แนะนำ 10 บลัชออน ถูกและดี ยี่ห้อไหนดี 2020 สีสวย เม็ดสีแน่น ติดทนนาน ให้งานผิวดีด้วยโทนสีธรรมชาติ
การแต่งหน้าก็คือ สัญชาตญาณของผู้หญิงกับทุกช่วงอายุค่ะ ยิ่งมีเทคนิคการแต่งหน้าดี ๆ ฝีมือเก่ง ๆ ก็สามารถดึงความเป็นตัวเองออกมาได้มาก การแต่งหน้าแน่นอนว่าต้องมีรองพื้นหรือไพรเมอร์เบสในการเพิ่มความเนียนให้ใบหน้า และเพื่อความติดทนของเครื่องสำอาง แต่ถ้าพูดถึงการแต่งหน้าในส่วนอื่น ๆ ก็ถือเป็นงานหนักสำหรับสาว ๆ ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เพราะต้องมีการฝึกฝนการแต่งหน้าบ่อย ๆ ให้ชินมือ และเมื่อมาถึง “บลัชออน” ไอเทมที่ผู้หญิงหลายคนอาจจะคิดว่า แค่นำมาปัด ๆ ที่แก้มให้ดูมีสีสัน และเพิ่มความสดใสให้ใบหน้า แต่การใช้บลัชออนก็มีเทคนิคการใช้เหมือนกันนะคะ ! ไม่ใช่แค่ปัดอย่างไรก็ได้แล้วออกมาสวย เพราะบลัชออนมีเนื้อสัมผัสหลายประเภท
แน่นอนว่า เทคนิคการปัดบลัชออนแต่ละประเภทก็แตกต่างกันออกไป เพราะถ้าปัดผิดวิธีแล้วละก็… เตรียมตัวแก้มแดงเป็นลิงให้โดนเพื่อนล้อได้เลยค่ะ จะเห็นได้ว่าแค่การปัดบลัชออนให้ถูกวิธีก็เป็นคีย์สำคัญที่จะทำให้การแต่งหน้าของเราเพอร์เฟ็คมากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึงประเภทของบลัชออน แนะนำบลัชออน ราคาถูกและดี สาว ๆ จะลงทุนซื้อมาลองหลาย ๆ สี ก็ไม่ทำร้ายเงินในกระเป๋า รวมไปถึงเทคนิคในการเลือกสีบลัชออนให้เหมาะกับผิว และวิธีการลงบลัชออนให้เข้ากับรูปหน้า ข้อมูลแน่นขนาดนี้ ต้องตามมาดูแล้วค่ะสาว ๆ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
บลัชออนคือ Must Have Item!
เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนหยิบบลัชออนขึ้นมา แล้วมีความคิดว่า ‘แค่ปัดนิดหน่อยก็เสร้จแล้ว’ หยิบแปรงขึ้นมาจุ่มบลัชสีหวานที่ตัวเองชอบ ปัดลงบนแก้มทั้งสองข้างเบา ๆ ยิ้มให้กระจก เช็กความเรียบร้อยของเมคอัพ แล้วก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ดูเหมือนง่าย ๆ แค่นั้นใช่ไหมละคะ แต่ความจริงแล้ว บลัชออน เป็นมากกว่าที่ทุกคนคิดค่ะ
เริ่มมาจากคนอียิปต์โบราณเป็นชาติแรก ที่มีการนำบลัชหรือพิกเม้นท์สีที่ใช้ทางพิธีทางศาสนา เรียกว่า Beauty Rituals มาทาแก้ม จากนั้นบลัชออนก็เริ่มมีความนิยมมากขึ้นในวงการความงาม ช่วงระหว่างคริสต์ทศวรรษที่ 15-17 ยังไม่มีการคิดค้นการทำบลัชออนที่ดีมากนัก ส่วนผสมจึงเป็นสารเคมีที่ค่อนข้างเป็นอันตราย จนเมื่อสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาอุตสาหกรรมความงาม จึงสามารถคิดค้นและสร้างมาตรฐานการผลิตบลัชออนที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภคได้ มีการปรับเปลี่ยนส่วนผสมให้เป็นธรรมชาติและปลอดภัยกับผิวหน้า จนได้บลัชออนที่ใช้ในการแต่งหน้าจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
ดิฉันเอง ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่นชอบการแต่งหน้า และต้องแต่งหน้าออกจากบ้านทุกครั้งไม่ว่าจะขี้เกียจแค่ไหนก็ต้องแต่งนะคะ ! เมื่อมาพิจารณาดูว่าจริง ๆ แล้ว ผู้หญิงทุกคนไม่ได้มีรูปทรงใบหน้าแบบเดียวกัน แถมสีผิวก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการแต่งหน้า เพราะสีผิวแต่ละเฉดสี ก็มีทั้งบลัชสีที่ทาแล้วสวย เข้ากับสีผิว และบลัชสีที่ทาแล้วอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือโป๊ะนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น บลัชออนคือ ปัจจัยสำคัญที่สามารถทำให้เมคอัพของสาว ๆ ลงตัวและมีความเป็นธรรมชาติ หรือจะทำให้เมคอัพของเราพังก็มีความเป็นไปได้สูงด้วยเช่นกัน การเลือกบลัชออนที่เข้ากับสีผิว และใช้ได้อย่างชำนาญ จึงจะช่วยเสริมลุคของเราได้อย่างดีมากที่สุดนั่นเองค่ะ
