แนะนำ 10 น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 ยี่ห้อไหนดี 2020 ทั้งกลิ่นหอมหวาน สะอาดสดชื่น เรียบหรูและติดทนนาน
น้ำหอมไม่ใช่เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่เป็นจุดเด่นเห็นมาแต่ไกล แต่เคยไหมที่เดินผ่านใครสักคนแล้วได้กลิ่นหอมจนต้องเหลียวหลังกลับไปมองว่า สาวคนไหนกันที่ทิ้งกลิ่นน่าดึงดูดใจแบบนี้เอาไว้ และถ้าได้รู้ว่ากลิ่นนั้นเป็นกลิ่นที่เข้ากับบุคลิกการแต่งตัวของเธอด้วยแล้วล่ะก็ จะยิ่งนึกชื่นชมถึงควมพิถีพิถันและรสนิยมที่ดีของผู้ใช้มากขึ้นไปอีกด้วย เรียกได้ว่า กลิ่นหอมนับเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มรูปลักษณ์ของสาว ๆ ให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีกระดับเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับดอกไม้สวย ๆ ที่ย่อมพร้อมกับกับกลิ่นหอมน่าดึงดูดใจ
น้ำหอมและสาวงามได้ชื่อว่าอยู่คู่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อโลกพัฒนามากขึ้นน้ำหอมก็ถูกพัฒนาปรับแต่งให้มีกลิ่นที่ซับซ้อน หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของสาว ๆ ที่มีบุคลิกที่แตกต่างกันไป และเมื่อน้ำหอมมีอยู่มากมายแบบนี้ การจะเลือกกลิ่นให้เข้ากับตัวเองก็คงไม่ต่างกับการงมเข็มในมหาสมุทร ยิ่งสำหรับสาววัย 30 ที่เริ่มมีหน้าที่การงานมั่นคงและอาจต้องมีการออกไปงานพบปะสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง ครั้นจะเลือกผิดไปหยิบน้ำหอมวัยใสมาใช้ก็คงไม่เข้าที ครั้งนี้ทีมงานของเราจึงถือโอกาสมาช่วยสาว ๆ เลือกเฟ้นน้ำหอม 10 กลิ่น ที่จะช่วยเสริมลุคสาววัย 30 ให้ดูดีในทุกสถานการณ์ ถ้าพร้อมแล้วไปตามหาน้ำหอมคู่ใจกันเลยค่ะ
….
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
เหตุผลที่สาว ๆ ควรใส่น้ำหอม
กลิ่นต่าง ๆ มักมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้คนเสมอ เช่น กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ก็จะให้ความรู้สึกหอมหวาน มีเสน่ห์ น่าหลงใหล ขณะที่กลิ่นซีตรัสของผลไม้จะช่วยให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น กระฉับกระเฉง หรือแม้แต่กลิ่นออเรียนทัลก็จะให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา แต่น้ำหอมในปัจจุบันจะมีการผสมผสานกลิ่นอันซับซ้อนหลากหลาย ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับทั้งตัวของผู้ใส่น้ำหอมเอง รวมไปถึงผู้คนรอบข้างด้วย ถือว่าเป็นตัวช่วยสาว ๆ ได้ดีในหลายสถานการณ์ เช่น
1. ช่วยเสริมความมั่นใจ แม้ว่าน้ำหอมจะไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้อย่างเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ แต่การใส่น้ำหอมจะช่วยให้สาว ๆ รู้สึกงามสง่า เพียบพร้อม รู้สึกเป็นที่ดึงดูดใจของผู้พบเห็น ไม่ต่างกับการสวมเครื่องประดับดี ๆ สักชิ้น ทำให้รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นนั่นเอง
2. ช่วยให้เป็นที่จดจำ เคยไหมที่เดินผ่านแล้วคนจำได้เพราะกลิ่นน้ำหอมที่ฉีด หรือเมื่อฉีดน้ำหอมของตัวเองลงในจดหมายโดยไม่ได้ลงชื่อ แต่ผู้รับก็ยังจำได้ในทันทีที่เปิดอ่าน แน่นอนว่านั่นเป็นเพราะน้ำหอมมีกลิ่นให้เลือกหลากหลาย แต่ในกลิ่นที่หลากหลายนั้น เมื่อผสานกับอุณหภูมิและเคมีของสาว ๆ แต่ละคนก็มักจะให้กลิ่นที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งการเลือกกลิ่นที่เข้ากับเคมีของตัวเอง ก็ทำให้คุณกลายเป็นที่จดจำได้ไม่ต่างจากลายเซ็นต์อันเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว
3. ช่วยเสริมรูปลักษณ์การแต่งตัวให้ดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จริงอยู่ที่น้ำหอมไม่ใช่เสื้อผ้า กระเป๋าหรือเครื่องประดับที่ดูโดดเด่นออกมา แต่น้ำหอมก็ช่วยให้การแต่งตัวของคุณสมบูรณ์แบบขึ้นได้ เช่น การแต่งตัวในลุคเท่ ๆ อาจมาพร้อมกลิ่นสดชื่นเป็นเอกลักษณ์ ดูมีชีวิตชีวา หรือการแต่งตัวด้วยชุดราตรีก็มาพร้อมกลิ่นชิพเพรอร์ที่ดูหรูหรา เสริมลุคการแต่งตัวให้เป๊ะปังอลังการมากขึ้นไปอีก
2. …
ตารางสรุปข้อมูลน้ำหอมสำหรับสาววัย 30 แบบรวบรัด
…
แนะนำ 10 น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 ยี่ห้อไหนดี ทั้งกลิ่นหอมหวาน สะอาดสดชื่น เรียบหรูและติดทนนาน
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ผู้หญิงควรมีน้ำหอมดี ๆ สักขวดไว้ในครอบครอง และหากสาว ๆ คนไหนยังหากลิ่นที่ถูกใจไม่ได้ ตามมาทางนี้เลยค่ะ เพราะเราได้คัดสรร 10 กลิ่นยอดฮิต ที่จะมาช่วยเสริมลุคให้สาว ๆ ได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นลุคเรียบหรูดูดี ลุคสาวหวานละมุน ลุคสาวเซ็กซี่น่าค้นหาหรือแม้แต่ลุคสาวเก่งสาวมั่น มาเป็นไกด์ไลน์ให้ตรงนี้แล้ว จะมีกลิ่นไหนต้องตาต้องใจคุณบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ !
