แนะนำ 10 น้ำหอม Jo Malone กลิ่นไหนดี 2020 กลิ่นหอมหรูดูแพง เพิ่มเสน่ห์ชวนหลงใหล
Jo Malone แบรนด์น้ำหอมที่มีลักษณะกลิ่นเฉพาะตัวที่สุดแบรนด์หนึ่งของวงการน้ำหอม ด้วยการผสมผสานกลิ่นจากพืชพรรณ มวลดอกไม้ ไม้หอมนานาชนิด รวมถึงส่วนผสมให้ความหอมจากทั่วทุกมุมโลกที่ถูกนำมารังสรรค์อย่างพิถีพิถันจนเกิดเป็นกลิ่นหอมที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและยากที่ใครจะมาเหมือน และด้วยความที่ว่าน้ำหอมของ Jo Malone นั้นจะมาในรูปแบบของ Cologne ทำให้มีกลิ่นหอมที่บางเบา เรียบหรูสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ทว่าก็กลับมอบกลิ่นหอมที่ซับซ้อนและชวนหลงใหลให้กับผู้ที่ใช้ได้เป็นอย่างดี จุดเด่นนี้จึงทำให้น้ำหอม Jo Malone ขึ้นแท่นเป็นน้ำหอมในฝันของใครหลาย ๆ คน แถมยังได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานร่วม 40 ปีเลยทีเดียว
ฉะนั้น ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมน้ำหอม Jo Malone ถึงมีกลิ่นน้ำหอมให้เลือกมากมายหลายกลิ่นขนาดนี้ เพราะจนถึงปีปัจจุบัน Jo Malone ก็มีน้ำหอมให้เลือกมากถึง 140 กลิ่นเลยค่ะ เมื่อได้ยินอย่างนี้แล้วเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะเริ่มลังเลแล้วว่าจะเลือกกลิ่นไหนดีให้เหมาะสม ให้หอมโดนใจได้บ้าง วันนี้เราจึงคัดมาให้แบบเน้น ๆ กันถึง 10 กลิ่นน้ำหอม Jo Malone ด้วยกันค่ะ รับประกันว่ากลิ่นหอมหรูดูแพง ช่วยเพิ่มเสน่ห์ชวนหลงใหลได้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน พร้อมแล้วก็เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลยค่ะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
มาทำความรู้จักกับแบรนด์ Jo Malone กันก่อน
Jo Malone London แบรนด์น้ำหอมสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1983 โดย Jo Malone นักปรุงน้ำหอมชื่อดัง ที่มีความสนใจในกลิ่นหอมนานาชนิดมาตั้งแต่เยาว์วัย และด้วยใจรักที่อยากจะรังสรรค์ความหอมออกมาให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เธอจึงเดินตามความฝันและก่อตั้งแบรนด์ Jo Malone London ขึ้นมาในที่สุด และก็ได้การยอมรับไปทั่วโลกว่าเป็นน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญมีกลิ่นบางเบา ไม่ฉุนจนเกินไป เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยด้วยค่ะ
และจุดเด่นของแบรนด์ที่ทำให้ Jo Malone London ถือเป็นน้ำหอมในฝันและหนึ่งในใจของใครหลาย ๆ คนก็คือการคิดค้นนวัตกรรม Art of Fragrance Combining™ ศิลปะกาารผสมผสานน้ำหอมสองกลิ่นเพื่อให้ได้กลิ่นที่สามที่ถูกใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบรรจุภัณฑ์และกล่องน้ำหอมของแบรนด์นี้ก็กวาดความนิยมชมชอบไปได้อีกเท่าตัว ด้วยดีไซน์ที่หรูหราน่าเก็บสะสมและเหมาะสำหรับการซื้อเป็นของขวัญให้คนสำคัญ ซึ่งนอกจากน้ำหอมแล้ว Jo Malone London ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ Face Care, Body Care รวมถึงผลิตภัณฑ์เพิ่มความหอมภายในบ้านและเสื้อผ้าอีกด้วยค่ะ
…
ตารางสรุปข้อมูลน้ำหอม Jo Malone แบบรวบรัด
…
แนะนำ 10 น้ำหอม Jo Malone กลิ่นไหนดี 2020 กลิ่นหอมหรูดูแพง เพิ่มเสน่ห์ชวนหลงใหล
ได้รู้จักกับประวัติของ Jo Malone แบบคร่าว ๆ กันไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลามาค้นหาน้ำหอม Jo Malone กลิ่นยอดฮิตที่เราคัดสรรมาให้เลือกกันถึง 10 กลิ่น รับประกันเลยค่ะว่า ต้องมีกลิ่นหอม เพิ่มลุคความหรูดูแพง และช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณได้อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปอ่านกันได้เลยค่ะ !