…
ประเภทของบลัชออนที่สาว ๆ ควรรู้
1. แบบฝุ่น (Powder Blush) : เป็นประเภทที่รู้จักกันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์ไหน ก็ต้องมีบลัชออนแบบฝุ่น สามารถใช้ได้ทั้งตอนที่แต่งและไม่แต่งหน้า ลักษณะคล้ายแป้ง มีหลายเฉดสี และเนื้อสัมผัสหลายแบบ เช่น เนื้อซาติน เนื้อแมท และเนื้อที่ให้ความเงาวาวแก่ผิว เกลี่ยและเบลนให้เข้ากับผิวได้ง่าย ให้ความสบายผิวและลุคเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะหลุดลอกง่ายกว่าแบบครีม เหมาะกับคนผิวผสม และผิวมัน
2. แบบครีม (Cream Blush) : สามารถทาลงบนผิวหน้าได้เลยหรือทาหลังรองพื้น เนื้อเกลี่ยง่าย ติดทนมากกว่าแบบฝุ่น และดูธรรมชาติมากกว่าแบบฝุ่น สามารถใช้นิ้ว แปรงหรือฟองหน้าทาได้ เหมาะกับคนผิวแห้ง และผิวธรรมดา เนื่องจากแบบครีมจะมีเม็ดสีที่แน่นและติดทนนาน จึงควรทาบาง ๆ ก่อนนะคะ
3. แบบน้ำ (Water Blush) : มีความเหลวมากกว่าแบบครีม ไม่ควรทาหลังจากลงรองพื้นแล้ว เพราะอาจจะทำให้เป็นคราบบนเมคอัพ ทาลงผิวหน้าเลยหลังจากทาครีมกันแดด จะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติ แบบผิวเลือดฝาด ทาง่าย ซึมไว แต่สีอาจจะดรอป และไม่ค่อยติดทนมาก เหมาะกับการแต่งหน้าแบบสบาย ๆ ไม่หนักหน้าค่ะ
…
ตารางสรุปข้อมูลบลัชออนปัดแก้มแบบรวบรัด
…
แนะนำ 10 บลัชออน ถูกและดี ยี่ห้อไหนดี สีสวย เม็ดสีแน่น ติดทนนาน ให้งานผิวดีด้วยโทนสีธรรมชาติ
เพื่อน ๆ ได้รู้ความอัศจรรย์ของบลัชออนกันแล้ว ว่าบลัชออนช่วยให้การแต่งหน้าของเรา Complete มากขึ้น! และได้ฟินิชลุคที่มีความเป็นธรรมชาติสดใสด้วยโทนสีของบลัช ตั้งแต่โทนส้มสำหรับสาวเปรี้ยวไปจนถึงโทนชมพูแบบสาวหวาน อย่ารอช้าค่ะ! มาเลือกบลัชออนด้วยกันเลยย
▼▼ บลัชออน NYX Ombre Blush Fard Ombre ▲▲
….
….
ไหนใครเป็นสาวกแบรนด์ Nyx บ้างคะ ต้องขอบอกเลยว่าบลัชออนตัวนี้ จะเป็นไอเท็มตัวโปรดของสาว ๆ อย่างแน่นอนค่ะ! โดยทาง Nyx ผลิตบลัชออกมามากถึง 8 เฉดสี ไล่สีแบบ Ombre ที่มี Code Breaker ซึ่งเป็นสีโทนอ่อนและโทนเข้มในผลิตภัณฑ์ที่ผสมกันจนได้สีใหม่ขึ้นมา ทำให้ได้สีบลัชออนถึง 3 สีในตลับเดียว! ใครไม่ชอบพกเครื่องสำอางเยอะ ๆ รับรองใช้ตัวตัวเดียว จบค่ะ จะใช้เป็นอายแชโดว์ หรือไฮไลท์เก๋ ๆ ก็สวยไม่แพ้กัน และถ้าใครชอบแต่งหน้าสายฝอ บลัชสีน้ำตาลของ Nyx ยังใช้เป็นบรอนเซอร์ได้อีกด้วยนะ
ดีไซน์ตลับเป็นสีดำเงาสวยงาม มาพร้อมกับกระจกด้านใน ที่ช่วยให้การปัดแก้มง่ายขึ้น ตัวบลัชออนก็มีอายุการใช้งานได้นานถึง 2 ปี ซื้อครั้งเดียวถือว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไปจริง ๆ ค่ะ ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์มีความเป็นชิมเมอร์และแมทไปในตัว ละเอียดและเนียน เหมาะสำหรับสาวผิวหน้ามัน ทาแล้วไม่เป็นคราบ แถมยังติดทนนานด้วย ถ้าพูดถึงสีสันของบลัชออนแล้วละก็ สีสันสดใสมากค่ะ คนที่ชอบแต่งหน้าโทน Colorful ต้องบอกว่าแจ่มทุกสี
ราคา | 499 บาท |
ขนาด | 8 g |
ราคาต่อหน่วย | 62.37 บาท ต่อ g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อ | เนื้อชิมเมอร์ |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนชมพู นู้ด และม่วง |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ บลัชออน L’oreal Paris Le Blush ▲▲
….
