เจาะลึก 7 สูตร โลชั่น Jergens สูตรไหนดี 2020 จะขาวเนียน ผิวชุ่มชื้น หรือลดรอยแตก มาดูกัน
หากพูดถึงผลิตภัณฑ์โลชั่นยอดฮิตในยุคปัจจุบันแล้วล่ะก็ ยี่ห้อ ‘Jergens’ (เจอร์เกนส์) ต้องติดหนึ่งในอันดับโลชั่นตัวท๊อปของสาว ๆ ทุกช่วงวัยอย่างแน่นอนค่ะ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้โด่งดังแค่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมจากอีกหลายประเทศทั่วโลก ด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างของเค้าในเรื่องประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้น และบำรุงผิวได้ล้ำลึกทุกระดับประทับใจจริง ๆ ทำให้สาว ๆ ที่รักการดูแลผิวซื้อใช้งานกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีราคาที่สูงกว่าโลชั่นยี่ห้ออื่นก็ตาม
และจุดเด่นของ Jergens อีกหนึ่งข้อที่หลายคนประทับใจก็คือ ทางแบรนด์เค้าขยันพัฒนาสูตรโลชั่นออกมามากมาย เพื่อให้ตอบโจทย์กับสภาพผิวและความต้องการของผู้ใช้ได้ทุกกลุ่ม การบำรุงของแต่ละสูตรนั้นจึงแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดค่ะ อย่างไรก็ตาม การที่ Jergens มี Collection ให้เลือกเยอะขนาดนี้ ก็กลายเป็นปัญหาโลกแตกของสาว ๆ หลายคนอีกเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่เคยลองใช้ Jergens มาก่อนเลย ต่างพางงกันไปหมดว่า โลชั่นแต่ละสีของ Jergens นั้นต่างกันอย่างไร และตัวไหน สูตรใดเหมาะกับตัวเองมากที่สุด ใครที่เจอะเจอปัญหานี้อยู่ล่ะก็ คงต้องอ่านบทความนี้จนจบแล้วล่ะค่ะ !
…..
อยากอ่านตรงไหน กดได้เลย
ทำความรู้จัก ‘Jergens’ (เจอร์เกนส์) กันสักเล็กน้อย
ก่อนอื่นเลย ขอแนะนำมือใหม่ที่ยังไม่เคยทดลองใช้ให้ทราบกันคร่าว ๆ สักเล็กน้อยว่า Jergens นี้มีต้นตระกูลมาจากประเทศออสเตรเลียค่ะ ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่พอสมควรทีเดียว (ตั้งแต่ปี 1901) เพราะฉะนั้น มั่นใจในเรื่องความน่าเชื่อถือและวางใจเรื่องประสิทธิภาพได้เลยค่ะ โดยผลิตภัณฑ์ที่เค้าวางจำหน่ายไม่ได้มีแค่โลชั่นบำรุงผิวเท่านั้น ยังมีครีมบำรุงผิวในรูปแบบอื่น ๆ ครีมอาบน้ำ และโลชั่นผิวแทนให้เลือกสรรอีกด้วย
สำหรับในเมืองไทยเรา ตัวที่ฮอตฮิตที่สุดก็คือ ‘โลชั่น‘ หรือ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม ‘Daily Moisture‘ นั่นเอง แต่อย่างที่ทราบกันดีกว่า โลชั่นยอดฮิตของเค้ามีหลายตัวให้เลือกเยอะจริง ๆ ค่ะ ทั้งสีส้ม สีแดง สีเขียว สีฟ้า วันนี้ เราจึงตั้งใจมาเจาะลึกให้โดยเฉพาะเลยว่า แต่ละสี แต่ละสูตรนั้นมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน หรือเน้นแก้ปัญหาผิวเรื่องใดเป็นพิเศษ รับรองเลยว่า อ่านจบแล้ว หลายคนจะสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้แน่นอนค่ะ !
…..
ตารางสรุปข้อมูลครีมลดรอยแผลเป็นแบบรวบรัด
…..