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 CHANEL Coco Mademoiselle Eau De Parfum Spray ▲▲
….
….
คงไม่มีสาวคนไหนไม่รู้จัก Chanel แบรนด์เก่าแก่จากฝรั่งเศสที่ได้รังสรรค์น้ำหอมออกมากมายหลากหลายไลน์ ตั้งแต่กลิ่นแนวคลาสสิกไปจนถึงกลิ่นแนวทันสมัยสำหรับสาวยุคใหม่ และสำหรับน้ำหอม Coco Mademoiselle รุ่นนี้เปิดตัวด้วย Patchouli มาพร้อมกับความสดชื่นของกลิ่นส้มและมะกรูดที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาในครั้งแรก ตามด้วยกลิ่น Floral ของกุหลาบและมะลิที่ให้ความหวานแบบแฟมินีน ปิดท้ายด้วยกลิ่น Patchouli หรูหราแต่เสริมกลิ่นวานิลาและมัสก์ที่มาตัดความแสบซ่าลงไปจนกลายเป็นกลิ่นที่อบอุ่นและน่าหลงใหลแทน
เมื่อบวกรวมกับกลิ่นแรกก็ทำให้รุ่นนี้กลายเป็นน้ำหอมที่ให้ทั้งความหอมหวาน สดชื่น อบอุ่น หรูหรา ช่วยเติมบุคลิกของสาวสมัยใหม่ที่ดูภูมิฐาน ขณะเดียวกันกลิ่นซีตรัสจากส้มและมะกรูดก็ทำให้ผู้หญิงคนนี้ดูสดใสซุกซนเล็ก ๆ จนดูเป็นบุคลิกของผู้หญิงที่ซับซ้อนเปี่ยมอิสระและสนุกสนานไปพร้อมกัน
ด้วยความที่ Coco Mademoiselle จัดอยู่ในกลุ่ม Chypre หรือน้ำหอมที่ให้กลิ่นหรูหรา กลิ่นแนวนี้จึงไม่เหมาะกับการออกแดดหรือกิจกรรมกลางแจ้ง แต่จะให้กลิ่นสมบูรณ์แบบและเหมาะสมเมื่ออยู่ในอากาศเย็น ๆ เช่น หน้าหนาว หรือใส่ไปทำงานในออฟิศหรือออกงานที่ดูเป็นทางการหน่อย เช่น งานเลี้ยงรับรองก็ไม่ผิดกาลเทศะ แต่โดยรวมแล้วถ้าในโอกาสที่เป็นทางการและงานที่สาว ๆ แต่งตัวเนี้ยบนิดนึง รุ่นนี้ก็เป็นน้ำหอมอีกตัวที่สาว ๆ ควรรับไว้พิจารณาเลยค่ะ
ราคา | 4,500 / 4,700 / 6,600 บาท |
ขนาด | 35 / 50 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 128.57 / 94 / 66 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Chypre, Floral |
Top Notes | Bergamot, Mandarin Orange, Orange Blossom |
Middle Notes | Mimosa, Jasmine, Turkish Rose, Ylang-Ylang |
Base Notes | Tonka Bean, Patchouli, Opoponax, Vanilla, Vetiver, White Musk |
สัญชาติแบรนด์ | ฝรั่งเศส |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 ISSEY MIYAKE L’Eau d’Issey Eau de Toilette ▲▲
….
….
สำหรับ Issey Miyake สาวลูกครึ่งญี่ปุ่นอเมริกันคนนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในภาพของความเรียบหรูด้วยกลิ่นอายญี่ปุ่น เมื่อบวกเข้ากับรับแรงบันดาลใจจาก “ความกระจ่างใสของหยดน้ำ” ก็กลายมาเป็นบุคลิกของน้ำหอมในไลน์ L’Eau d’ Issey โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ขวดน้ำหอมที่ดีไซน์เป็นรูปทรงหยดน้ำ เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพรรณและกลิ่นของผืนป่าในฤดูใบไม้ผลิ L’Eau d’ Issey EDT
เปิดตัวด้วยกลิ่นหอมโปร่งของดอกบัว ฟรีเซียและกลิ่นใส ๆ ของแตงโม ให้ความรู้สึกหอมโปร่งสดชื่น ตามมาด้วยกลิ่นละมุน ๆ ของดอกไม้อย่างดอกโบตั๋น ลิลลี่และคาร์เนชั่น ทิ้งท้ายด้วยกลิ่นหอมผ่อนคลายของเปลือกไม้ซีดาร์ ผสานกับกลิ่นมัสก์และอำพันที่ช่วยเติมความอบอุ่น ให้ความรู้สึกสุขุมยิ่งขึ้น ทำให้น้ำหอมตัวนี้กลายเป็นส่วนผสมของความหอมละมุนโปร่งเบา ราวกับหยดน้ำที่สะอาดใสในแอ่งน้ำกลางผืนป่าที่ทั้งบริสุทธิ์ สดชื่นจากธรรมชาติไปพร้อมกัน
ด้วยความรู้สึกเบาสบาย นุ่มละมุนเช่นนี้ ทำให้ L’Eau d’ Issey กลายเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างอเนกประสงค์และใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นงานลำลองอย่างไปเดินช็อปปิ้งในวันหยุด ดูหนังฟังเพลง ไปจนถึงงานเลี้ยงน้ำชาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ หรือจะใส่ไปทำงานก็ยังเข้ากันอย่างลงตัวในทุกกรณีด้วยค่ะ
ราคา | 3,500 / 4,600 บาท |
ขนาด | 50 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย |
70 / 46 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | White Floral, Aquatic |
Top Notes | Cyclamen, Rose, Melon, Calone, Lotus |
Middle Notes | Carnation, Lily, Water Peony, Lily-of-the-Valley |
Base Notes | Exotic Woods, Tuberose, Amber, Sandalwood, Musk, Osmanthus, Cedar |
สัญชาติแบรนด์ | ญี่ปุ่น |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 Christian Dior J’adore Eau De Parfum ▲▲
….