.
▼▼ น้ำหอม Jo Malone English Pear & Freesia ▲▲
….
น้ำหอม Jo Malone ที่มีกระแสตอบรับเป็นอันดันต้น ๆ ต้องยกให้กลิ่น English Pear & Freesia เลยค่ะ ด้วยความที่เป็นน้ำหอมในแนวกลิ่น Fruity ซึ่งมีกลิ่นหอมสดชื่นจากผลไม้ ผสานความหอมหวานจากดอกไม้นานาชนิด ไม่ทำให้มีกลิ่นที่ฉุนโดดเด้ง หรือหวานเลี่ยนมากจนเกินไป โดยน้ำหอมกลิ่นนี้เปิด Top Note มาด้วยกลิ่นของ King William Pear หรือลูกแพรอังกฤษ ที่พร้อมมอบกลิ่นหอมละมุน ให้ฟีลผู้ดีอังกฤษตั้งแต่ฉีดแรก คลอเคลียมาด้วยกลิ่นเมล่อนอ่อน ๆ ให้ความหวานติดผิวเล็กน้อย
จากนั้นจึงตามด้วยกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นจากดอก Freesia คละเคล้าไปกับกลิ่นหอมหวานของดอกกุหลาบอันบางเบา สุดท้ายปล่อยความหอมติดผิวด้วยกลิ่นสดชื่นจากพิมเสน ผสมผสานความหอมละมุนแบบอบอุ่นจาก Musk และ Amber และด้วยความที่น้ำหอม Jo Malone English Pear & Freesia นั้นมีกลิ่นหอมหวานปนความสดชื่นแบบนี้ จึงเหมาะสำหรับอากาศร้อน ๆ แบบบ้านเราเป็นอย่างมากเลยค่ะ แถมยังสามารถฉีดได้ทุกวันและทุกโอกาสด้วย ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมน้ำหอมขวดนี้ถึงเป็นที่ 1 ในใจหลายต่อหลายคน
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Fruity |
Top Note | King William Pear |
Middle Note | Freesia |
Base Note | Patchouli |
……
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Wild Bluebell ▲▲
….
สำหรับใครที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นดอกไม้จาง ๆ ผลไม้นิด ๆ ผสมความสะอาดนุ่มนวลหน่อย ๆ เราขอแนะนำ น้ำหอม Jo Malone Wild Bluebell กลิ่นนี้เลยค่ะ ที่ได้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตั้งแต่วินาทีที่แรกที่ฉีดจากดอกไม้ป่าสัญชาติอังกฤษอย่างดอก Bluebell ขณะเดียวกันก็ตัดความหวานให้อ่อนลงเล็กน้อยด้วยการเสริมกลิ่นเครื่องเทศหอมอบอุ่นจากกานพลู จากนั้นตามด้วย Middle Note ที่ขนเอาความหอมในแบบผู้หญิงจากดอกมะลิ ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา และลูกพลับ พร้อมผสมผสานความสดชื่นจากผลไม้ตระกูลซิตรัสอย่าง Rose Hip
ไม่เพียงแต่จะมอบความหวานละมุนที่แอบซ่อนความสดชื่นแล้ว น้ำหอมกลิ่นนี้ยังมอบกลิ่นหอมคล้ายแป้งเด็ก ด้วยส่วนผสมของ White Musk และ Amber ติดผิวไว้ ให้ความรู้สึกน่าทะนุถนอมมากกว่าเดิมอีกด้วย บอกเลยว่าน้ำหอมกลิ่น Wild Bluebell ขวดนี้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นไม่หวานเลี่ยน หรือออกแนวสดชื่นมากจนเกินไปอย่างแน่นอนค่ะ ที่สำคัญ สามารถใช้ได้บ่อย ใช้ได้ทุกโอกาส เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เต็มเปี่ยม พร้อมเติมเสน่ห์แบบพิเศษมากกว่าที่เคย
ราคา | 4,950 บาท |
ขนาด | 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Light Floral |
Top Note | Bluebell |
Middle Note | Persimmon |
Base Note | White Musk |
…..