เจาะลึก 7 สูตร โลชั่น JERGENS สูตรไหนดี จะขาวเนียน ผิวชุ่มชื้น หรือลดรอยแตก มาดูกัน
มาถึงส่วนที่หลายคนรอคอย วันนี้ เราจะมาช่วยแก้ปัญหาโลกแตกที่สาว ๆ ทั้งหลายเผชิญกันอยู่ ซึ่งก็คือ การตัดสินใจเลือกซื้อสูตรของ Jergens นั่นเอง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า แบรนด์นี้พัฒนามาหลายสูตรมาก ๆ เพื่อมาแก้ปัญหาผิวให้แต่ละคนได้ตรงจุด และสัญลักษณ์ที่เราจะสังเกตความแตกต่างได้ง่าย ๆ ของแต่ละสูตร ก็คือ แถบสีที่อยู่บนขวดนี่แหละค่ะ เรามาดูกันเลยว่าแต่ละสูตรหรือแต่ละสีที่เราเรียกกันนั้น ตัวไหนมีความพิเศษยังไงบ้าง และตัวไหนที่ใช่สำหรับเราที่สุด !
…..
▼▼ JERGENS Ultra Healing Extra Dry Skin Moisturizer ▲▲
….
….
ตัวแรกที่ขอแนะนำก่อนเพื่อนเลย คือ สูตร Ultra Healing หรือ รุ่นสีส้ม นี่เองค่ะ ตัวนี้ถือว่าเป็นสูตรยอดนิยมเลยก็ว่าได้ มีจุดเด่นอันดับหนึ่งเลย คือ เรื่องความชุ่มชื้น เพราะเป็นสูตรสำหรับคนที่มีผิวแห้งมากถึงแห้งขั้นสุด ด้วยส่วนผสมหลักจาก Vitamin C, E และ B5 ที่จัดว่าเป็นตัวช่วยเรื่องการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดการเกิดของเม็ดสี และปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย แม้จะไม่ได้ทำให้สีผิวขาวขึ้น แต่โดยรวมแล้ว ผิวดูสุขภาพดีขึ้นแน่นอน
สูตรนี้มีเนื้อโลชั่นที่เข้มข้นจึงช่วยฟื้นฟูเรื่องความแห้งกร้านได้ดีเป็นพิเศษ หลายคนที่ใช้รีวิวไว้ว่า เนื้อสัมผัสข้นก็จริง แต่ทาง่าย ไม่เหนอะหนะ ทาแล้วรู้สึกถึงความชุ่มชื่นในผิวได้แบบยาว ๆ ทั้งวัน ตอบโจทย์คนทำงานในห้องแอร์ได้ดี หรือทาก่อนเข้านอนก็ยิ่งเพอร์เฟกต์ หน้าหนาวก็เอาอยู่ค่ะ อีกหนึ่งข้อดีที่เสียงส่วนใหญ่ชื่นชอบ คือ เรื่องกลิ่น เพราะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบให้ความรู้สึกเฟรช สะอาด สดชื่น ไม่แรงเกินไป ไม่เวียนหัวแน่นอน ส่วนในเรื่องความกระชับหรือจุดด่างดำ ตัวนี้อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่นะคะ
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Vitamin C/ Vitamin E/ Vitamin B5/ Glycerin/ Panthenol |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/ลดความหยาบกร้าน |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง – แห้งมาก |
…..
▼▼ JERGENS Soothing Aloe Refreshing Moisturizer ▲▲
….
….