….
Christian Dior น้ำหอมสัญชาติฝรั่งเศสแบรนด์นี้มาด้วยอิมเมจของสาวผู้เพียบพร้อมงามสง่า เช่นเดียวกับน้ำหอมไลน์ J’adore ที่บรรจุมาในขวดสไตล์เหยือกน้ำกรีกโบราณให้ความรู้สึกคลาสสิกเหนือกาลเวลา ตัวขวดตกแต่งด้วยสีทองเมื่อต้องแสงก็เปล่งประกายระยิบระยับ จนเรียกได้ว่าน้ำหอมตัวนี้ดีไซน์ทุกอย่างออกมาเพื่อความหรูหราที่สาว ๆ คู่ควรอย่างแท้จริง กลิ่นของ J’adore EDP เองก็มาในแนวหรูหราไม่แพ้แพ็กเกจเลย
ตัวน้ำหอมเปิดกลิ่นแรกมาด้วยความหวานแต่สดชื่นของดอกแมกโนเลียและส้มแมนดาริน ตามมาด้วยกลิ่นหอมละมุนของมะลิ กุหลาบ และกระดังงา ให้ความรู้สึกเย้ายวนของสตรี ปิดท้ายด้วยกลิ่นโทนอบอุ่นสไตล์ Woody จาง ๆ อย่าง กลิ่นมักส์ผสมกับวานิลาก็ทำให้น้ำหอมตัวนีมีความอบอุ่น ดึงดูดใจของเฟมินีนสูงมาก ๆ
ด้วยความที่มีกลิ่นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ น่าทะนุถนอม J’adore จึงค่อนข้างเหมาะกับการใช้งานในที่อากาศเย็น ๆ สักนิดและเหมาะมากกับการใส่ไปทำงานในออฟฟิศ งานที่เป็นทางการ ไปจนถึงการออกงานกลางคืน ยิ่งถ้าหากเสื้อผ้า-หน้า-ผมจัดเต็มด้วยแล้ว กลิ่นของ J’adore ก็จะเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ยิ่งเสริมความดูดีมีระดับเปล่งประกายให้สาว ๆ ดูงดงามสมบูรณ์แบบได้อย่างถึงที่สุดเลยล่ะค่ะ
ราคา | 3,000 / 4,700 / 6,600 บาท |
ขนาด | 30 / 50 /100 ml |
ราคาต่อหน่วย |
100 / 94 / 66 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Citrus, Floral |
Top Notes | Magnolia, Melon, Peach, Pear, Bergamot, Mandarin Orange |
Middle Notes | Tuberose, Plum, Violet, Orchid, Freesia, Jasmine, Lilly-of-the-Valley, Rose |
Base Notes | Musk, Vanilla, Cedar, Blackberry |
สัญชาติแบรนด์ | ฝรั่งเศส |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 Chloé Eau De Toilette ▲▲
….
….
อีกหนึ่งแบรนด์ดังจากฝรั่งเศส Chloé เป็นแฟชั่นแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่ชัดเจน สาว Chloé มักจะมาในรูปลักษณ์แบบ French Chic สไตล์สาวปาริเซียงที่สะท้อนตัวตนของสาวรักอิสระในแบบที่ไม่ยึดติดกับกระแสนิยมใด ๆ ซึ่งคอนเซปต์เหล่านั้นก็สะท้อนลงในน้ำหอมขวดนี้อย่างเต็มเปี่ยมทีเดียวเลยค่ะ Chloé Eau De Toilette มาในขวดใสผูกโบว์เป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึก Light & Fresh ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
เมื่อได้ลองกลิ่นแรกที่แตะจมูกขึ้นมาเลย คือ กลิ่นฟลอรัลหอม ๆ ของดอก Magnolia และ Gardenia ที่มาพร้อมความสดชื่นของ Lemon และ Bergamot แล้วค่อย ๆ แทรกขึ้นมาด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบที่มาแบบสว่าง ๆ แต่ไม่รู้สึกบาดจมูกเกินไปนัก เพราะยังมีกลิ่น Gardenia ตัดให้ความนวลของ Powdery จาง ๆ ทำให้กลิ่นกุหลาบที่ได้นั้นดูละมุนขึ้น
ถัดมายังคงกลิ่นกุหลาบจาง ๆ ไปจนถึงกลิ่นสุดท้ายที่ทิ้งความรู้สึกอบอุ่นติดจะเย้ายวนเล็ก ๆ แต่ก็แอบแฝงความสุขุมนุ่มลึกของมัสก์ และแถมท้ายด้วยกลิ่นของดอกฝ้ายที่ให้ความอ่อนโยน Relax เบา ๆ ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ก็ต้องผ่อนคลายตามไปด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้น้ำหอมรุ่นนี้เป็นกลิ่นที่หอมละมุนสดชื่น ให้ความรู้สึกของสาวสวยหวานที่รักอิสระ ซึ่งทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะมากกับวันสบาย ๆ อย่างออกไปดูหนัง ช็อปปิ้ง ทานข้าวกับเพื่อน ๆ หรือแม้แต่ใส่ไปทำงานก็ทำให้หนุ่ม ๆ หรือเพื่อนร่วมงานเหลียวหลังได้เหมือนกัน
ราคา | 4,700 บาท |
ขนาด | 75 ml |
ราคาต่อหน่วย |
62.66 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Fresh, Floral |
Top Notes | Bergamot, Lemon, Magnolia, Gardenia |
Middle Notes | White Rose, Gardenia, Rose |
Base Notes | Cotton Flower, Musk |
สัญชาติแบรนด์ | ฝรั่งเศส |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 Jimmy Choo Eau De Toilette ▲▲
….