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Peony & Blush Suede ▲▲
….
น้ำหอมที่รังสรรค์มาเพื่อเพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูดใจให้สาว ๆ มากที่สุด ต้องยกให้น้ำหอม Jo Malone กลิ่น Peony & Blush Suede กลิ่นนี้เลยค่ะ ที่เปิดตัวด้วยกลิ่นหอมหวานชวนลิ้มลองตั้งแต่ฉีดแรกด้วยแอปเปิ้ลแดงเนื้อหวานฉ่ำ ตามมาด้วยช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่แซมไปด้วยดอกไม้นานาชนิด พร้อมเสริมเสน่ห์ฉบับสาวหวานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกโบตั๋น ดอกกุหลาบ ดอกคาร์เนชั่น พร้อมด้วยกลิ่นหวานปนความสดชื่นจากกลิ่นของดอกมะลิ
สุดท้าย ยังทิ้งกลิ่นติดผิวที่จะช่วยเสริมลุคของคุณให้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจ แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอ่อนโยนควรค่าแก่การทะนุถนอมด้วยกลิ่นหนังกลับหรือ Suede นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นน้ำหอมกลิ่นที่เกิดมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะจริง ๆ ค่ะ สำหรับใครที่อยากให้กลิ่นกายหอมหวานน่าลิ้มลอง แต่ก็ดูละมุนอ่อนโยนในแบบฉบับสุภาพสตรีในเวลาเดียวกันแล้วล่ะก็ น้ำหอมกลิ่น Peony & Blush Suede นี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Floral |
Top Note | Red Apple |
Middle Note | Peony |
Base Note | Suede |
….
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Red Roses ▲▲
….
….
อยากเติมความหอมหวานโรแมนติกให้ผิวกายด้วยกลิ่นดอกกุหลาบ แต่ไม่อยากให้กลิ่นดูแก่จนเกินไป เราขอแนะนำน้ำหอม Jo Malone Red Roses น้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่เกิดจากการรวมกลิ่นของดอกกุหลาบ 7 สายพันธุ์จากทั่วโลก ที่คัดมาแล้วว่ามีความหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยเพิ่มความโดดเด่นในตัวคุณได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีความพิเศษเฉพาะกลิ่นกุหลาบเท่านั้น เพราะช่วง Top Note ของน้ำหอมกลิ่นนี้เปิดมาด้วยความสดชื่นจากเลม่อนและใบมินต์
จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงกลิ่นหลักของน้ำหอมที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกุหลาบหลากหลายชนิด ตามมาด้วยกลิ่นของ Violet Leaf ที่พร้อมมอบความหอมหวานปนความสดชื่นสุดตราตรึงใจ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีส่วนผสมของ Honeycomb หรือน้ำผึ้งมาเสริมทัพความหอมหวานให้ติดผิวยาวนานมากยิ่งขึ้น สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมที่จะช่วยปรุงแต่งกลิ่นหอมในวันที่มีนัดกับคนพิเศษหรือวันที่ต้องไปออกงานสำคัญอยู่ล่ะก็ ต้องลองใช้ Jo Malone Red Roses กลิ่นนี้เลยค่ะ
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Light Floral |
Top Note | Lemon |
Middle Note | Red Rose Accords |
Base Note | Honeycomb |
.
▼▼ น้ำหอม Jo Malone English Oak & Hazelnut ▲▲
….
เปลี่ยนจากกลิ่นหอมหวาน มาเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นแนว Spicy Woody เอาใจสายที่ชอบใช้น้ำหอม Unisex กันสักหน่อย ขอแนะนำ น้ำหอม Jo Malone กลิ่น English Oak & Hazelnut น้ำหอมที่จะพาคุณหลงเข้าไปในผืนป่า สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด รับไออุ่น ผ่อนคลายให้กายและใจได้อย่างเต็มที่ เปิดสัมผัสความหอมแรกอย่างสดชื่นด้วย Green Hazelnut ที่มีความเผ็ดร้อนของ Elemi ติดสอยห้อยตามมาด้วยเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้มากกว่าที่เคย
แล้วจึงตามมาด้วยกลิ่นไม้หอมอย่าง Cedar Wood ช่วยเพิ่มเสน่ห์และระดับความเข้มข้นของกลิ่นน้ำหอมให้ชัดกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็มีกลิ่นของ Vetiver แฝงมาเพื่อเพิ่มกลิ่นที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และทิ้งท้ายความหอมด้วย Roasted Oak ไม้โอ๊คที่ผ่านการคั่วมาอย่างพิถีพิถันพร้อมมอบกลิ่นหอมกรุ่น อบอุ่นสุดโรแมนติก โดยรวมแล้ว กลิ่น English Oak & Hazelnut เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นค่อนข้างซับซ้อน แต่เมื่อใช้แล้วก็ช่วยเพิ่มความเรียบหรูซ่อนความเป็นผู้ดีได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นกลิ่นที่มีความสุภาพช่วยเสริมลุคให้ดูเป็นทางการ ดูเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Spicy |
Top Note | Green Hazelnut |
Middle Note | Cedar Wood |
Base Note | Roasted Oak |
……
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Nectarine Blossom & Honey ▲▲
….