สำหรับสูตร Soothing Aloe หรือรุ่นสีเขียว ก็ยังคงจุดเด่นของแบรนด์เช่นกัน คือ เรื่องของความชุ่มชื้น แต่อาจจะไม่เข้มข้นเท่ารุ่นสีส้ม เพราะเป็นสูตรสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง จึงใช้งานง่ายกว่า เพราะเนื้อโลชั่นมีความข้นเหลวแบบกำลังพอดี ซึมไว เหมาะกับคนที่ต้องการผิวที่ชุ่มชื้นในระดับนึงให้ดูมีสุขภาพดี อิ่มน้ำ ไม่ดูแห้งแตกระแหง สามารถทาตอนเช้าก่อนออกจากบ้านได้เลย ไม่เหนียวตัวหรือดูเหนอะหนะแน่นอน แม้ในช่วงอากาศร้อนก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ในกลุ่มคนที่ผิวแห้งมากถึงมากที่สุด รุ่นนี้อาจจะเอาไม่อยู่ค่ะ
ความพิเศษอีกด้านของสูตรสีเขียวนี้ที่ถูกใจสาว ๆ จำนวนมากก็คือ ข้อดีในเรื่องการปรับผิวให้ดูสว่างและกระจ่างใสขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Hydralucence Technology ของแบรนด์ และส่วนผสมสำคัญจากสารสกัดจากแตงกวา ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นสูงแล้ว ยังเป็นตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำให้หลุดลอกเร็วขึ้น ความคล้ำจึงลดลงและสีผิวขาวสว่างสดใสขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้เข้ามาช่วยบำรุงฟื้นฟูเซลล์ผิว พร้อม ๆ กับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้อีกด้วย
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Cucumber Extract/ Aloe Barbadensis Leaf Juice Powder/ Glycerin/ Vegetable Oil/ Eucalyptus Globulus Leaf Extract |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/ให้ผิวขาวกระจ่างใส |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา – ผิวแห้ง |
…..
▼▼ JERGENS Age Defying Multi-Vitamin Moisturizer ▲▲
….
….
มาต่อกันที่สูตร Age Defying หรือรุ่นสีแดงนั่นเอง ตัวนี้เป็นสูตรที่เหมาะกับสาว ๆ ที่ย่างเข้าสู่วัยที่ริ้วรอยกำลังมาเยือนหรือใครก็ตามที่มีความกังวลในเรื่องริ้วรอยเป็นพิเศษ เพราะมีส่วนผสมหลักจาก Vitamin A ซึ่งเป็นสารยอดฮิตในผลิตภัณฑ์ Anti-Aging เลย ด้วยความสามารถในการต่อต้านริ้วรอยและช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมด้วย Vitamin C มาเป็นตัวช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่หมองคล้ำหรือแห้งเสีย ให้ผิวสว่างใส ดูไบร์ทขึ้นอีกด้วยค่ะ
และที่ขาดไม่ได้ คือ ส่วนผสมในเรื่องให้ความชุ่มชื้น ซึ่งตัวนี้ก็เข้มข้นด้วย Vitamin E จึงช่วยเคลือบผิวได้ยาวนาน ไม่ให้รู้สึกแห้งตึง หลายคนติดใจในเรื่องของกลิ่นที่ให้ความหอมแบบอ่อน ๆ ไม่แรงไป ไม่เวียนหัว ส่วนในเรื่องของเนื้อสัมผัสนั้นก็เป็นอีกรุ่นที่มีเนื้อเข้มข้น แม้จะไม่เท่าสูตรสีส้ม แต่จะหนักกว่าสูตรสีเขียว อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องออกแดดหรือทาในตอนเช้าเท่าไหร่นัก จะตอบโจทย์คนที่ทำงานในห้องแอร์ทั้งวันหรือทาก่อนนอนมากกว่า เพราะหลายคนการันตีว่า ให้ผิวนุ่มเนียนขึ้นได้จริงและเรื่องความแห้งกร้านเอาอยู่แน่นอน
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Vitamin A/ Vitamin C/ Vitamin E/ Glycerin/ Mineral Oil |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/ลดริ้วรอย/ชะลอริ้วรอย |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา – ผิวแห้ง |
…..
▼▼ JERGENS Overnight Repair Nightly Restoring Moisturizer ▲▲
….
….