….
มาถึง Jimmy Choo แบรนด์นี้ขึ้นชื่อมากเรื่องความหรูหราเหมือนผู้หญิงที่เจิดจรัสโดดเด่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน ในส่วนของแพ็กเกจน้ำหอมขวดนี้ก็ไม่ทิ้งคอนเซปต์นี้เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องแก้วมูราโน่ ที่เป็นเครื่องแก้วราคาแพงแสดงถึงความสวยงามเลอค่า ยิ่งทำให้น้ำหอมรุ่นนี้กลายเป็นไอเทมที่สื่อถึงความหรูหราที่มาพร้อมกับเสน่ห์ความเย้ายวนของอิสตรีอย่างแท้จริง
ตัวน้ำหอม Jimmy Choo EDT เมื่อเริ่มแรกให้กลิ่นกรีนสดชื่นโปร่งโล่ง เบาสบายของธรรมชาติ มาพร้อมกับกลิ่นสะอาดสดชื่นของส้มแมนดารินที่ให้ความรู้สึกสดใสเปล่งประกาย ตามมาด้วยกลิ่นหอมหวานเย้ายวนของ Tea Rose ผสานความเร่าร้อนของ Tiger Orchid เกิดเป็นกลิ่นหอมรัญจวนชวนหลงใหลให้ความรู้สึกแฟมินีนอย่างเต็มเปี่ยม ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมหวานของ Toffee แซมด้วยกลิ่น Patchouli เติมความหรูหราให้น้ำหอมตัวนี้กลายเป็นกลิ่น Chypre Fruity ที่สาว ๆ ต้องมีไว้ครอบครอง
ด้วยกลิ่นหรูหราเย้ายวนเปี่ยมเสน่ห์ของอิสตรีทำให้น้ำหอมตัวนี้อาจดูไม่เหมาะกับงานที่ดูลำลองนัก เพราะจะเช่วยเพิ่มลุคให้ดูเป็นสาวเปรี้ยว ดูมั่นใจในตัวเองมากขึ้นในแบบฉบับตัวเอง แต่เชื่อเถอะค่ะว่าน้ำหอมรุ่นนี้จะเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ สำหรับสาว ๆ เพื่อจะใส่ไปงานปาร์ตี้หรือเที่ยวกลางคืน ถ้าอยากเป็นดาวเด่นในงาน เดินผ่านไปที่ไหนก็มีแต่คนหันมามอง Jimmy Choo EDT จัดให้ได้ค่ะ
ราคา | 3,290 / 4,350 บาท |
ขนาด | 60 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย |
54.83 / 43.5 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Chypre, Fruity |
Top Notes | Mandarin Orange, Pear, Green Notes |
Middle Notes | Tiger Orchid, Tea Rose |
Base Notes | Toffee, Patchouli |
สัญชาติแบรนด์ | อังกฤษ |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 GIORGIO ARMANI Si Eau De Parfum ▲▲
….
….
หากจะพูดถึง Giorgio Armani ก็จะนึกถึงสาวที่มาในลุคคลาสสิกแต่มีความทันสมัย กระฉับกระเฉง และสำหรับไลน์ Si ก็มาจากคำว่า ‘Si’ ที่แปลว่า ใช่ ในภาษาอิตาเลี่ยน เป็นการผสมผสานความแตกต่างแสดงถึงความเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่ทั้งสง่างามและแข็งแกร่งได้อย่างกลมกลืน เริ่มตั้งแต่ขวดน้ำหอมที่มีทั้งความโปร่งเบาของสีนู้ดและความแน่นทึบของสีดำ มีทั้งความแข็งแกร่งของขวดทรงเหลี่ยมและรูปทรงที่อ่อนช้อยของฝาขวด
เช่นเดียวกับกลิ่นที่เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราหนักแน่นกับความหอมสดชื่นจากดอกไม้ ซึ่ง Si Eau De Parfum รุ่นนี้ก็เป็นน้ำหอมแนวฟรุตตี้ที่มาพร้อมกับกลิ่นแรกด้วยกาซิส ให้กลิ่นเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ ตามด้วยกลิ่นหอมนวล ๆ จากดอกฟรีเซียและเมย์โรสที่ให้ความเย็นสบาย จรรโลงใจ
จากตอนแรกทำให้ให้กลิ่นฟลอรัลที่ตามมาไม่ได้ดูเลี่ยนนัก แต่เป็นส่วนผสมที่กลมกลืนมาก และปิดท้ายด้วยกลิ่น Patchouli แหลม ๆ เติมความหรูหรา ผสานกลิ่นวานิลาและวู้ดดี้ที่ช่วยเติมความอบอุ่น ทำให้น้ำหอมตัวนี้กลายเป็นน้ำหอมที่มาพร้อมกับความหรูหราอย่างมีชีวิตชีวาในแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในช่วงอากาศหนาว ๆ แม้แต่อากาศร้อน ๆ อย่างบ้านเราก็ยังเอาอยู่ และเหมาะมาก ๆ กับการใส่ในวันที่ค่อนข้างเป็นทางการอย่างการใส่ไปทำงาน หรืองานเลี้ยงจิบน้ำชาก็เหมาะมากเลยค่ะ
ราคา | 4,200 / 5,800 บาท |
ขนาด | 50 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย |
84 / 58 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Cypre, Fruity |
Top Notes | Cassis |
Middle Notes | Freesia, May Rose |
Base Notes | Vanilla, Patchouli, Woody Notes |
สัญชาติแบรนด์ | อิตาลี |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 CK Obsessed For Women Eau De Parfum ▲▲
….
….