L’oreal Paris Le Blush บลัชออนตัวนี้ ไม่พูดถึงไม่ได้เลยค่ะ เพราะได้รับความนิยมสูงมาก โดยทาง L’oreal ได้ทำบลัชออนมาในรูปแบบตลับพกพาง่าย พร้อมแปรงบลัชออนขนาดจิ๋ว เนื้อผลิตภัณฑ์มีลายพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดนเด่นไม่เหมือนใคร และมีสีให้เลือกมากถึง 9 เฉดสี ตั้งแต่โทนสีส้ม ชมพู ไปถึงโทนสีทอง และม่วง อาจจะเป็นโทนสีที่แปลกไปซักหน่อย แต่เมื่อทาแล้วกลับให้สีที่เป็นธรรมชาติมาก ดูสวย ไม่หลอกตาเลยค่ะ และสำหรับใครที่ชอบโทนสีชมพูอยู่แล้วสี Natural Pink ตอบโจทย์เลยค่ะ! สีนี้ใช้แล้วดูอ่อนเยาว์ หน้าเด็กลงไปอีก 10 ปี แถมราคาก็คุ้มค่ากับคุณภาพแบรนด์สุด ๆ
เนื้อสัมผัสก็เนียนนุ่ม เบลนเข้ากับผิวได้ง่าย คล้ายเนื้อครีม แต่ไม่หนัก ไม่อุดตันผิว และไม่ทำให้หน้ามันระหว่างวัน ยิ่งเวลาที่เนื้อบลัชออนเซทตัวเข้ากับผิวแล้วผิวโดนแสง จะยิ่งมีความออร่าและเงาวาวของบลัชออนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังบิ้วสีของบลัชให้เป็น Glam Make-Up Look ได้อีกด้วย จะแต่งหน้าแนวไหน บลัชตัวนี้ก็ปรับให้เข้ากับลุคได้ลงตัว แต่เรื่องความติดทนอาจจะมีสีดรอปลงบ้าง ถ้าต้องการเมคอัพลุคแบบเต็ม สาว ๆ ต้องพกไปเติมบ่อย ๆ นะคะ
ราคา | 279 บาท |
ขนาด | 4.5 g |
ราคาต่อหน่วย | 62 บาท ต่อ g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อแมท / ชิมเมอร์ |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | มีหลายโทนสี |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดาถึงผิวมัน |
ประเทศที่ผลิต | ฝรั่งเศส |
.
▼▼ บลัชออน Maybelline New York Fit Me Mono Blush ▲▲
….
ไหนใครมีคอลเลคชั่น Fit Me! บ้างคะ อยากบอกสาว ๆ เลยว่า ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเป็นบลัชออนที่ทำออกมามากถึง 10 เฉดสี อยากได้ลุคสวยสีโทนไหน Fit Me จัดให้ได้ค่ะ จริง ๆ แล้วแพ็กเกจจิ้งเก่าจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ทางแบรนด์ได้ทำการเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่ เพื่อให้เข้าถึงสาว ๆ ได้มากขึ้น และยังทำให้ตลัปดูดีสวยขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและพกพาง่ายมาก ถึงขนาดที่สามารถใส่ในกระเป๋าตังค์ของสาว ๆ ได้เลยค่ะ
เนื้อผลิตภัณฑ์ก็มีความนุ่มเนียน เนื้อแบบ Silky เวลาทาบนผิวจะเนียนไปกับผิว สามารถแต่งหน้าได้หลายแนวแบบไม่จำเจ และเนื้อยังเพิ่มเติมด้วยชิมเมอร์ ปัดแค่ครั้งเดียวก็วิ้ง ไม่เป็นคราบ หลังจากนั้นสักพัก เนื้อบลัชออนก็จะเริ่มเซทตัวกับผิว ทำให้เหมือนกับเป็นสีผิวแก้มจริง ๆ แก้มสวยระเรื่อเลยค่ะ พร้อมติดทนนาน 4-5 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องเติมเพิ่ม ลุคสวยอย่างมีสีสันได้ตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกเฉดสีไหนดี แนะนำให้ลองบลัชออนสี Pink (25), Rose (30) และ Coral (35) เพราะเป็นโทนสีชมพูที่ขายดีที่สุดค่ะ สามารถปัดแล้วเข้าได้กับทุกโทนสีผิว จะเป็น Natural Look ก็ได้ หรือแบบ Make-Up No Make-Up ก็ดีค่ะสาว ๆ
ราคา | 170 บาท |
ขนาด | 4.5 g |
ราคาต่อหน่วย | 37.77 บาท ต่อ g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อฝุ่น |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนสีชมพูถึงนู้ด |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ บลัชออน Revlon Powder Blush ▲▲
….
Revlon แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาที่สาว ๆ น่าจะรู้จักกันดี ทางแบรนด์เองก็มีเครื่องสำอางมากมายที่เป็นที่รู้จัก บลัชออนเองก็ถือว่าเป็นสินค้าที่ขายดีอันดับต้น ๆ นอกจากจะมีรีวิวผู้ใช้จริงทั่วโลกแล้ว คุณภาพก็อัดแน่นมาก ๆ และยังปลอดภัยกับทุกสภาพผิวอีกด้วยค่ะ โดยบลัชออนรุ่นนี้ จะมีโทนสีส้มและชมพูแบบเนื้อฝุ่น แต่ขอบอกเลยว่าติดทนพอ ๆ กับแบบครีมและน้ำเลยละค่ะ ใครชอบให้แก้มตัวเองมีสีสวย ๆ ติดทนทั้งวัน ต้องจัดบลัชออนตัวนี้เลย และที่สำคัญเป็นบลัชออนตัวแรกที่สามารถบิ้วสีได้ โดยที่ไม่เป็นคราบ ไม่หลอกตา เป็น Buildable Colour ที่จะปัดซ้ำเท่าไหร่ก็ไม่โป๊ะ!
ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะมีสีผิวแบบไหน ก็สามารถใช้ได้ค่ะ เพราะเราสามารถควบคุมสีของบลัชได้นั่นเอง บลัชออนไม่ได้เน้นชิมเมอร์มาก ปัดแล้วจะไม่เงาเกินไป เหมาะกับสาวผิวขาวจนถึงขาวเหลือง สีที่ได้เป็นธรรมชาติ ให้ลุคใส ๆ ไม่เน้นอะไรมาก แต่ต้องขอเตือนสาว ๆ ก่อนเลยว่าอย่าใช้เติมเพลินจนหมดตลับนะคะ เพราะว่าเขาทำมาพร้อมกระจกและแปรงสำหรับบลัชออนโดยเฉพาะ ซึ่งพกพาสะดวก ถ้าพกติดกระเป๋าไปเติมบ่อย ๆ สาว ๆ คงต้องเตรียมตังค์ไว้ซื้อบ่อย ๆ แน่ค่ะ
ราคา | 339 บาท |
ขนาด | 43 g |
ราคาต่อหน่วย | 7.88 บาท ต่อ g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อฝุ่น |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนสีส้มและชมพู |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | สหรัฐอเมริกา |
.
▼▼ บลัชออน Mistine Pure Rose Blush On ▲▲
….
….
ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม แต่ไม่ได้แค่สวยธรรมดาเท่านั้น เพราะสารสกัดที่ได้จากดอกกุหลาบยังมีคุณค่ามากอีกด้วย แบรนด์เครื่องสำอางของไทยอย่าง Mistine จึงได้นำกุหลาบงามจากดินแดนตุรกี มาสกัดทำเป็นส่วนผสมของบลัชออน Mistine Pure Rose Blush On ตัวนี้เลยค่ะ นอกจากจะเพิ่มสีสันให้กับผิวแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวส่วนแก้มให้ดูสุขภาพดี ระเรื่อ และดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับกุหลาบบานสะพรั่ง
บลัชออนมีอยู่ด้วยกัน 3 สี ซึ่งสีที่ได้มาจากสารสกัดดอกกุหลาบนั่นเองค่ะ สีเอวีลีนและสีพีช โซเนีย เหมาะกับสาวผิวขาวอมชมพูสุด ๆ ส่วนสีแบมบาด้าจะออกแนวสีชมพูอมส้ม เหมาะกับสาวผิวขาวเหลือง ตัวสีของบลัชไม่หลุดลอกง่าย ปัดแล้วอยู่ติดทนบนผิวหน้าของสาว ๆ แน่นอค่ะ และเนื้อบลัชก็มีกลิ่นหอมผ่อนคลายที่ไม่ได้มาจากน้ำหอม จึงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ใครมีผิวแพ้ง่าย ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ก็มีเนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เนียนและไม่เป็นคราบ ให้ความเงาเปล่งปลั่งด้วยเนื้อชิมเมอร์ แถมยังไม่ทำให้หน้ามันด้วยนะ ! ใครชอบแต่งหน้าโชว์งานผิว ปัดแค่บลัชก็สวยแล้วค่ะ
ราคา | 98 บาท |
ขนาด | 3.6 g |
ราคาต่อหน่วย | 27.22 บาท ต่อ g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อชิมเมอร์ |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนสีส้มและชมพู |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | ไทย |
.
▼▼ บลัชออน 4U2 You Heart Me Blush Cream ▲▲
….
บลัชออนของ 4U2 รุ่น You Heart Me ตลับน่ารักถูกใจวัยรุ่น ผลิตออกมาให้เลือกกันอย่างจุใจมากถึง 30 สี ! ทำเอาเลือกสีปัดแก้มกันไม่ถูกเลยทีเดียว ความพิเศษไม่ได้จบที่มีเฉดสีที่หลากหลายเท่านั้น ยังทำมาเพื่อทุกสภาพผิวของสาว ๆ ตั้งแต่ผิวแพ้ง่ายไปจนถึงผิวมันมากด้วยค่ะ แถมมีกันแดด SPF 35 PA+++ ช่วยปกป้องผิวหน้าของเราจากแสงแดดด้วยนะคะ ราคาก็น่าคบหา จะซื้อมาลองหลาย ๆ เฉดสีก็ได้ ที่สำคัญแต่งหน้าลุคไหนก็ตอบโจทย์ ไม่ต้องกลัวหน้าหมอง แค่ปัดบลัชออน You Heart Me ค่ะ !
ด้านบลัชออนมีเนื้อสัมผัสทั้งหมด 3 รูปแบบ สำหรับสาวผิวผสมและผิวมัน ควรใช้แบบเนื้อแมทที่มีสีให้เลือกถึง 10 สี ถ้าสาว ๆ ยังเลือกไม่ถูก เราแนะนำว่าลอง Cola Squash II (M0) สีโทนม่วง ให้ความสวยที่แปลกแนวดีค่ะ สาวผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งก็ไม่ต้องน้อยใจ เขามีบลัชออนแบบครีมที่เป็น Best Seller ต้องยกให้สี Match Maker (C8) เป็นแบบเนื้อชิมเมอร์ ทาเบา ๆ แต่ได้ลุคฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี ใครชอบโทนสีส้ม ขอแนะนำสี Sandy Beach (S6) และ Golden River (S7) ช่วยเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าได้อย่างดีเลยค่ะ
ราคา | 49 บาท |
ขนาด | 2.5 g |
ราคาต่อหน่วย | 19.6 บาท ต่อ g |
ประเภท | แบบครีม |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | แบบครีม / ชิมเมอร์ / แมท |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | มีทุกโทนสี |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | ไทย |
.
▼▼ บลัชออน Cute Press Nonstop Beauty Ombre Blush ▲▲
….