สำหรับ Overnight Repair รุ่นสีม่วงนี้ อ่านแค่ชื่อคงจะเดาออกกันเลยว่าเป็นสูตรสำหรับบำรุงข้ามวันข้ามคืน ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียจากทั้งการโดนแสงแดดและมลภาวะมากมายในแต่ละวัน เรียกว่า เป็นการบำรุงผิวให้ในขณะที่เราหลับนั่นเองค่ะ ส่วนผสมตัวเด่นของรุ่นนี้ คือ สารสกัดจาก Evening Primrose ที่เต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการสูญเสียน้ำในชั้นผิว และให้ความชุ่มชื้น ถือเป็นตัวที่ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำแบบฉ่ำ ๆ เมื่อตื่นนอนเลยก็ว่าได้
ความโดดเด่นเพิ่มเติมก็คือ มีสารสกัด Black Currant ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบของผิว พร้อมทั้งปรับสภาพในชั้นผิว และอีกตัวคือ สารสกัดจาก Acerola ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่ง Vitamin C แบบเข้มข้น จึงให้ผิวที่กระจ่างสดใสขึ้น ลดการเกิดเม็ดสีที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้ดีเลยทีเดียว ในเรื่องของเนื้อสัมผัส หลายเสียงบอกเลยว่าเนื้อหนืดและเข้มข้นมาก ๆ จะให้ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ หนักผิวพอสมควรเลย จึงเป็นสูตรที่เหมาะกับใช้กลางคืนโดยเฉพาะ แต่เรื่องความชุ่มชื้นตอบโจทย์ได้อย่างเห็นผลแน่นอนค่ะ
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Evening Primrose Flower Extract/ Black Currant Fruit Extract/Acerola Fruit Extract/ Jasmine Flower Extract/ Shea Butter/ Glycerin |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/ฟื้นฟูซ่อมแซมผิว/ให้ผิวกระจ่างใส |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวธรรมดา – ผิวแห้ง |
…..
▼▼ JERGENS Skin Firming Toning Moisturizer ▲▲
….
….
นอกจากเรื่องริ้วรอยและความหมองคล้ำ JERGENS ก็ยังมีสูตรเฉพาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับ เริ่มหย่อนคล้อย และมีแนวโน้มทำให้เกิดการสะสมของเซลลูไลท์ตามมาได้ ซึ่งก็คือ รุ่นสีน้ำเงินหรือสูตร Skin Firming นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สูตรนี้ก็ยังคง Concept ของแบรนด์ในเรื่องประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้นได้ดีเช่นเดียวกับตัวอื่น ๆ ด้วยส่วนผสมของ Vitamin E และสารสกัดจากมะพร้าวทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดความแห้งแตกของผิวได้ดีในระดับนึงเลย แม้หลายคนอาจจะบอกว่ายังเป็นรองตัวอื่นอยู่ในเรื่องความชุ่มชื้น
มาถึงจุดเด่นของสูตรนี้ คือ ส่วนผสมของคอลลาเจนและอิลาสติน ที่เป็นตัวช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เริ่มจะหย่อนแล้วให้มีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น ผิวกลับมาอิ่มฟูมากขึ้น แนวโน้มการเกิดของเซลลูไลท์ตามส่วนต่าง ๆ จึงลดลงตามไปด้วย ซึ่งหลายคนแนะนำว่าให้เน้นทาพร้อมนวดไปด้วยตามบริเวณต้นขา สะโพก หรือต้นแขน เพื่อจะได้ตอบโจทย์เรื่องปัญหาเซลลูไลท์ได้ตรงจุด ส่วนเนื้อสัมผัสตัวนี้ก็จะค่อนข้างหนักและเข้มข้นประมาณนึงเลย จะเหมาะทาก่อนนอนมากกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องขอเกริ่นทิ้งท้ายไว้สักหน่อยว่า ปัญหาเรื่องผิวกระชับนั้นจะต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเห็นผล หากใครเล็งสูตรนี้ไว้ก็อย่าลืมว่า ต้องใช้แบบต่อเนื่องและทาสม่ำเสมอทุกวันนะคะ
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Hydrolized Collagen/Hydrolized Elastin/ Vitamin E/ Coconut Water/ Centella Asiatica Extract |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/กระชับผิว/ลดการเกิดเซลลูไลท์ |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง/ผิวที่มีปัญหาหย่อนคล้อย หรือมีแนวโน้มการเกิดเซลลูไลท์ |
…..