สำหรับ Calvin Klein น้ำหอมสัญชาติอเมริกันเจ้านี้มักจะมากับลุคเท่ แบบ Free Spirit ซึ่งเพื่อน ๆ อาจจะคุ้นเคยกับภาพแฟชั่นของผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ แต่แบรนด์นี้ก็มีไอเทมสำหรับผู้หญิงเหมือนกัน ซึ่งผู้หญิงในแบบของ CK ก็จะออกแนวสาวรักอิสระเปี่ยมเสน่ห์น่าค้นหา ติดจะลุยนิด ๆ แบบที่ไม่ได้ออกแนวสวยหวานแบบเลดี้ ๆ เหมือนเจ้าอื่น
ส่วนตัวน้ำหอม CK Obsessed For Women Eau De Parfum รุ่นนี้ ก็มาในกลิ่นที่ไม่ได้หวานมาก แต่ออกแนว Oriental-Aromatic แบบสดชื่น ๆ ทำให้มีกลิ่นแบบ Unisex ที่ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย ถ้าลองดมดูจะได้กลิ่นนวล ๆ ของ White Lavender นำ แต่ก็ไม่ได้หวานจนเลี่ยนเพราะเจือมาด้วยกลิ่นตระกูล Citrus ที่หอมแบบสดชื่น ๆ กระปรี้กระเปร่า เสริมกลิ่นตรงกลางด้วยความหวานของดอกไม้อย่างกุหลาบกับความสะอาดสดชื่นของดอกส้ม
ปิดท้ายด้วยกลิ่นตระกูลมัสก์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบเท่ แนวผู้หญิงแกร่ง แต่ก็เป็นน้ำหอมที่ให้ความละมุน อบอุ่นและอ่อนโยนไปด้วยในคราวเดียวกัน และด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างสบาย ๆ ทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะกับทุกงานลำลอง ไม่ว่าจะใส่ไปออกกำลังกาย กิจกรรมกลางแจ้ง หรือช็อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลง อะไรที่เบา ๆ CK Obsessed for Women รุ่นนี้ถือว่าเอาอยู่ทุกกิจกรรมเลยค่ะ
ราคา | 3,850 / 4,450 บาท |
ขนาด | 50 / 100 ml |
ราคาต่อหน่วย | 77 / 44.50 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Oriental, Aromatic, Green |
Top Notes | Citrus, Neroli, Elemi |
Middle Notes | Violet Leaf Absolute, White Lavender, Purple Sage |
Base Notes | Musk, Ambrette, Muscenone |
สัญชาติแบรนด์ | อเมริกัน |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 DOLCE & GABBANA Light Blue for women EDT ▲▲
….
….
Dolce & Gabbana เป็นแฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูสไตล์อิตาลี ปล่อยน้ำหอม Light Blue for women EDT ตัวนี้ออกมาด้วยคอนเซปต์ สาวเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้น้ำหอมตัวนี้ค่อนข้างมีสไตล์แคชวล สดชื่น มีกลิ่นอายของสายลมแสงแดดของชายหาดทะเลใต้ เช่นเดียวกับตัวขวดน้ำหอมที่ออกแบบมาด้วยฝาขวดสีฟ้าสดใสเหมือนท้องฟ้าให้ริมหาดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขณะที่ตัวขวดทรงเหลี่ยมสะท้อนความเข้มแข็งของผู้หญิงสมัยใหม่ ทำให้ขวดน้ำหอมนี้ดูแข็งแรงแต่แฝงความเป็นแฟมินีนไว้อย่างเต็มเปี่ยม
ตัวน้ำหอมเปิดมาด้วยกลิ่นสดชื่นของ Sicilian Cedar และแอปเปิ้ลที่เติมความมีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง ถัดมาความสดชื่นนี้จะเริ่มอวลกลิ่นหอมหวานของกุหลาบและกลิ่นกรีน ๆ ชวนหอมแบบสบาย ๆ ชื่นใจจากไผ่ กุหลาบและมะลิ ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นเย้ายวนน่าค้นหาของแอมเบอร์และมัสก์ ให้สัมผัสของความเป็นฤดูร้อนที่สดใสกำลังดี และด้วยความเป็นกลิ่นที่แคชชวลและไม่ได้ทางการ ทำให้ Light Blue for women EDT รุ่นนี้เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง ออกแดด หรือแม้แต่ไปเที่ยวทะเล นับเป็น้ำหอมที่ช่วยเติมความสดชื่นและเรียกความรู้สึกของฤดูร้อนได้ดีมาก ๆ ตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ราคา | 2,300 บาท |
ขนาด | 25 ml |
ราคาต่อหน่วย |
92 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Citrus, Woody, Green |
Top Notes | Sicilian cedar, Apple, Bellflower |
Middle Notes | White Rose, Bamboo, Jasmine |
Base Notes | Amber, Musk, Cedar |
สัญชาติแบรนด์ | อิตาลี |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 BVLGARI Omnia Crystalline EDT ▲▲
….
….