….
สำหรับใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นผลไม้หวาน ๆ ฉีดแล้วช่วยเติมความสดชื่น สดใส รู้สึกถึงความกระปรี้กระเปร่าแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ น้ำหอม Jo Malone กลิ่น Nectarine Blossom & Honey ที่จัดเป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Fruity พร้อมมอบความหอมหวานที่ไม่เลี่ยนหรือฉุนจนเกินไป เปิดกลิ่นแรกด้วยกลิ่นหอมหวานจาก Black Currant หรือ Cassis ผสานกับกลิ่นติดเปรี้ยวเล็กน้อยจาก Petitgrain ที่จะช่วยเพิ่มความรู้สึกมั่นใจและให้ความผ่อนคลายได้ดี
แม้จะตัดความหวานด้วยกลิ่นเปรี้ยวไปแล้ว ในช่วง Middle Note น้ำหอมขวดนี้ก็ยังเพิ่มกลิ่นหอมหวานละมุนจาก Acacia Honey ตีคู่มากับกลิ่นหอมหวานชวนลิ้มลองมากกว่าเดิมจาก Nectarine และมีกลิ่น Black Locust ผสมผสานเติมความสดชื่นหอมสบายมาอย่างบางเบา พอถึงช่วง Base Note กลิ่นของ Nectarine ก็ยังคงทำงานร่วมกับกลิ่นลูกพีชและลูกพลัมที่แทรกเข้ามาได้อย่างลงตัว บอกเลยว่าน้ำหอมขวดนี้คือที่สุดของน้ำหอมกลิ่นผลไม้ที่ไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหนก็ควรใช้เป็นอย่างยิ่งค่ะ!
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Fruity |
Top Note | Cassis |
Middle Note | Acacia Honey |
Base Note | Peach |
…..
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Orange Blossom ▲▲
….
….
น้ำหอม Jo Malone กลิ่น Orange Blossom ถือเป็นน้ำหอมแนวกลิ่น Floral ที่ช่วยมอบความหอมหวานสุดแสนโรแมนติกอบอุ่นหัวใจ ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสดชื่นมีชีวิตชีวาแก่ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ด้วยการผสมผสานแนวกลิ่นดอกไม้ที่ให้กลิ่นสะอาด สดชื่นของกลุ่มพืชตระกูลซิตรัสอย่างดอกส้ม หรือ Clementine Flower ผสมผสานกับกลิ่นของ Citron มอบความหอมแบบบางเบา แล้วค่อยเติมความหวานนุ่มละมุนจาก White Lilac ในช่วง Middle Note
และสุดท้ายก็ปิดความหอมนุ่มนวลสุดแสนบริสุทธิ์จากการผสมผสานของ Orris Wood, Vetiver และ Balsamic ที่จะช่วยตัดความหวานของดอกไม้นานาชนิดให้อยู่ในระดับที่กำลังพอดี ไม่หวานเลี่ยนหรือฉุนเกินไป ฉะนั้น ถ้าใครกำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นแนวดอกไม้ที่มีความหอม แนวสะอาด สดชื่น เพิ่มความเฟรชในแต่ละวันอยู่ล่ะก็ ลองหยิบเอาน้ำหอมกลิ่น Orange Blossom กลิ่นนี้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจกันได้นะคะ
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Floral |
Top Note | Clementine Flower |
Middle Note | White Lilac |
Base Note | Orris Wood |
….
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Wood Sage & Sea Salt ▲▲
….
….