▼▼ JERGENS Shea Butter Deep Conditioning Moisturizer ▲▲
….
….
อีกหนึ่งสูตรที่เข้มข้นมาก ตอบโจทย์ในเรื่องความชุ่มชื้นได้แบบเน้น ๆ ก็คือ สูตร Shea Butter หรือรุ่นสีน้ำตาลนี่เอง ซึ่งส่วนผสมหลักนั้นก็ตามชื่อสูตรเป๊ะเลยค่ะ Shea Butter ซึ่งเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่อุดมด้วยวิตามินมากมายและให้ความชุ่มชื้นสูงมาก แก้ปัญหาผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอกหรือเป็นขุยได้จากอากาศเย็น ๆ หรือผิวที่โดนน้ำบ่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี เสริมด้วยส่วนผสมของสารสกัด Mango Seed ที่เป็นตัวช่วยลดการสูญเสียน้ำในชั้นผิว และเติมความชุ่มชื้นได้ดีเช่นกัน
แต่ความพิเศษเพิ่มเติมของสูตรนี้ คือ ช่วยลดความหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ รวมถึงส่วนผสมของ Cocoa Butter ที่ช่วยปรับสีผิวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวด้วย นอกจากนี้ สูตรนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นที่ให้ความหอมออกแนวหวาน ๆ เหมือนขนมและกลิ่นติดผิวได้ค่อนข้างดี ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ โดยส่วนใหญ่ ยกเว้นคนที่ชอบแนวผ่อนคลาย อโรมาอาจจะไม่ถูกใจ ในเรื่องของเนื้อสัมผัส หลายคนติงในเรื่องของความเหนียวหลังทาและซึมยากกว่ารุ่นอื่นค่ะ
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Shea Butter/ Mango Seed Extract/ Cocoa Butter/Glycerin |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/ลดความหมองคล้ำ |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง |
…..
▼▼ JERGENS Daily Moisture Dry Skin Moisturizer ▲▲
….
….
มาถึงตัวสุดท้าย แต่ไม่ท้ายที่สุด เพราะเป็นสูตรที่ออกมาสำหรับสาวผิวแห้งแต่ไม่ชอบโลชั่นเนื้อหนักหรือเข้มข้นเกินไป ถือว่าที่มีเนื้อสัมผัสเบากว่าสูตรอื่น ๆ แต่ยังคงให้ความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน จึงหยิบมาทาได้เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะทาในตอนเช้า ก่อนนอน หรือแม้แต่ช่วงระหว่างวันสำหรับคนที่อยู่ห้องแอร์ตลอดเวลาก็ย่อมได้ มาพร้อมส่วนผสมเด่น ๆ จาก Silk Proteins หรือ โปรตีนไหม ที่ดูดซึมน้ำให้เซลล์ผิวได้ดี ทำให้ผิวชุ่มชื้
อีกหนึ่งข้อดีของสูตรนี้ คือ ช่วยปรับผิวให้ดูไบรท์ มีออร่ากระจ่างใสขึ้น ด้วยส่วนผสมสำคัญจากสารสกัด Citrus และ สารสกัดจากน้ำสับประรดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนความหมองคล้ำได้ดีมาก ในเรื่องของกลิ่น เสียงส่วนใหญ่ถูกใจในกลิ่นหอมแบบผ่อนคลาย แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ติว่ากลิ่นแรงเกินไป หลายคนที่ใช้ต่อเนื่องก็เห็นผลในเรื่องผิวนุ่ม เรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม สาวที่ผิวแห้งมากถึงแห้งพิเศษ รุ่นนี้จะยังให้ความชุ่มชื้นไม่เต็มที่ อาจจะต้องยืนหนึ่งที่สูตรสีส้มในตำนานค่ะ
ราคา | 95 / 160 / 230 / 295 / 295 บาท |
ขนาด | 100 / 250/ 400 / 650 / 813 ml |
ราคาเปรียบเทียบต่อหน่วย | 0.95 / 0.64 / 0.58 / 0.45 / 0.36 บาท ต่อ 1 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Citrus Fruit Extract/ Pineapple Fruit Juice/ Silk Proteins/Glycerin/ Mineral Oil |
คุณสมบัติเด่น | ให้ความชุ่มชื้นสูง/ลดความหมองคล้ำ |
มีกลิ่นหอม | ✓ |
เหมาะสำหรับ | ผิวแห้ง |
…..