BVLGARI แบรนด์ชื่ออ่านยากจากอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา เหมือนผู้หญิงสวยสง่าที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟ ส่งน้ำหอมไลน์ Omnia ออกมาด้วยแรงบันดาลใจจากอัญมณีชนิดต่าง ๆ และเช่นเดียวกับ Omnia Crystalline EDT รุ่นนี้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความกระจ่างใสเปล่งประกายของคริสตัล
เป็นน้ำหอมที่เมื่อได้ลองกลิ่นแล้วจะให้ความรู้สึกเย็นสบายและกระจ่างใสเหมือนกับน้ำแร่ ด้วยกลิ่นแรกที่กระทบจมูกของกลิ่นไผ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมทุกตัวของ BVLGARI ให้ความรู้สึกกรีน ๆ ปลอดโปร่งเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตามมาด้วยกลิ่นหอมเย็น ๆ ของดอกบัวผสานกลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ของดอก Cassia ทำให้น้ำหอมตัวนี้ไม่หอมหวานจนเลี่ยนเกินไป แต่จะออกหอมเย็น ๆ สดชื่น ๆ ตามคอนเซปต์มากกว่า
ปิดท้ายด้วยกลิ่นไม้ผสานกลิ่นมัสก์ให้ความรู้สึกอบอุ่นแฝงความสไปซี่เล็ก ๆ แต่ก็ยังคงกลิ่นหอมเย็นสบายของดอกบัวเอาไว้ โดยรวมน้ำหอมกลิ่นนี้ค่อนข้างเปล่งประกายแบบใส ๆ เบาสบาย ค่อนข้างเหมาะกับงานที่ไม่ได้จัดเต็มมากนัก สาว ๆ สามารถใส่ไปช็อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลง ไปนั่งชิลตามคาเฟ่ จนถึงใส่ไปทำงานในวันอิสระทั่วไป ไม่ต้องเคร่งเครียด เพื่อเติมความสดใส สดชื่นแต่ยังคงไว้ซึ่งความสุขุมไว้ได้
ราคา | 3,300 / 4,050 บาท |
ขนาด | 40 / 65 ml |
ราคาต่อหน่วย |
82.5 / 62.30 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Floral, Green |
Top Notes | Bamboo, Pear |
Middle Notes | Lotus, Cassia, Tea |
Base Notes | Musk, ฺBalsa wood |
สัญชาติแบรนด์ | อิตาลี |
.
▼▼ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 VERSACE Bright Crystal EDT ▲▲
….
….
ถ้าจะพูดถึงน้ำหอมสำหรับสาว ๆ แล้ว จะพลาดไม่ได้เลยกับแบรนด์หรูแบรนด์นี้ ซึ่งน้ำหอมรุ่นที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ Versace ก็คงจะหนีไม่พ้น Versace Bright Crystal แค่เพียงรูปทรงขวดก็ดูหรูหราเด่นสะดุดตาแล้ว ด้วยฝาขวดที่ดีไซน์ออกมาในทรงอัญมณีเจียระไนเหลี่ยมมุมสะท้อนแสงจับตา ราวกับคริสตัลที่เปล่งประกายสมชื่อ Bright Crystal
ส่วนกลิ่นของน้ำหอมรุ่นนี้จะเป็นแนวสะอาด ๆ ใส ๆ แต่น่าดึงดูดใจในแบบฉบับของผู้หญิง เปิดตัวด้วยกลิ่นส้มยูสุที่ให้กลิ่นสดชื่น ร่าเริง และกลิ่นเมล็ดทับทิมที่เพิ่มลุคของสาวที่มีสีสันในตัวเองและเป็นคนน่าสนใจ ตามด้วยกลิ่นหอมหวานของดอกไม้อย่างดอกบัว โบตั๋นและดอกแมกโนเลีย ช่วยเติมความรู้สึกสดชื่น สดใสและมีความเป็นหญิงสูง
ส่งท้ายด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นของมัสก์และอำพัน ทำให้ Bright Crystal กลายเป็นน้ำหอมที่ออกมาในแนวสาวคล่องแคล่ว แข็งแกร่ง ทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน ดูกุลสตรีและดูตื่นเต้น น่าค้นหาไปพร้อม ๆ กัน เหมาะสำหรับใส่ได้ในทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นงานลำลองไปจนถึงงานออฟฟิศ เลยไปจนถึงงานราตรีที่ไม่ได้จัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผมจนเกินไปนัก แต่เติมความโดดเด่นและดูดีให้ตัวเองได้ดีทีเดียว
ราคา | 2,460 / 2,980 บาท |
ขนาด | 50 / 90 ml |
ราคาต่อหน่วย |
49.2 / 33.11 บาท ต่อ ml |
ประเภทกลิ่น | Fruity, Floral |
Top Notes | Yuzu, Pomergranate, Water Notes |
Middle Notes | Lotus, Magnolia, Peony |
Base Notes | Musk, Mahogany, Amber |
สัญชาติแบรนด์ | อิตาลี |
.
ทำความรู้จักกับน้ำหอม จำกัดตัวเลือกให้แคบลง
เพราะน้ำหอมในปัจจุบันมีหลายกลิ่นมากมาย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ เราจึงจำเป็นต้องตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกใจออกไป และเหลือไว้แค่จำนวนหนึ่งที่อาจจะเหมาะกับเราเอาไว้ เพื่อทำการทดลองกับผิวของเราอีกทีหนึ่ง ซึ่งทางทีมงาน Khong-Dee ได้ทำการลิสต์วิธีจำกัดตัวเลือกน้ำหอมมาให้ในบทความแล้วค่ะ
…..