น้ำหอม Unisex ที่หลายคนลงความเห็นว่ามีกลิ่นที่สะอาดแต่แอบแฝงความหรูหราไว้ในตัวได้อย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ซ่อนความสดชื่น ช่วยผ่อนคลายเหมือนนอนฟังเสียงคลื่นอยู่ริมชายหาด และเมื่อลองมาทำความรู้จักกับระดับความหอมของกลิ่น Wood Sage & Sea Salt ขวดนี้แล้ว ก็พบว่าทาง Jo Malone เลือกหยิบเอา Ambrette Seeds ที่มีกลิ่นหอม นุ่มละมุนคล้าย Musk เข้ามาใช้ในช่วง Top Note แล้วจากนั้นเริ่มกระจายละอองความสดชื่นผ่อนคลายที่แท้จริงด้วย Sea Salt หรือกลิ่นเกลือทะเลนั่นเองค่ะ
ขณะเดียวกันในช่วง Middle Note นั้นก็มีกลิ่นหวานซ่อนเปรี้ยวเล็กน้อยจาก Grapefruit ที่มาคู่กับสาหร่ายทะเล พร้อมผสมผสานความสดชื่นอีกด้วยค่ะ และปิดจบด้วยการเปลี่ยนโลเคชั่นจากริมชายหาดกลับมาเป็นสวนสมุนไพรหลังบ้านคุณนายฝรั่งชาวอังกฤษเพื่อมาพบกับความหอมสุดแสนจะผ่อนคลายจากใบ Sage ผสมกับเนื้อไม้หอมเพิ่มความเป็นกลิ่น Woody เล็กน้อย ซึ่งก็ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้มี โดยรวมแล้ว ให้ความเบาสบายชวนผ่อนคลาย พาให้จิตใจสงบ แถมยังเป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับใช้งานในหลาย ๆ โอกาสอีกด้วย
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Woody |
Top Note | Ambrette Seed |
Middle Note | Sea Salt |
Base Note | Sage |
.
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Earl Grey & Cucumber ▲▲
….
ถ้าพูดถึงประเทศอังกฤษเมื่อไหร่ คำตอบที่ได้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ชา” กันอยู่แล้ว ซึ่งแบรนด์น้ำหอม Jo Malone ก็ได้แรงบันดาลใจจากการดื่มชาของผู้คนในเมืองผู้ดีมารังสรรค์น้ำหอมที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง กลิ่น Earl Grey & Cucumber ที่ทางแบรนด์ได้หยิบเอากลิ่นหอมของชามาผสมกลิ่นแนวหวานปนความสดชื่นจากผลไม้ตระกูล Citrus ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะผสมกับกลิ่นของ Bergamot หรือมะกรูดในช่วง Top Note ที่ทำให้กลิ่นของชา Earl Grey เด่นชัดมากกว่าเดิม และมีกลิ่นดอกมะลิตามมาด้วยเล็กน้อยเพื่อตัดเปรี้ยวและเพิ่มความหอมหวานปนความสดชื่น
พอถึงช่วง Middle Note ก็มีการเติมความเย็นฉ่ำสดชื่นมากกว่าเดิมจากแตงกวา เสริมด้วยความหวานแบบนุ่มนวลจาก Angelica แล้วจึงคละเคล้าไปกับความหอมละมุนที่ได้จาก Beeswax, Musk, Virginia Cedar และวานิลลา ทำให้น้ำหอมกลิ่น Earl Grey & Cucumber นี้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น มอบความหอมหรูดูแพง ขณะเดียวกันก็เติมเต็มความสดชื่นในทุกวัน ๆ ได้อย่างไม่มีเบื่อเลยล่ะค่ะ ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นหอมสดชื่นปนความหวานละมุนสไตล์ผู้ดีอังกฤษอยู่ล่ะก็ ห้ามพลาดเด็ดขาดเชียวนะคะ!
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30/ 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Citrus |
Top Note | Bergamot |
Middle Note | Cucumber |
Base Note | Beeswax |
……
▼▼ น้ำหอม Jo Malone Pomegranate Noir ▲▲
….