เคล็ดลับการเลือกโลชั่น Jergens
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ Jergens จะได้ชื่อว่าเป็นโลชั่นระดับเทพในการบำรุงผิวก็จริง แต่หากเราเลือกสูตรที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองมาใช้งานล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรค่ะ ดังนั้น ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับแต่ละสูตรของ Jergens แบบละเอียด เราขอแนะนำเคล็ดลับการเลือกโลชั่นที่เหมาะสมให้เป็นความรู้เบื้องต้นไว้ก่อนเลยค่ะ
…..
1. เลือกสูตร Jergens ที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง
หลักการง่าย ๆ ข้อแรกเลย คือ เลือกจาก ‘สภาพผิว’ ของตัวเอง เพราะสภาพผิวที่ต่างกัน ก็จะต้องได้รับการบำรุงที่ต่างกัน เช่น คนผิวแห้งก็จะต้องการโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นสูงกว่าคนผิวมัน ตัวโลชั่นที่เหมาะกับคนผิวแห้งนั้นจึงต้องมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าเพื่อให้การบำรุงอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าคนที่ผิวมันไปเลือกใช้สูตรของคนผิวแห้ง อาจจะรู้สึกเหนอะหนะ ผิวมันยิ่งกว่าเดิม หรืออาจไปอุดตันรูขุมขนได้
ในทางกลับกัน หากคนที่มีผิวแห้งถึงแห้งพิเศษไปเลือกสูตรสำหรับคนผิวมันหรือผิวธรรมดา ก็อาจไม่ได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ปัญหาความแห้งกร้าน ผิวแตกเป็นขุยก็อาจจะแก้ไม่ได้ หรืออาจจะใช้เวลานานมากกว่าเห็นผลนั่นเองค่ะ ส่วนสาว ๆ ผู้โชคดีที่มีสภาพผิวธรรมดา ก็คงไม่ต้องพิถีพิถันในการเลือกสูตรมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงต้องเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองด้วย อย่างเช่น ถ้าคุณต้องออกกลางแจ้งเป็นประจำ หรือเจอสภาพอากาศร้อน ๆ ในแต่ละวัน ก็ไม่ควรเลือกใช้สูตรสำหรับผิวแห้งเพื่อทาในตอนเช้า เพราะจะทำให้เกิดความมัน ไม่สบายตัวในระหว่างวันได้ เป็นต้น
…..