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงมีผลิตภัณฑ์ของ Cute Press ติดไม้ติดมือกันบ้าง แต่บลัชออนที่จะมาแนะนำตัวนี้ เป็นของใหม่มาแรงแซงทางโค้ง ที่นอกจากจะมีแพ็กเกจที่น่ารักถูกใจสาว ๆ แล้ว ยังมีดีไซน์การไล่สีภายในตลับได้สวยด้วยค่ะ เริ่มที่สีแรก Fresh Pink สีที่เหมาะกับสาว ๆ ทุกคน ให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ส่วนใครที่ชอบสีพีชตุ่น ๆ ให้ลุคเซ็กซี่เบา ๆ ต้องสี Peach Passion เลยค่ะ สุดท้ายด้วยสี Sunset Glow สำหรับ Elegance Look ให้ความสว่างแก่ใบหน้าและเล่นแสงเล่นเงาดีม๊ากก อยากได้ลุคแบบไหน บลัชออนตัวนี้ก็เอาอยู่ค่ะ
และตามสโลแกน Nonstop Beauty ของ Cute Press ที่ยิ่งปัด ก็ยิ่งให้ความสวย สภาพผิวแบบไหนก็ใช้ได้ เพราะปราศจากพาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำหอมค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ไม่ชอบความมันหลังจากการแต่งหน้า และไม่ชอบพกเครื่องสำอางมากชิ้น บลัชตัวนี้จอบโจทย์เลยค่ะ เพราะติดทนสามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยที่สีไม่ดรอป ไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางชิ้นอื่นเลย ได้ Finish Look ที่ให้ความมันเงาด้วยชิมเมอร์ แต่หน้าจะไม่มันตามนะคะ หากลืมพก Eye Shadow ก็สามารถใช้ทาเปลือกตาได้ ทั้งคุ้มค่าและสีที่ได้ก็ยังแมชกับแก้มอีกด้วยค่ะ
ราคา | 160 บาท |
ขนาด | 10 g |
ราคาต่อหน่วย | 16 บาท ต่อ g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อชิมเมอร์ |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนสีส้มและชมพู |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | ไทย |
.
▼▼ บลัชออน CANMAKE CREAM CHEEK ▲▲
….
….
ใครที่ชอบบลัชออนเนื้อสัมผัสบางเบาแต่สบายผิว ต้องลองบลัชออนเนื้อมูสสุดนุ่มจาก CANMAKE แบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องราคาถูกและดีจากแดนปลาดิบตัวนี้เลยค่ะ เป็นบลัชที่เหมาะกับสาวหวานมาก ให้ลุคที่สดใสแบบธรรมชาติก็ได้ หรือจะเป็นลุคสาววินเทจมีสไตล์ก็ดี แพ็กเกจก็น่ารักสดใส ดึงดูดวัยรุ่นอย่างเราแบบสุด ๆ คนที่กลัวว่าจะเลือกสีไม่ถูก เราขอแนะนำสี Almond Terracotta (#16) เป็นสีน้ำตาลตุ่น ๆ สียอดฮิตที่เข้ากับทุกสีผิว ไม่ว่าจะแต่งหน้าลุคไหน สีนี้ก็ชนะเลิศทุกลุคค่ะ
บลัชออนตัวนี้นอกจากจะปัดหน้าให้สวยแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวได้ด้วยนะคะ และไม่ทำให้ผิวช่วงหน้าแก้มแห้งจนเกินไป เพิ่มเติมด้วย Hydrolyzed Collagen ที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดี เพิ่มความกระจ่างใสให้พวงแก้ม บลัชออนก็มีเนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่อุดตันผิว และให้ลุคผิวมันวาว เนื่องจากผลิตภัณฑ์เด่นเรื่องชิมเมอร์มากค่ะ ใช้แล้วผิวสวยจริง ๆ แต่ถ้าใครยังไม่เชื่อ รีวิวการใช้ของผู้ใช้จริงก็มีแต่บอกว่า เป็นบลัชออนที่ดีมาก ต้องโดนค่ะ !
ราคา | 280 บาท |
ขนาด | 14 g |
ราคาต่อหน่วย | 20 บาท ต่อ g |
ประเภท | แบบครีม |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีมมูส |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนสีแดง ส้ม ชมพู และน้ำตาล |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดาถึงผิวผสม |
ประเทศที่ผลิต | ญี่ปุ่น |
.
▼▼ บลัชออน Nee Cara Liquid Blush On (N165) ▲▲
….
….
ใครที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ และขี้เกียจพกเครื่องสำอางไปเติมระหว่างวัน ต้องห้ามพลาดตัวนี้เลยค่ะ กับบลัชออนจาก Nee Cara ตอบโจทย์ของสาว ๆ อย่างแน่นอน ด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบกึ่งน้ำกึ่งครีม มีความบางเบา ไม่หนักหน้า เกลี่ยง่าย ไม่ตกร่องและไม่เป็นคราบ ทาแล้วให้ลุคแมท ยิ่งสาว ๆ คนไหนขี้ร้อน เหงื่อไหลง่ายก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะกันน้ำ กันเหงื่อ แต่ถ้าใครอยากได้ลุคเงา ๆ วิ้ง ๆ บลัชออนตัวนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนะคะ เพราะไม่ได้เด่นเรื่องความเงา เนื่องจากมีส่วนของชิมเมอร์น้อยมาก ๆ นั่นเองค่ะ
คอลเลคชั่น Nee Cara Liquid Blush On (N165) เป็นโทนสีส้มและสีชมพู ซึ่งมีให้เลือกถึง 6 เฉดสี สำหรับสาวผิวขาวถึงขาวมาก ๆ แนะนำสีชมพูอ่อน (#01) และสีส้มนู้ด (#02) ถือเป็นสีที่คล้ายกับสี Undertone มากที่สุด ส่วนสีส้มพีช (#03) สีส้มตุ่น (#05) และสีส้มน้ำตาล (#06) เหมาะกับสาวผิวขาวเหลืองไปถึงสาวผิวแทน ส่วนสีสุดท้ายสีชมพูเข้ม (#04) เหมาะกับสาวผิวสองสีหรือสาวผิวแทนค่ะ ไม่ว่าจะมีสีผิวแบบไหน แค่ทาบาง ๆ ก็สวยได้แล้วค่ะ แถมไม่ต้องเติมระหว่างวันอีก งานนี้สาว ๆ เป็นปลื้มกันทุกคนอย่างแน่นอน
ราคา | 285 บาท |
ปริมาณบรรจุ | 15 g |
ราคาต่อหน่วย | 17.2 บาท ต่อ g |
ประเภท | แบบน้ำ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | เนื้อครีมแมท |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✓ |
กลุ่มสี | โทนสีส้มและชมพู |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | ไทย |
.