ส่งท้ายกันด้วยกันด้วยน้ำหอมจากแนวกลิ่น Fruity ที่ใช้ได้ทั้งชายและหญิง กับกลิ่น Pomegranate Noir ที่จะช่วยเติมความหอมหวานจากผลไม้นานาชนิด พร้อมผสานกับกลิ่นหอมละมุนจากเครื่องเทศและไม้หอมอีกมากมายหลายอย่าง รับประกันความหอมหวานที่นัวถึงใจอย่างแน่นอนค่ะ และพอฉีดปุ๊บ ก็เหมือนเดินเข้าไปในสวนผลไม้ปั๊บ เพราะ Top Note ของน้ำหอมขวดนี้โดดเด่นด้วยกลิ่นทับทิม, แตงโม, ราสพ์เบอร์รี่, ลูกพลัม และผลไม้ตระกูลซิตรัสอย่าง Rhubarb เรียกได้ว่าให้ความหวานเพิ่มความเสน่ห์ชวนลิ้มลองได้ดีเยี่ยมตั้งแต่สัมผัสแรกเลยทีเดียวค่ะ
แล้วจากนั้นจึงเริ่มกระจายความนัวแบบขั้นสุดในช่วง Middle Note ที่หยิบเอาช่อดอกลิลลี่แซมด้วยดอกกุหลาบและมะลิเข้ามาเพื่อเพิ่มความหอมหวานน่าทะนุถนอมมากกว่าเดิม แล้วตัดด้วยกลิ่นเครื่องเทศเผ็ดร้อนอย่าง Pink Pepper พร้อมเติมความหอมกรุ่นด้วยกานพลู, Olibanum และ Opoponax ปิดท้ายความหอมละมุนชวนหลงใหลจาก Guaiac Wood ที่มีกลิ่นของ Musk, Amber, Virginia Cedar พร้อมด้วยพิมเสน ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้มีทั้งความสดใสหอมหวานจากผลไม้และกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายจากไม้หอมและเครื่องเทศ จึงเหมาะใช้สำหรับในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
ราคา | 2,520 / 4,950 บาท |
ขนาด | 30 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 84 / 49.5 บาท ต่อ 1 ml |
ประเภทกลิ่น | Fruity |
Top Note | Pomegranate |
Middle Note | Casablanca Lily |
Base Note | Guaiac Wood |
.
เคล็ดลับการเลือก “น้ำหอม Jo Malone”
ถ้าได้อ่านการแนะนำน้ำหอม Jo Malone ทั้ง 10 กลิ่นข้างต้นไปแล้ว แต่ยังไม่โดนใจหรือยังไม่แน่ใจว่ากลิ่นเหล่านั้นจะเป็นกลิ่นที่ใช่สำหรับเราหรือไม่ ก็ลองมาเช็กกันดูก่อนว่าจริง ๆ แล้วเราชอบกลิ่นแบบไหนกันแน่ หรือจะหยิบน้ำหอมไปใช้ในโอกาสใดได้บ้างกันดีกว่าค่ะ รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณจะสามารถเลือกน้ำหอม Jo Malone กลิ่นที่ใช่ กลิ่นที่ชอบได้อย่างแน่นอนค่ะ
.
เลือกจาก Collection ตามแนวกลิ่นที่ถูกใจ
นับตั้งแต่เปิดแบรนด์มา Jo Malone นั้นก็ได้ออกน้ำหอมมามากมายหลายคอลเลกชั่น ขณะเดียวกันในหนึ่งคอลเลกชั่นก็มีหลากหลายกลิ่นให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว ฉะนั้นเบื้องต้นลองมาทำความรู้จักกับแนวกลิ่นน้ำหอม Jo Malone ก่อนดีกว่าว่าจะมีแนวกลิ่นไหนน่าสนใจ หรือเหมาะสำหรับเราบ้างกันค่ะ
Citrus : แนวกลิ่น Citrus หมายถึงแนวกลิ่นที่มีส่วนผสมของผลไม้ตระกูล Citrus หรือผลไม้ตระกูลส้มที่พร้อมมอบความหอมแบบสดชื่น กระตุ้นให้ชีวิตเต็มไปด้วยพลังและมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ซึ่งน้ำหอม Jo Malone ที่จัดอยู่ในแนวกลิ่นนี้ก็ได้แก่ Earl Grey & Cucumber, Basil & Neroli, Grapefruit และกลิ่น Lime Basil & Mandarin