เลือกระดับความเข้มข้นของน้ำหอม
น้ำหอมเป็นสารละลายที่มีส่วนประกอบของ สารที่ให้กลิ่น แอลกอฮอล์ และน้ำ ซึ่งถ้าเปลี่ยนสัดส่วนของสารประกอบก็จะทำให้ความเข้มข้นของน้ำหอมเปลี่ยนไป และทำให้ความคงทนของน้ำหอมเปลี่ยนไปด้วย น้ำหอมที่มีความเข้มข้นแตกต่างกันก็ใช้ในโอกาสที่แตกต่างกันได้ เราสามารถแบ่งน้ำหอมตามประเภทการคงตัวดังต่อไปนี้
Eau Fraiche (โอ แฟร้ช) น้ำหอมประเภทนี้มีสารให้กลิ่นที่เจือจางมากที่สุด คือ มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมแค่ 1-3% และจะติดอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น นับเป็นน้ำหอมประเภทที่ให้กลิ่นอ่อนจางที่สุด เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบกลิ่นบาง ๆ ไม่ติดตัวนานนัก
Eau de Cologne (โอ เดอ โคโลญจน์) หรือที่รู้จักติดปากกันดีว่า โคโลญจน์ เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของสารให้กลิ่นขึ้นมาอีกนิด คือประมาณ 2-4% ทำให้กลิ่นติดยาวนานขึ้นอีกนิดคือประมาณ 2-4 ชั่วโมง
Eau de Toilette (โอ เดอ ตัวแล้ท) เป็นน้ำหอมที่ค่อนข้างเห็นบ่อยตามเคาน์เตอร์แบรนด์ น้ำหอมแบบนี้จะเริ่มมีความเข้มข้นของสารให้กลิ่นมากขึ้น คือ ราว ๆ 10% ทำให้กลิ่นติดได้ยาวนานประมาณ 3-5 ชั่วโมง
Eau de Parfum (โอ เดอ ปาฟูม) น้ำหอมชนิดนี้มักมีสารที่ให้กลิ่นเข้มข้นขึ้นประมาณ 15-20% และติดทนได้ยาวนานกว่า 6-10 ชั่วโมงทีเดียว เรียกได้ว่า ฉีดครั้งเดียวก็ติดทนได้ทั้งวันเลยค่ะ
Parfum (ปาฟูม) หรือที่เรียกกันว่า เพอร์ฟูม (Perfume) เป็นน้ำหอมที่มีสารให้กลิ่นผสมอยู่ถึง 20-40% ทำให้เนื้อมีลักษณะค่อนข้างมันวาวเพราะสารให้ความหอมส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นน้ำมันหอม และกลิ่นอาจติดตัวอยู่ได้เป็นครึ่งวันไปจนถึงหนึ่งวันเลยทีเดียว ซึ่งด้วยคุณลักษณะนี้ทำให้ เพอร์ฟูม มีราคาแพงที่สุดในบรรดาน้ำหอมแบบต่าง ๆ ที่ว่ามานี้เลยค่ะ
.
เลือกประเภทกลิ่นของน้ำหอมสำหรับสาววัย 30
เมื่อเลือกระดับความคงทนของกลิ่นได้แล้ว สาว ๆ ก็ต้องลองมาลดสโคปประเภทกลิ่นหอมที่ถูกใจเพื่อลดตัวเลือกลงอีกนิด ซึ่งบรรดากลิ่นน้ำหอมที่วางขายอยู่นั้นมักแบ่งออกเป็นประเภทได้ ดังต่อไปนี้
Floral เป็นกลิ่นที่พบบ่อยในน้ำหอมผู้หญิง กลิ่นจะออกหอมหวานอย่างกลิ่นดอกไม้ ให้ความรู้สึกฟุ้ง ๆ สวยหวาน อย่างกลิ่นหอมนวล ๆ ของดอกกระดังงา หรือกลิ่นหอมสดชื่นติดจะออกแป้ง ๆ อย่างกลิ่นกุหลาบ น้ำหอมที่มีกลิ่นฟลอรัลเป็นกลิ่นหลักก็เช่น Jomalone English Pear หรือ Dior Blooming Bouqet
Fruity เป็นกลิ่นของผลไม้ รวมทั้งกลิ่นของพืชตระกูลส้ม (Citrus) เป็นกลิ่นที่ออกหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ให้ความสดชื่นสดใส เช่น กลิ่นแบล็คเคอแรนท์ กลิ่นแอปเปิ้ล ไปจนถึงกลิ่นส้มหรือมะนาว น้ำหอมที่ใช้กลิ่นฟรุ๊ตตี้เด่น ๆ ก็เช่น Versace Bright Crystal หรือ น้ำหอมจาก DKNY ก็ใช่
Green & Herbaceou เป็นกลิ่นที่ให้อารมณ์สดชื่น ๆ หอมโปร่ง ๆ เหมือนยืนอยู่กลางทุ่งหญ้าหรือป่าเมืองร้อน รวมทั้งกลิ่นสมุนไพรหอม เช่น Creed Chèvrefeuille หรือ Jacques Battini Fragrance No 17
Woody เป็นกลิ่นไอธรรมชาติและแมกไม้นานาพรรณ เช่น กลิ่นของไม้สน กลิ่นไม้โอ๊ค มักให้กลิ่นหอมแบบอโรม่า ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย มักพบเป็นกลิ่นเด่น ๆ ในน้ำหอมผู้ชายหรือเป็นเบสทิ้งความรู้สึกอบอุ่นไว้ในช่วงท้าย เช่น POLO Ralph Lauren Supreme Oud หรือ Tom Ford Oud Wood
Musk/ Amber/ Animalic กลิ่นเหล่านี้ว่ากันว่าราวกับมีเวทมนตร์ลึกลับ ให้ความรู้สึกเย้ายวนเป็นพิเศษ มักไม่ใช้เป็นกลิ่นเด่น ๆ ของน้ำหอมโดยตรง แต่มักจะใส่แบบหลบ ๆ ไว้ใน Base Note ที่ให้เพียงกลิ่นอ่อนจางแต่ชวนหลงใหลอย่างที่สุด น้ำหอมที่มีส่วนผสมของกลิ่นนี้ เช่น Narsico Rodriguez Pure Musc For Her EDP
.