2. เลือกโลชั่น Jergens จากกลิ่นและเนื้อสัมผัส
ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทไหน จะทาหน้าหรือทาตัว สิ่งสำคัญที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ก็คือ ความสม่ำเสมอในการใช้งานค่ะ เพราะถึงแม้เราจะซื้อโลชั่นที่มีราคาแพง หรือเลือกสูตรยอดฮิตแค่ไหน แต่หากไม่มีการทาบำรุงเป็นประจำและต่อเนื่องทุกวัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งปัจจัยหลัก ๆ ที่มีผลต่อการใช้งานด้วยนั้นก็คือ ‘กลิ่น’ และ ‘เนื้อสัมผัส’ ที่ถูกใจนั่นเอง
การที่ได้ใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอมถูกใจ ก็จะช่วยดึงดูดใจให้เราขยันทามากขึ้น เพราะจะได้ทั้งความสดชื่น ผ่อนคลายก่อนนอน และหากทาในตอนเช้า ก็จะทำให้ผิวมีกลิ่นหอมติดตัวตลอดวันด้วย อย่างไรก็ตาม กลิ่นที่ถูกใจเรา ก็ไม่ได้ความว่าจะเป็นกลิ่นที่คนอื่น ๆ ชื่นชอบเสมอไป ฉะนั้น ถ้าต้องการโลชั่นกลิ่นหอมไว้ทาในตอนเช้าก่อนไปทำงาน หรือต้องใช้งานรถสาธารณะ แนะนำว่าไม่ควรเลือกกลิ่นที่แรงเกินไป เพราะอาจจะไปรบกวนคนรอบข้างได้เช่นกันค่ะ
ในส่วนของเนื้อสัมผัส ก็จะมีหลักการคล้าย ๆ กับเรื่องของสภาพผิวที่ได้กล่าวไปแล้วว่า คนที่มีสภาพผิวมันควรจะมองหาเนื้อโลชั่นแบบบางเบา ไม่เข้มข้น เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความมัน เหนียวตัว และเกิดการอุดตันรูขุมขนได้ง่าย ส่วนคนที่มีผิวแห้ง-แห้งมาก ก็ให้เน้นโลชั่นเนื้อเข้มข้น เพราะจะช่วยเคลือบผิวและเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่า
…..
3. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ถึงแม้ส่วนผสมในโลชั่นแต่ละตัวจะได้รับการคัดสรรมาแล้วว่าช่วยบำรุงและแก้ปัญหาผิวไหนเรื่องต่าง ๆ ได้ดี แต่ใช่ว่าทุกส่วนผสมจะมีความอ่อนโยนต่อผิวเหมือนกันหมด เราขอแนะนำให้สาว ๆ ทุกคนลองตรวจสอบส่วนผสมของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเช็กให้แน่ใจก่อนว่า ในโลชั่นตัวนั้นมีสารใดที่อาจก็ให้เกิดการแพ้หรือไม่ แม้ว่าจะเป็นสารธรรมชาติจำพวกสมุนไพรก็ตาม รวมไปถึงพวกน้ำหอม ชนิดของแอลกอฮอล์ หรือสารกันเสียประเภทต่าง ๆ ที่อาจก็ให้เกิดการระคายเคืองได้
หากเป็นไปได้ ควรไปทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ตามร้านค้าที่มีสินค้าทดลองดูก่อน หรือลองอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ดูก่อนว่า ในหมู่คนที่ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้โลชั่นตัวนั้น ๆ ได้หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยที่สุดของผิวเราเองค่ะ
…..
สุดท้ายแล้วส่งท้ายกันด้วย
ภารกิจเจาะลึกโลชั่นยอดฮิต Jergens ของเราวันนี้ก็เสร็จสิ้นกันแล้ว หวังว่าสาว ๆ ทุกคนที่รักการดูแลผิวคงจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกสูตรที่เหมาะสมกับตัวเองกันไปไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิว เลือกกลิ่นและเนื้อโลชั่นที่ถูกใจกันไปแล้ว ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า ! ความขยันในการบำรุงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ เพราะต่อให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมากแค่ไหนมาใช้ แต่ความถี่ในการทานั้นน้อยนิด ผิวของเราก็ยากที่จะฟื้นฟูได้ตามผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยเฉพาะในเรื่องของริ้วรอยและความหมองคล้ำ เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาแก้ไขพอสมควรเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องงบประมาณด้วยที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เพราะการบำรุงผิว ไม่ว่าจะผิวหน้าหรือผิวกาย ก็ควรใช้ลิตภัณฑ์บำรุงอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลเช่นกัน ซึ่ง Jergens ก็ยังจัดว่าเป็นโลชั่นที่ราคาสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด ฉะนั้น หากคุณไม่พร้อมในเรื่องค่าใช้จ่ายก็ควรมองหาโลชั่นตัวอื่นมาใช้ โดยคุณสามารถมองหาส่วนผสมที่คล้าย ๆ กันไว้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อได้เช่นกันค่ะ