▼▼ บลัชออน ศรีจันทร์ เบตต้า ดูโอ ▲▲
….
สำหรับใครที่เบื่อโทนสีเดิม ๆ อยากเปลี่ยนแนวบ้าง บลัชออนของศรีจันทร์ตัวนี้บอกเลยว่า แปลกแต่สวยค่ะ ทางแบรนด์ร่วมมือกับแบรนด์ Asava ในการคิดค้นและดีไซน์บลัชออนออกมา 3 พาเลท 3 สไตล์ โดยมีโทนสดใสสีส้ม (Painted Hibiscus) โทนหรูหราสีน้ำตาลทอง (Peaceful Golden Shower) และโทนสีชมพู (Half-Sun At 4 O’Clock) มีทั้งเนื้อแมทและเนื้อชิมเมอร์ในพาเลทเดียว Finish Look ที่ได้มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
เนื้อสัมผัสของศรีจันทร์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ เพราะเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ มีพิกเม้นท์สีที่แน่นและชัดเจน ยิ่งทาลงบนรองพื้นก็ยิ่งฉ่ำวาว ได้ลุคธรรมชาติเหมือนเป็นสีแก้มของเราเอง ตัวตลับเองก็พกพาง่าย สะดวก คุ้มค่าคุ้มราคาอีกด้วย ใครที่กลัวใช้แล้วแพ้ ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ ทางศรีจันทร์เขาบอกมาว่า ไม่มีส่วนผสมของสารอันตรายเลยค่ะ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน และสีที่ติดแน่นทนนานก็มาจากส่วนผสมของ Silica ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า สวยได้ไม่ต้องกลัวแพ้ค่ะ !
ราคา | 117 บาท |
ปริมาณบรรจุ | 4 g |
ราคาต่อหน่วย | 29.25 บาท ต่อ 1 g |
ประเภท | แป้งอัดแข็งแบบฝุ่น |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | แมท / ชิมเมอร์ |
พาราเบน | ✘ |
น้ำหอม | ✘ |
กลุ่มสี | โทนสีชมพู |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
ประเทศที่ผลิต | ไทย |
.
เลือกสีบลัชออนยังไงให้เข้ากับสีผิว
ผู้หญิงทุกคนมีสีผิวที่แตกต่างกัน แต่ละคนก็มีผิวที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้นการเลือกสีบลัชออนปัดแก้ม ก็ควรเป็นสีที่เข้ากับโทนสีผิวของเรา เมื่อปัดแล้วต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตาหรือดูขัดกับสีผิว ถ้าเลือกสีได้ถูกกับผิวแล้วละก็ การแต่งหน้าจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
…..
บลัชออนสำหรับโทนผิวขาว (Fair Skin Tones)
ใครเป็นสาวผิวขาวยกมือขึ้นค่ะ โทนสีบลัชออนที่ใช้แล้วขึ้นกับคนผิวขาวมาแล้ววว โดยเฉพาะโทนสีชมพูอ่อน ๆ รับรองว่าใช้โทนสีตามที่เราแนะนำ ไม่ผิดหวังแน่นอน ! สำหรับสาวผิวขาวที่ชื่นชอบการเปลี่ยนลุคด้วยกานย้อมผมสีสว่าง การปัดบลัชให้ขับผิวต้องเป็นโทนชมพู ได้ลุคใส ๆ สุขภาพดี แถมยังดูเป็นธรรมชาติด้วย ส่วนสาวผิวขาวที่มีผมสีเข้มหรือดำ ควรเลือกโทนสีชมพูหรือพีช เพื่อให้ใบหน้าดูสว่างและไบรท์มากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มเสน่ห์ของใบหน้าให้ดูมีมิติได้ด้วย ส่วนสาวผมสีน้ำตาลแดง อยากได้บลัชออนที่ทาแล้วไม่โป๊ะ ต้องโทนสีชมพูและส้ม เพื่อให้ได้สีที่ใกล้เคียงกับสีผม และเป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ สุดท้ายสำหรับสาวผมสีน้ำตาล ต้องบอกว่าผมสีน้ำตาลธรรมชาติเป็นอะไรที่ง่ายมาก เพราะสามารถใช้บลัชออนได้ทุกโทนสี โดยเฉพาะสีชมพูแบบ Rosy Pink ให้ความสดใสเพิ่มได้เป็นกองค่ะ
…..
บลัชออนสำหรับโทนผิวขาวเหลือง-ผิวแทน (Medium Skin Tones)
สำหรับสาวผิวแทนและผิวแบบสาวเอเชีย เราแนะนำให้ลงบรอนเซอร์ก่อนที่จะลงบลัชออน เพื่อเพิ่มความคมให้ใบหน้า และให้เห็นโครงแก้มได้ชัดขึ้น ทำให้ปัดบลัชได้สวยขึ้น สีที่ใช้ควรเป็นโทนสีตั้งแต่สีชมพูถึงส้ม เนื่องจากสามารถเข้ากับสีผิวได้ง่ายที่สุด ไม่ฉูดฉาดหรือขัดกับสีผิวจนเกินไป ส่วนโทนสีชมพู ไม่แนะนำให้ใช้สีชมพูที่อ่อนเกินไปแบบ Light Pink หรือ Pastel Pink จะทำให้สีบลัชออนเด่นกว่าสีผิวของเรานั่นเอง สำหรับสาวไทย สีที่อยากจะแนะนำเป็นพิเศษ คือ สีพีชอมแดงนิด ๆ แบบ Firewall หรือจะเป็นโทนตุ่น ๆ แบบ Sand Stone ได้ลุคสวยโดนเด่นกว่าใครแน่นอน
…..