Fruity : ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น Fruity ฉะนั้นถ้าคุณเลือกแนวกลิ่นนี้ น้ำหอมของคุณก็จะมีแต่ความหอมหวานละมุน ช่วยเพิ่มเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงที่มีความสดใสอยู่ในตัว ขณะเดียวกันก็แลดูน่าค้นหาน่าลิ้มลองมากกว่าเดิม โดยคอลเลกชั่นน้ำหอม Jo Malone ที่มีแนวกลิ่นแบบ Fruity เช่น English Pear & Freesia, Pomegranate Noir, Nectarine Blossom & Honey เป็นต้น
Light Floral : สำหรับใครที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นหวานอ่อน ๆ ผสมเปรี้ยวนิด ๆ หอมละมุนหน่อย ๆ เราขอแนะนำแนวกลิ่น Light Floral เลยค่ะ ที่มีการผสมผสานกลิ่นของดอกไม้นานาชนิดร่วมกับกลิ่นของผลไม้ หรืออาจจะเป็นกลิ่นไม้หอม กลิ่นพืชพรรณธรรมชาติหลากหลายชนิดก็ได้ ซึ่งน้ำหอมแนวกลิ่น Light Floral ที่ค่อนข้างฮอตฮิตก็ได้แก่ กลิ่น Wild Bluebell กับ กลิ่น Red Rose นั่นเองค่ะ
Floral : เพิ่มเสน่ห์ให้เย้ายวนชวนหลงใหล ติดตาตรึงใจมากกว่าเดิมก็ต้องเป็นแนวกลิ่น Floral เท่านั้น! ซึ่งเป็นกลิ่นที่ทาง Jo Malone ได้เลือกหยิบเอากลิ่นเด่น ๆ ของดอกไม้แต่ละชนิดออกมาได้อย่างงดงาม ทำให้ได้น้ำหอมที่มีกลิ่นชวนลุ่มหลง ทว่าแฝงไปด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวลน่าทะนุถนอม ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น Orange Blossom หรือกลิ่น Peony & Blush Suede ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
Spicy : อยากเพิ่มเสน่ห์ชวนหลงใหลราวกับต้องมนต์สะกดเพียงฉีดแรก แนะนำว่าให้ลองหาน้ำหอมที่มีแนวกลิ่น Spicy เลยค่ะ ที่จะมีการผสมผสานกลิ่นของเครื่องเทศนานาชนิด ให้ความรู้สึกร้อนแรง เพิ่มความมั่นอกเสริมความมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความนุ่มลึกสุขุมยากที่จะคาดเดา โดยน้ำหอม Jo Malone แนวกลิ่น Spicy ที่รับประกันว่าฉีดแล้วผู้กรู(เข้ามาจีบ)สาวกรี๊ด เราขอแนะนำเป็นกลิ่น English Oak & Hazelnut กลิ่นนี้เลยค่ะ
Woody : น้ำหอมที่มีแนวกลิ่น Woody ส่วนใหญ่นั้นจะเหมาะเป็นกลิ่น Unisex ที่สุด เพราะเป็นกลิ่นไอของไม้หอม หรือพืชพรรณธรรมชาตินานาชนิด ที่พร้อมมอบความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย สงบจิตสงบใจนั่นเองค่ะ ซึ่งน้ำหอม Jo Malone ที่มีแนวกลิ่น Woody ได้แก่ Wood Sage & Sea Salt, 154 และ Black Cedarwood & Juniper
…
เลือกน้ำหอม Jo Malone ให้เหมาะกับโอกาสในการใช้งาน
เมื่อรับรู้แนวกลิ่นที่ถูกใจโดนใจกันไปแล้ว เวลาจะหยิบมาใช้ก็อย่าลืมคำนึงถึงความเหมาะสมกับโอกาสในการใช้งานด้วยนะคะ เพื่อเป็นการเสริมลุคให้ดูดีแถมเป็นการเติมความมั่นใจได้อย่างเต็มที่ เช่น ถ้าต้องการฉีดไปเดทหรือมีนัดสำคัญกับคนพิเศษ อยากให้อีกฝ่ายเอ็นดูในความน่ารักของเรา ก็แนะนำให้ลองใช้น้ำหอมแนวกลิ่น Fruity แต่ถ้าอยากเพิ่มเสน่ห์ความเย้ายวนสักหน่อย ก็อาจจะเลือกเป็นแนวกลิ่น Floral หรือ Spicy เพื่อความร้อนแรงมากกว่าเดิม หรือถ้าอยากเสริมลุคสบาย ๆ ผ่อนคลาย ๆ แนะนำให้ใช้กลิ่นแนว Woody หรือ Light Floral ที่มีกลิ่นบางเบา ไม่ทำร้ายจมูกคนรอบข้างมากจนเกินไป หรืออยากจะเพิ่มความสดใส ความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเดิมก็อาจจะเลือกเป็นกลิ่น Citrus ก็ได้นะคะ
.
