหภูมิแท่นชาร์จสูงเกินไป มีช่องระบายอากาศ หรือพัดลมด้านใน และระบบตัดไฟฟ้าเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม เพื่อป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมเนื่องจากกระแสไฟฟ้าไหลเข้าสมาร์ทโฟนมากเกินจำเป็น
.
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว หวังว่าเพื่อน ๆ จะมีความเข้าใจการทำงานของแท่นชาร์จไร้สายมากขึ้น และทราบวิธีอ่านค่าไฟฟ้าคร่าว ๆ เพื่อใช้พิจารณาเลือกซื้อแท่นชาร์จไร้สายได้อย่างถูกต้องนะคะ อย่าลืมเลือกแท่นชาร์จให้เหมาะสมกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เราใช้อยู่ด้วย รวมถึงพิจารณาฟังก์ชันสำคัญ ๆ อย่างเซ็นเซอร์ตรวจจับอุปกรณ์แปลกปลอม เพื่อป้องกันการจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นหากมีการวางวัตถุที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับบนแท่นชาร์จ รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ควบคุมอุณหภูมิ และระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็มด้วย เพื่อป้องกันอันตรายและป้องกันแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเสื่อมประสิทธิภาพเร็วกว่าที่ควร
นอกจากนี้ อย่าลืมเช็คลักษณะภายนอก อย่างวัสดุผิวสัมผัสของบริเวณที่ต้องวางสมาร์ทโฟนด้วยว่าเป็นแบบใด มีผิวเรียบลื่น หรือมีแผ่นซิลิโคนช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนลื่นหล่นหรือไม่ มีไฟ LED ช่วยแสดงสถานะการชาร์จไฟให้ดูด้วยหรือเปล่า หวังว่าทั้ง 10 แท่นชาร์จไร้สายที่นำมาแนะนำจะถูกใจและตรงกับความต้องการของเพื่อน ๆ สักชิ้นหนึ่งนะคะ