บลัชออนสำหรับโทนผิวสีเข้ม (Deep Skin Tones)
สาวผิวเข้มก็ไม่ต้องน้อยหน้า เพราะผิวของเรามีเสน่ห์อยู่แล้ว แค่เพิ่มความเป็นตัวเองด้วยโทนบลัชออนสีเข้มหรือสีตุ่น เพราะจะทำให้สีชัดขึ้นเมื่อทาบนแก้ม เช่น สี Warm Red และ Hot Coral หรือสีอมม่วงหน่อย ๆ จะเหมาะกับสาวผิวเข้มมาก ๆ ส่วนสาวผิวเข้มที่มีสีผมสว่าง ลองใช้บลัชออนสี Pinkish Pink รับรองว่าแต่งออกมาแล้วจะได้ Unique Look ที่ไม่เหมือนใคร ควรเลี่ยงสีอ่อน ๆ เพราะจะขัดกับสีผิวของเรา
…….
ทริคการหาเฉดสีบลัชออนที่ใช่
จริง ๆ แล้วบลัชออนเป็นส่วนสำคัญของการแต่งหน้า เราจะใช้หรือไม่ใช้ก็ตามแต่การครีเอทลุคของสาว ๆ แต่การเลือกสีบลัชออนสำหรับการแต่งหน้า ให้เข้ากับเรามากที่สุด เป็นเรื่องที่สาว ๆ ไม่ค่อยใส่ใจกันค่ะ บางคนบอกว่าไม่รู้จะเลือกสีบลัชออนแบบไหนให้เข้ากับตัวเอง บลัชแต่ละสีไม่ได้เข้ากับเราทุกสีเสมอไปค่ะ
ทริคในบทความนี้คือ การหาเฉดสีบลัชออนสำหรับสาว ๆ มือใหม่หัดแต่งหน้า ใช่ค่ะ การหาสีบลัชออนที่เข้ากับผิวเรา ของเรานั้นยากค่ะ แต่วันนี้มันจะง่ายสำหรับเพื่อน ๆ แล้ว ทริคนี้เป็นทริคจาก Marc Jacobs ทริคนี้ง่ายมาก ๆ ค่ะ แค่ไปที่หน้ากระจกค่ะ แล้วเบะปากหรือให้ดึงริมฝีปากล่าง ให้เห็นสีของปากด้านใน นั่นแหละค่ะ สีบลัชออนที่เข้ากับผิวของเราที่สุด! ปรับเปลี่ยนโทนสีได้โดยอาจจะให้อ่อนหรือเข้มขึ้น ง่ายใช่ไหมหละคะ แค่นี้เราก็แต่งหน้าได้สนุกขึ้นแล้ว
…..
เทคนิคปัดบลัชออนยังไงให้สวย
เพื่อน ๆ เลือกสีบลัชออนกันได้แล้ว เรามาดูวิธีการปัดบลัชยังไงให้แก้มเรามีสีสัน ได้ความระเรื่อ ดูสุขภาพดีกันค่ะ บอกเลยว่าง่ายมาก ๆ แค่มีบลัชออนกับแปรงปัดบลัชออนแค่นี้ เราก็ครีเอทลุคเมคอัพสวย ๆ กันได้แล้วค่ะ
……
เตรียมผิวให้พร้อม
ก่อนการแต่งหน้าทุกครั้งเราต้องบำรุงหน้ากันก่อนค่ะ โดยเฉพาะคนที่มีผิวมันมาก ๆ หรือแห้งมาก ๆ เครื่องสำอางจะไม่ติดทนนานหากไม่ได้รับการบำรุงก่อน ทางที่ดีควรหมั่นล้างหน้าให้สะอาด ทำการขัดผิวบ้างและให้ความชุ่มชื้นกับผิวเป็นประจำ เมื่อถึงเวลาที่เราต้องแต่งหน้าก็จะแต่งได้ง่ายขึ้น
แต่แค่การบำรุงอาจจะไม่พอ จะปัดบลัชออนให้ติดทนนาน ควรลง Make-Up Primer ก่อนการลงรองพื้นและบลัชออน จะทำให้ไม่ตกร่อง เรียบเนียน ติดทนนานมากขึ้น แต่ถ้าใครไม่มีและไม่อยากใช้ การทาบลัชหลังจากลงรองพื้นหรือ Tinted Moisturizer ก็ทำให้ติดทนนานเหมือนกันค่า
…..
จะปัดบลัชออนก็ต้องเชื่อว่า ‘Less Is More’
สาว ๆ หลายคนอยากให้แก้มมีสีชัด ๆ จะได้ติดทนนาน ๆ จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องปัดบลัชออนจนแก้มแดงเกินไปค่ะ การปัดในบริมาณที่พอดีถือว่าพอแล้ว เพราะเมื่อบลัชออนเซทตัวกับผิว ระหว่างวันอาจจะมีเหงื่อบ้าง ทำให้สีของบลัชออนเข้มขึ้นและเข้ากับผิวมากขึ้นไปอีก การปัดบลัชออนที่มากเกินไป จะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ และยังทำให้หน้าดูไม่ไบรท์ด้วย ห้ามเด็ดขาดเลยค่ะ
…..