ทำความรู้จักกับระดับกลิ่น Notes ในน้ำหอม
ถ้าได้รู้จักกับแนวกลิ่นของน้ำหอมและคำนึงถึงโอกาสการใช้งานแล้วยังรู้สึกไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอม Jo Malone สักขวดมาใช้ เราก็ขอแนะนำว่าให้ลองทำความรู้จักกับระดับกลิ่น หรือ Notes ของน้ำหอมแต่ละกลิ่นไปเลยค่ะ ถ้ารู้จักระดับกลิ่นของน้ำหอมแบบละเอียดกันแล้ว ก็รับรองได้เลยว่าคุณจะได้น้ำหอมขวดโปรดและได้กลิ่นที่ถูกใจอย่างแน่นอน
Top Notes – เมื่อเราฉีดน้ำหอมปุ๊บ กลิ่นแรกที่เราได้กลิ่นก็คือระดับกลิ่น Top Notes นั่นเองค่ะ ซึ่งจะเป็นกลิ่นที่มีความเจือจางมาก และติดผิวเราประมาณ 15 นาทีจากนั้นก็จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเวลาเลือกซื้อน้ำหอมเราก็ขอเตือนว่าอย่าพยายามซื้อน้ำหอมเพราะชอบกลิ่น Top Notes กันนะคะ เพราะเมื่อไหร่ที่ระดับกลิ่น Top Notes จางหายไป เราอาจจะไม่ชอบกลิ่นที่ติดผิวเราอยู่ก็ได้
Middle Notes – ระดับกลิ่น Middle Notes หรือบางทีก็ถูกเรียกว่า Heart Notes ซึ่งหมายถึงกลิ่นหลักของน้ำหอมขวดนั้น ๆ ที่จะเข้ามาแทนที่ Top Notes และพร้อมกระจายกลิ่นติดผิวของเราได้อย่างยาวนานมากถึง 3-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว และด้วยความติดทนยาวนาน หลายคนจึงตัดสินใจซื้อน้ำหอมขวดโปรดเพราะระดับกลิ่น Middle Notes นั่นเองค่ะ
Base Notes – เมื่อ Middle Notes เจือจางไป ก็ยังเหลือระดับกลิ่นหอมที่เรียกว่า Base Notes หรือ Bottom Notes ติดผิวของเราอยู่ ซึ่งระดับกลิ่นสุดท้ายนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นหอมละมุนติดหวานนิด ๆ แล้วผสมผสานกับกลิ่นกายของเราจนออกมาเป็นกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ โดยระดับกลิ่น Base Notes จะติดผิวเรามากกว่า 6 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของน้ำหอมขวดนั้น ๆ
.
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
เชื่อว่าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนก็น่าจะพอมีน้ำหอม Jo Malone กลิ่นที่โดนใจกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ? แต่สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่าน้ำหอมเหล่านี้จะเหมาะกับเราหรือไม่นั้น ก็ขอแนะนำว่าให้ลองหยิบเอาเคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอม Jo Malone ที่เราหยิบมาฝากไปปรับใช้กันได้เลยค่ะ ทั้งพิจารณาถึงแนวกลิ่นชอบ โอกาสการใช้งานที่ใช่ ที่สำคัญก็อย่าลืมคำนึงถึงระดับกลิ่นของน้ำหอมกันด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้น้ำหอมขวดที่ใช่กลิ่นที่ชอบจริง ๆ ค่ะ
หรือถ้ายังไม่รู้ว่าจะเอากลิ่นไหนดีจริง ๆ เราก็ขอแนะนำอีกว่าให้ไปที่ช็อปของ Jo Malone เพื่อลองใช้นวัตกรรม Art of Fragrance Combining™ หรือการผสมผสานกลิ่นน้ำหอมแต่ละกลิ่นของ Jo Malone ไปเลยค่ะ รับประกันเลยว่าคุณจะได้น้ำหอมที่ตอบโจทย์ความต้องการและได้น้ำหอมที่มีความเฉพาะตัวโดดเด่นไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน หรือถ้าไม่อยากออกไปเผชิญมลภาวะภายนอก ก็สามารถเข้าไปที่ https://www.jomalone.co.th/products/3805/fragrance-combiningtm# เพื่อผสมกลิ่นน้ำหอมที่ถูกใจได้เช่นกันค่ะ