การลองน้ำหอม
เมื่อเลือกระดับความเข้มข้นของน้ำหอมที่ต้องการ และกลิ่นที่ชอบใจได้แล้ว คราวนี้เราต้องมาลงมือเลือกน้ำหอมกลิ่นที่เราชอบและเข้ากับเราที่สุดกัน ซึ่งตัวน้ำหอมนั้นมีส่วนประกอบสำคัญเป็นสารจำพวกน้ำมันหอมระเหยที่ให้กลิ่น รวมทั้งแอลกอฮอล์ ซึ่งทั้งสองตัวนี้ค่อนข้างเซนส์สิทีฟกับอุณหภูมิเป็นอย่างมาก เวลาใช้หรือเลือกน้ำหอมเราจึงต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมเพราะมีผลอย่างมากต่อการให้กลิ่นของน้ำหอม รวมทั้งอุณหภูมิบนร่างกายของเราก็มีส่วนทำให้กลิ่นเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็นได้ ดังนั้น ในการเลือกน้ำหอมเพื่อให้เป็นการปลอดภัยอย่างสุด ๆ สาว ๆจะต้องไปที่เคาท์เตอร์ และทำการลองด้วยตัวเองค่ะ
1. อันดับแรก สาว ๆ ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนออกไปลองน้ำหอมเลย โดยพยายามใช้สบู่หรือโลชั่นที่กลิ่นอ่อนไม่ติดตัวนานนัก และไม่ควรใส่น้ำหอมไปก่อน เพราะกลิ่นจะไปปนกับน้ำหอมที่เรากำลังจะไปลอง และให้กลิ่นเพี้ยนได้
2. ควรเลือกน้ำหอมจากเคาน์เตอร์แบรนด์ที่เชื่อถือได้ เพราะแน่นอนว่าอย่างแรกคือน้ำหอมส่วนใหญ่มีราคาแพง แต่หากราคาแพงที่เราต้องจ่ายไปกลับไม่ได้น้ำหอมที่มีคุณภาพตรงตามที่ต้องการแล้วก็คงไม่ดีนัก เพราะกลิ่นและคุณสมบัติของน้ำหอมนั้นมีความจำเพาะและละเอียดอ่อนมาก น้ำหอมที่ทำเลียนแบบจึงมักไม่สามารถให้กลิ่นที่ตรงกับต้นฉบับได้
3. เวลาเลือกน้ำหอม ให้ลองครั้งละแค่ 3-4 กลิ่นเท่านั้น เพราะประสาทรับกลิ่นของมนุษย์ไม่สามารถแยกแยะกลิ่นได้มากนัก โดยขั้นแรกให้ลองฉีดลงบนกระดาษที่ทางเคาท์เตอร์เตรียมให้ และลดจำนวนตัวเลือกลงให้เหลือแค่ 1-2 กลิ่น จากนั้นลองฉีดลงบนผิวของตัวเองข้างละกลิ่น แล้วลองเดินเล่นดูสัก 3-4 ชั่วโมง ระหว่างนั้นควรสังเกตกลิ่นน้ำหอมที่จะเปลี่ยนไปตามโนตและช่วงเวลา และสังเกตว่ากลิ่นที่เลือกนั้นเข้ากับเคมีของเราหรือไม่ จากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกกลิ่นที่เหมาะสมกับเราที่สุดต่อไป
4. ครั้งแรกที่เลือกซื้อน้ำหอม ควรเลือกน้ำหอมไซส์เล็กที่สุดก่อน ถือว่าเป็นการทดลองใช้ หากไม่ถูกใจอย่างไรจะได้ไม่เสียดายมากนัก หรือหากถูกใจก็กลับมาซื้อใหม่ได้ไม่ยากเลย
…..
วิธีเก็บรักษาน้ำหอม
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ น้ำหอมมีองค์ประกอบที่ค่อนข้างเซนสิทีฝกับอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความชื้น และอากาศด้วยเช่นกัน การจะเก็บน้ำหอมให้คงสภาพเดิมไว้ให้ได้มากที่สุดจึงควร
1. เก็บไว้ในที่ ๆ อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และอย่าเก็บไว้ในที่ ๆ โดนแดด เพราะอุณหภูมิจะมีผลต่อปฏิกิริยาของสารประกอบในน้ำหอมให้เปลี่ยนรูปไป
2. อย่าเก็บในที่ชื้น อย่าเปิดฝาทิ้งไว้ และอย่าเขย่าขวด เพราะทั้งความชื้นและออกซิเจนทั้งภายในและภายนอกขวดจะมีผลต่อปฏิกิริยาเคมีของสารประกอบในน้ำหอม และอาจทำให้น้ำหอมกลิ่นเพี้ยนได้
ทั้งสองข้อนี้ทำให้ที่ ๆ ดีที่สุดสำหรับการเก็บน้ำหอมคือ วางไว้ในที่ ๆ อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไม่มากและใส่ไว้ในกล่องน้ำหอมที่บรรจุมาแต่แรกนั่นเอง
……
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
สาว ๆ วัย 30 ไม่ใช่เด็กสาว ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้ดูภูมิฐานเหมือนผู้หญิงวัย 40-50 น้ำหอมที่เหมาะกับสาว ๆ วัยนี้มักมีส่วนผสมระหว่างความหอมหวานติดกลิ่นสดชื่นสดใสเล็ก ๆ ให้ความรู้สึกทั้งความสดใสและงามสง่าสมวัย แต่ปัจจุบันก็มีน้ำหอมมากมายหลายกลิ่นเหลือเกินทำให้เลือกยาก อีกทั้งน้ำหอมก็มีรายละเอียดเยอะจนเลือกไม่ถูก ซึ่งทางทีมงานอยากบอกว่าอย่าเพิ่งถอดใจ เพราะปัญหานี้สาว ๆ ทุกคนล้วนเคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น
การเลือกน้ำหอมไม่ง่ายก็จริง แต่ถ้าสาว ๆ ได้ค้นพบกลิ่นหอมที่ตรงใจตัวเองขึ้นมาแล้วล่ะก็ นั่นถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะน้ำหอมแค่ตัวเดียวที่เหมาะกับเราจริง ๆ สามารถใช้ได้หลายโอกาสมาก ๆ และบางครั้งถึงแม้ในบางโอกาสที่เราแต่งตัวธรรมดา ๆ แต่น้ำหอมที่ใส่ก็ช่วยเสริมบุคลิกทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ธรรมดาก็มี ดังนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่จะลงมือค้นหาน้ำหอมที่เหมาะกับตัวเองสักขวด ซึ่งทีมงานหวังว่าตัวเลือกรวมถึงข้อมูลที่เราได้รวบรวมมานี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ค้นหาน้ำหอมของตัวเองได้ง่ายขึ้นเช่นกันนะคะ