แปรงบลัชออนคือสิ่งสำคัญ
เมคอัพที่ดีก็มาจากเครื่องมือการแต่งหน้าที่ดีนะคะ แปรงแต่งหน้า แปรงปัดบลัชก็มีส่วนช่วยให้การแต่งหน้าเนียนมากขึ้น ควรเลือกแปรงที่มีความหนาแน่นของเส้นแปรง ไม่บาดผิวและง่ายต่อการเบลน เลี่ยงแปรงที่มีความหนามากเกินไป เพราะเวลาที่เราจุ่มบลัชออน เส้นแปรงจะติดสีอยู่จุดเดียว ทำให้ปัดแล้วไม่เนียนและเบลนยาก ส่วนแปรงที่บางเกินไปก็ทำให้ปัดออกมาไม่สวยเหมือนกัน การปัดให้ได้สีที่พอดี และดูธรรมชาติที่สุดคือ การเคาะแปรงก่อนที่จะปัดลงบนแก้มค่ะ และทำให้ไม่เปลืองบลัชออนด้วย
…..
ปัดบลัชออนให้เข้ากับรูปหน้า
การแต่งหน้าคือการโชว์โครงหน้าให้ชัดมากขึ้น โดยเฉพาะบลัชออนจะช่วยดึงความโดดเด่นของใบหน้าได้มากขึ้น แต่ก็ต้องมีวิธีการปัดที่ถูกต้องด้วยนะคะ มาดูกันว่าสาว ๆ ต้องปัดแบบไหนกัน
- หน้ารูปหัวใจ หน้ามีลักษณะยาว โครงแก้มเป็นเอกลักษณ์ คางแหลมและแคบ ให้ปัดบลัชออนในลักษณะตัว C บริเวณหน้าแก้มขึ้นไปถึงขมับ ค่อย ๆ ลงสีไล่ไปเรื่อย ๆ ลงให้บริเวณแก้มเข้มกว่าบริเวณขมับนิดหน่อย
- หน้ารูปเหลี่ยมผืนผ้า สาว ๆ ที่มีขนาดแก้ม หน้าผากและกรอบหน้าเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน ใช้แปรงเบลนบลัชออนลงบริเวณหน้าแก้มเป็นวงกลม ไปทางจมูกนิดหน่อย และปัดบริเวณขมับหรือหางคิ้ว ให้เหมือนสีแก้มของเราเองค่ะ
- หน้ารูปจัตุรัส มีส่วนหน้าผากและคางเท่ากัน กรอบหน้าไม่ค่อยชัด สามารถปัดบลัชออนได้ทั้งหน้า แก้ม จนถึงไรผมได้เลย เพื่อเน้นโครงหน้าให้ชัดมากขึ้น โดยลงน้ำหนักตอนปัดขึ้นไปถึงไรผม และลดน้ำหนักมือลงตอนปัดลงมาที่หน้าแก้ม
- หน้าทรงกลม แก้มเอิบอิ่มเป็นส่วนที่เด่นที่สุด กรอบหน้ามน ไปที่หน้ากระจกค่ะ ยิ้มแล้วปัดบลัชออนบริเวณหน้าแก้มให้เป็นวงกลม ไม่ต้องเป็นวงกว้างมากนะคะ แล้วปัดออกไปด้านข้างบริเวณไรผม
- หน้ารูปไข่ รูปหน้ายาว โครงแก้มชัดและเด่น คางแหลมและหน้าผากแคบ ปัดบลัชบริเวณหน้าแก้มบนไปทางหู และเบลนสีขึ้นไปถึงขมับ และเบลนสีอ่อน ๆ บริเวณถัดจากขมับขึ้นไป จะได้สีที่สมดุลทั้งใบหน้า
…..
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
การปัดบลัชออนจริง ๆ แล้วก็ไม่ยากเกินไปสำหรับเพื่อน ๆ นะคะ แค่รู้จุดและวิธีก็สามารถได้ลุคที่ออกมาเพอร์เฟคแล้วค่ะ แน่นอนว่า การเบลนสีบลัชออนนั้นสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้นค่ะ เพราะส่วนที่ต้องลงสีมากสีน้อย มีผลกับ Finish Look ของสาว ๆ ด้วยนะคะ หากเราทาบลัชออนมากเกินไป เราสามารถแก้โดยการใช้รองพื้นในการทำให้สีสมูธและเนียนขึ้นได้ พอรู้วิธีที่ถูกต้อง ต่อจากนี้สาว ๆ ก็จะใช้บลัชออนสีโปรดได้นานขึ้น ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อใหม่เลยหละค่ะ
แต่บางคนที่ยังไม่ถนัดกับการปัดบลัชออน เราสามารถฝึกได้ทุกวันจากการแต่งหน้าในทุก ๆ วันของเรานี่แหละค่ะ ลองเริ่มจากการฝึกใช้แปรงแต่ละขนาดก่อนนะคะ เช่น ใช้แปรงขนาดเล็กสำหรับเกลี่ยอายแชโดว์แทนการใช้มือ ใช้แปรงขนาดเล็กสำหรับเกลี่ยลิปสติกแบบไล่สีหรือทำให้เป็นแบบสี Ombre เพิ่มความนัว และใช้แปรงขนาดกลางเกลี่ยรองพื้นตามรูปหน้า แค่นี้เราก็จะชำนาญกับการใช้แปรง เวลาเพื่อน ๆ ไปซื้อเครื่องสำอางก็อย่าลืมเทคนิคการเลือกสีบลัชออนที่เราแนะนำนะคะ เรามาครีเอทลุคที่เป็นตัวเองไปด้วยกันค่ะ